7 ม.ค. 2020 เวลา 00:46 • ข่าว
ของขัวญปีใหม่‼️
“ภาษีที่ดินใหม่” เริ่มใช้จริง ปี 2563
สำหรับอภิมหาเศรษฐีเท่านั้น
กฎหมายภาษีที่ดินฉบับใหม่นี้มีจุดประสงค์หลักก็เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเป็นสำคัญ
ท่านอภิทั้งหลายจะได้เลิกถือครองที่ดินเพื่อเก็งกำไรในอนาคตซะที แต่เข้าใจว่าขนหน้าแข้งท่านยังอยู่ที่เดิมค่ะ
ฉบับย่อ
กฏหมายภาษีที่ดินใหม่แบ่งออกเป็น 4 ประเภท เพื่อการเกษตรกรรม อยู่อาศัย พาณิชยกรรม และที่ดินรกร้าง
กฏหมายภาษีใหม่นี้ผลักดันให้เกิดการสร้างประโยชน์ในที่ดิน และพื้นที่ดินที่ไม่เกิดประโยชน์จะเสียภาษีในอัตราที่ค่อนข้างสูง อาจเกิดแรงขายที่ดินเปล่าในตลาด และอาจเกิด Over Supply ในกลุ่มอสังหา
ใครมีที่ดินเปล่าควรพัฒนาที่ดินของตัวไม่ว่าจะเป็นสร้างบ้านหรือทำเป็นพื้นที่การเกษตรเพื่อไม่ให้เข้าข่ายเป็นพื้นที่รกร้างและเสียภาษีสูง
ใครที่มีบ้านหลายหลังควรจัดการบริหารให้ดี เพราะมีสิทธิยกเว้นภาษีสำหรับบ้านหลังแรกหรือบ้านที่เราอาศัย
ภาษีที่ดินใหม่ เริ่มใช้จริง วันที่ 1 มกราคม 2563 โดยจะต้องดำเนินการชำระให้เสร็จสิ้นภายใน สิงหาคม 2563
แล้ว “ภาษีที่ดินใหม่” มีอะไรบ้าง ?
ภาษีที่ดินแบบใหม่นั้น แบ่งประเภทที่ดินที่ต้องเสียภาษีไว้ 4 รายการ ดังนี้
1.ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม
2.ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย
3.ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม
4.ที่ดินรกร้างว่างเปล่า
กฏหมายภาษีที่ดินนี้จะกระทบอะไรบ้าง ?
เนื่องจากที่ดินรกร้างนั้นถูกเก็บภาษีในอัตราที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ทำให้เจ้าของที่ดินทั้งหลายไม่อยากถือครองเพราะมีต้นทุนที่สูงขึ้นมาก ดังนั้นกฏหมายภาษีนี้อาจทำให้เกิดแรงขายที่ดินมากขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่วนบริษัทอสังหาหรือผู้พัฒนาที่ดินก็ต้องรีบสร้างและพัฒนาที่ดินให้เร็วขึ้นเพื่อให้ที่ดินผืนนั้นๆเกิดประโยชน์และเสียภาษีน้อยลง เรียกว่าเป็นการผลักดันให้ใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์ทางอ้อมจากภาครัฐเนี้ยแหละ
แต่การผลักดันทางอ้อมแบบนี้ก็มีเรื่องที่ต้องระวังอยู่เหมือนกัน คือ เมื่อเกิดการสร้างพัฒนาอสังหาขึ้นพร้อมๆกัน อาจกระทบให้เกิด Over Supply ในตลาดขึ้นได้ แล้วอีกประเด็นที่หลายๆคนเป็นห่วงกัน คือ..
สำหรับคนที่มีบ้านหลายหลังควรทำอย่างไร ?
เนื่องจากบ้านและที่ดินนั้นมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คงไม่แปลกถ้าหากเรามีเงินแล้วเราจะเก็บความมั่งคั่งของเราไว้ในรูปแบบบ้านและที่ดิน แต่ถ้าเรามีบ้านและที่ดินเยอะควรทำอย่างไร?
1.โอนบ้านเป็นชื่อทายาทหรือลูกหลาน – หากเราอยากมอบเป็นมรดกให้ลูกของเราอยู่แล้ว การโอนบ้านเป็นชื่อลูกนั้น จะได้รับสิทธิบ้านหลังแรก ซึ่งยกเว้นภาษี 50 ล้าน
2.ย้ายชื่อไปอยู่บ้านที่แพงที่สุด – บ้านหลังแรกหรือบ้านที่เราอยู่จะยกเว้นภาษี 50 ล้าน ดังนั้นการที่เราเลือกให้ชื่อที่เราอยู่ในบ้านหลังที่แพงที่สุดก็จะช่วยประหยัดภาษีได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
แล้วถ้ามีที่ดินเปล่าควรทำอย่างไร ?
เนื่องจากรัฐสนับสนุนให้เพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินไม่ปล่อยให้รกร้าง จึงเก็บภาษีที่ดินเปล่าด้วย ซึ่งหากยังปล่อยรกร้างต่อก็จะโดนอัตราภาษีที่สูงขึ้น ดังนั้นเราจึงควรสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินที่เรามี ไม่ว่าจะเป็น..
1.แบ่งแปลงที่ดินให้เล็กลง – เพราะภาษีนั้นคิดเป็นแบบขั้นบันได ยิ่งแปลนที่ดินใหญ่ก็จะยิ่งเสียภาษีเยอะ ดังนั้นการที่เราแบ่งแปลนที่ดินเป็นหลายๆแปลงจะทำให้ราคาประเมินถูกลง ก็จะเสียภาษีน้อยลง
2.แปลงที่ดินรกร้างเป็นที่ดินเกษตรกรรม – การแปลงที่ดินเปล่าเป็นพื้นที่เกษตรกรรม นอกจากจะทำให้เสียภาษีน้อยลงแล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้อีกทางด้วย แต่ที่ดินบางที่ก็อาจจะไม่เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม เช่น ภูมิประเทศ พื้นที่ในเมือง หรืออาจจะติดด้วยข้อกำหนดบางอย่างอาจทำให้
3.สร้างบ้านในที่ดินที่มี – ถ้าเรามีที่ดินแปลงใหญ่ซึ่งอาจจะเสียภาษีในฐานที่สูง อาจจะเลือกที่จะสร้างบ้านไว้ในที่ดินนั้น ก็จะทำให้เสียภาษีน้อยลงมาได้เพราะกลายเป็นที่ดินเพื่ออยู่อาศัยทันที
ถือว่าเป็นกฏหมายภาษีที่มีผลต่อการปรับเปลี่ยนตลาดที่ดินและอสังหาฯเป็นอย่างมาก เพราะนอกจะเก็บภาษีเพื่อให้รัฐได้มีเงินไปพัฒนาประเทศต่อแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดินรกร้างที่ถูกปล่อยทิ้งไว้มานาน ให้เกิดการสร้างประโยชน์การแข่งขัน และช่วยเพิ่มการจ้างงานทางอ้อมไปอีกด้วย และยังเป็นส่วนช่วยให้ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา