Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
T
The life of monk
•
ติดตาม
6 ม.ค. 2020 เวลา 23:00 • ประวัติศาสตร์
ชีวิตพระ
ตอนที่ ๓๘ วาระสุดท้ายของพระโกกาลิกะ
กิเลสตระกูลโทสะ ยังบังคับพระโกกาลิกะต่อไป นอกจากโกรธพระเทวทัตแล้ว ยังโกรธใครอีก ก็โกรธพระอัครสาวกทั้งสอง ที่ทำให้ความหวังของตัวเองต้องพังทลายไป
แต่พระโกกาลิกะไม่อาจจะไปทำร้ายร่างกายพระอัครสาวกทั้งสองได้ เพราะท่านทั้งสองมีอานุภาพมาก วิธีที่จะทำร้ายท่านได้ ก็คือ ใช้คำพูดว่าร้ายให้ท่านเสียหาย ในเมื่อไหนๆ จะว่าร้ายท่านแล้ว ก็ไปว่าร้ายท่านให้พระพุทธองค์ได้ยินไปเลย ซึ่งเป็นการตำหนิพระพุทธองค์ทางอ้อมไปด้วย ว่าทำไมไม่ดูแลอบรมสั่งสอนพระอัครสาวกทั้งสองให้ดี
กิเลสตระกูลโทสะ ก็เลยบังคับพระโกกาลิกะเลย บังคับให้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แล้วบอกกับพระพุทธองค์ว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นผู้มีความปรารถนาลามก (หมายถึงคิดชั่ว) ลุอำนาจแห่งความปรารถนาลามก”
พระผู้มีพระภาคก็ตรัสว่า
“ดูกรโกกาลิกะ เธออย่ากล่าวอย่างนั้น เธออย่ากล่าวอย่างนั้นเธอจงยังจิตให้เสื่อมใสในสารีบุตรและโมคคัลลานะเถิด เพราะสารีบุตรและโมคคัลลานะเป็นผู้มีศีลเป็นที่รัก ฯ”
เป็นธรรมเนียมในยุคนั้น ถ้าใครจะยืนยันความคิดอะไรของตนเองต้องพูดถึง ๓ ครั้ง พระโกกาลิกะ จึงพูดเหมือนเดิมอีก ๒ ครั้ง พระพุทธองค์ก็ตรัสตอบเหมือนเดิมอีก ๒ ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำให้พระโกกาลิกะกลับใจได้
กิเลสตระกูลโทสะ สามารถบังคับให้พระโกกาลิกะ ทำกรรมชั่วได้อีกครั้ง
แต่ก็ยังดี ที่พระโกกาลิกะ ยังกราบถวายบังคม แล้วทำประทักษิณ (เดินรอบพระพุทธองค์โดยหันข้างขวาให้ตามเข็มนาฬิกา เป็นอาการแสดงออกถึงความเคารพในยุคนั้น) พระพุทธองค์ก่อนที่จะกลับไปที่อยู่ตน
ถ้าใครได้ติดตามอ่านเรื่องราวของพระเทวทัตมาตั้งแต่ตอนที่ ๓ จนถึงพระโกกาลิกะ ในตอนนี้ ก็จะพบว่า “กิเลส” ในใจมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย สามารถบังคับให้มนุษย์สร้างกรรมชั่วได้แม้ว่าจะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคอยสอนให้ปราบกิเลสอยู่ก็ตาม ยิ่งขณะนี้พระพุทธองค์ก็เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว กิเลสก็ยิ่งบังคับมนุษย์ให้สร้างกรรมชั่วได้มากขึ้น เพราะไม่มีพระพุทธเจ้ามาคอยขัดขวางการทำงานของเขาแล้ว
ดังนั้น เราจึงไม่ควรประมาท ใช้ชีวิตแต่เรื่องการทำมาหากินอย่างเดียว ควรขวนขวายในการศึกษาธรรมะบ้าง เพราะชีวิตหลังความตายมีอยู่ และยาวนานกว่าในโลกมนุษย์นี้มากมายนัก ไม่ได้ดำรงอยู่ด้วยการทำมาหากินแบบโลกมนุษย์ อยู่ได้ด้วยบุญกับบาปที่เคยทำมา หากบาปมากก็ทุกข์ยาวนาน หากบุญมากสุขก็สุขยาวนานเหมือนกัน
เมื่อพระโกกาลิกะ ทำกรรมชั่ว คือ พูดให้ร้ายพระอัครสาวกทั้งสอง ต่อพระพักตร์ของพระพุทธองค์ ตามการบังคับของกิเลสตระกูลโทสะแล้ว ก็เกิดวิบากที่เป็นทุกข์ตามมา ซึ่งก็คือ “กฎแห่งกรรม” อย่างที่ชาวพุทธทุกคนคุ้นหู
หลังจากพระโกกาลิกะกลับไปถึงที่อยู่ของตน ร่างกายก็เกิดเป็นตุ่มเล็กๆ เต็มตัว แล้วค่อยๆ โตขึ้น ๆ จนแตก ทั้งเลือดทั้งหนองไหลเยิ้มออกจากตุ่มที่แตกนั้น
เรื่องนี้พออธิบายทางการแพทย์ได้เหมือนกัน เมื่อเราโกรธ ร่างกายจะผลิตสารพิษขึ้นมา บางผลงานวิจัยบอกว่า โกรธแค่ ๒ นาที ร่างกายต้องใช้เวลาในการขับสารพิษนั้นถึง ๖ ชั่วโมง
นี่พระโกกาลิกะ โกรธแค้นพระอัครสาวกทั้งสอง ข้ามวันข้ามคืน ร่างกายก็คงเต็มไปด้วยสารพิษ สารพิษนั้นก็ปนไปกับกระแสเลือด ทำให้เกิดการพุพองของผิวหนัง
พระโกกาลิกะ ต้องนอนนอนบนใบตองอย่างทุกข์ทรมาน ไม่นานก็มรณภาพ ไปเกิดในมหานรก ทุกข์ทรมานอยู่ในนั้นอีกยาวนาน
จบเรื่องพระโกกาลิกะไปแล้ว คราวนี้เราย้อนกลับมาดูเรื่องราวของพระเทวทัตต่อ หลังจากกระอักเลือดแล้ว (ตอนที่ ๓๗) ก็หมดสิ้นเรี่ยวแรง กายเป็นผู้ป่วยติดเตียง อยู่ ๙ เดือน
ในช่วง ๙ เดือนที่พระเทวทัตป่วย นครราชคฤห์ น่าจะสงบนะ แต่ไม่เลย เพราะผลงานที่พระเจ้าอชาตศัตรูได้ปลงพระชนม์พระบิดาตัวเองนั้น เริ่มมาส่งผล เพราะขณะนี้ กองทัพของแคว้นโกศลที่นำโดยพระเจ้าปเสนทิ (ตอนที่ ๒๒) ได้ยกทัพเข้ามาประชิดชายแดนแล้ว ... จบตอนที่ ๓๘
บันทึก
39
16
12
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ชีวิตพระ ภาค ๑ ตอนที่ ๑ - ๕๐
39
16
12
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย