16 ม.ค. 2020 เวลา 05:15 • การศึกษา
#เกร็ดความรู้ Libra
ทำไม Facebook พึ่งจะมาออก Libra เอาตอนนี้??
จริง ๆ แล้วมันก็มีอีกสาเหตุหนึ่งครับ ที่ทำให้ Facebook ออก Libra ในตอนนี้
เพราะต้องการ เพิ่มผู้ใช้งาน!!
แต่เฮีย มาร์ค แกไม่เพิ่มเปล่า ๆ หรอก แกต้องทำเพื่อโลกด้วย
ตอนนี้ประชากรโลกมี 8 พันล้านคน
ใช้เฟสบุ๊คไปแล้ว 2 พันล้านคน
คิดเป็น 25% เป็นที่เรียบร้อย
คำถามคือ Facebook เปิดมา 10 ปี แล้วจะเพิ่มจำนวนผู้ใช้ได้ยังไง ให้มากกว่านี้??
cr. pixabay
เฮีย มาร์ค คงไปนั่งคิด นอนคิด ตะแคงคิดมาแล้ว
ผลที่ได้ก็คือ ต้องเข้าถึงคนที่ไม่มี internet ให้มากกว่านี้
แล้วจะทำยังไงหละ??
ประชากรที่เข้าไม่ถึง internet ส่วนมากอยู่ใน ประเทศ กำลังพัฒนา และประเทศด้อยพัฒนา
มองไปมองมาประเทศไหนหว่า กำลังพัฒนา มา 60 กว่าปีละ
หวยก็มาตก โซน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และก็ทวีปแอฟฟาริกา นี่แหละครับ ที่มีประชากรประเภทนี้
แต่คนอ่านก็คงจะงง กันสินะครับว่า ทำไม Facebook ที่ต้องใช้ internet ถึงมองหาลูกค้าที่ไม่ใช้ internet ย้อนแย้งสุด ๆ
ผมบอกเลยครับว่า เพราะความย้อนแย้งนี่แหละ คือ การตั้งคำถามที่กระตุ้น ไอเดียเลยแหละ
คำถามถูกตั้งขึ้นมาว่า ทำยังไงให้คนที่ไม่มี internet ใช้ Facebook??
ยากใช่ไหมครับ โจทย์แบบนี้
เฮียมาร์ค แกเลยเดินเกมส์ 2 ทางครับ
ทางแรกคือ มีเฮียแก กับ อีลอนมัส แลก็ กูเกิ้ล นี่แหละ จะสร้าง Internet ฟรี ให้คนทั้งโลกใช้ โดย Balloon ดาวเทียมต่าง ๆ ที่จะปล่อยสัญญาณ ทั่วโลก
cr. istock
เมื่อคนใช้ internet ได้ฟรีแล้ว ทำไมเขาต้องใช้ Facebook ด้วยหละ app อื่นมีตั้งเยอะ
ถูกต้องเลยครับ แต่มันมีสิ่งพื้นฐาน อยู่สิ่งหนึ่ง ที่ไม่ว่าคน ทุกประเภท จำเป็นต้องใช้
นั่นคือ พื้นฐานด้านการเงิน
เขาจึงคิด Libra มาตอบโจทย์นี้ ทำให้คน ที่เข้าไม่ถึง แม้กระทั่ง กลุ่มที่ Bank ไม่ต้องการ ก็สามารถใช้ Libra ได้
ในโลกนี้มีประชากร เกือบ สองพันล้านคน ที่ Bank ไม่ได้รองรับพวกเขา เพราะการคงอยู่ของบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหว มันเป็นภาระค่าใช้จ่ายมากเกินไป
และนอกจากนี้ คนกลุ่มนี้นี่แหละ ที่ อยากได้ อยากมีเงิน แต่ไม่มีโอกาส แบบนั้น เพราะ Bank ไม่สนใจปล่อยกู้ให้
นี่แหละครับจึงเรียกว่าเป็นขุมทองแห่งใหม่ ที่จะเพิ่ม User ให้กับ Facebook ได้
และอีกข้อนั่นก็คือ มาร์ค ไม่อยากให้ระบบ Blockchain มัน เป็นที่ยอมรับมากขึ้น และใช้กันอย่างวงกว้าง
(เรื่องนี้เราจะไปพูดกันในหัวข้อต่อไปนะครับ ^^)
สิ่งเหล่านี้ เรียกว่าข้อสันนิษฐาน ที่พอ ฟัง ๆ มา ก็มาจับเชื่อมโยงกัน
ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ใช้ วิจารณญาณ เอาเองนะครับบ
ขอแถมด้วย ความรู้เสริมเกี่ยวกับ Libra
1. Libra สามารถเพิ่มพันธมิตรได้
อย่างที่บอกไปว่า Libra มีพันธมิตร รวมกันแล้ว 27 บริษัท รวมถึง Facebook เองด้วย ทุกคนมี 1 สิทธิหนึ่งเสียง ในการช่วยกันแก้ไข และปรับปรุงสกุลเงินนี้ รวมถึง นำเงิน Libra ไปใช้ประโยชน์ได้ด้วย
แต่ 27 แห่งนี่มันยังน้อยไปครับ เพราะ แผนของ Facebook นั้นมองไว้ถึง 100 บริษัทเลยทีเดียว แต่บอกเลยว่าการจะไปเป็น พาร์ทเนอร์ ของ Libra นี้ไม่ง่ายครับ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1.1 จ่ายมาก่อน 10 ล้านดอลล่าสหรัฐ!! ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง เพราะอย่างที่บอกไปว่า ทุก ๆ การออก 1 Libra นั้นจะต้องมี สกุลเงินอื่นมา Back up ซึ่งการมมี คนนำเงินทุนมาเพิ่ม ก็จะทำให้มีเหรียญ Libra ในระบบได้เยอะมากขึ้นนั่นเอง
1.2 ต้องเข้าข่าย 2 ใน 3 ข้อนี้
- มีมูลค่าบริษัทเกินพันล้านดอลลาร์
- ผู้ใช้เกิน 20 ล้านคน
- เป็นแบรนด์ระดับ 100 แบรนด์แรกของโลกในการจัดอันดับรายใหญ่
เรียกว่าถึงจะอยากได้พาร์ทเนอร์ แต่ก็เลือกนะจ๊ะ รวยอย่างเดียวเข้ามาไม่ได้นะ ต้องใหญ่ด้วย ไม่ใช่ใหญ่ ธรรมดา ใหญ่มากกกกกกกกกกกกกกกก
ซึ่งถ้าถามว่า ลงทุนไปก่อน 10 ล้านจะคุ้มไหม??
บอกได้เลยว่า คุ้มครับ ถ้า สกุลเงินนี้ปังจริง!! จากการคาดการณ์ผลตอบแทน คาดว่าจะคูณ 10 ถึง 100 เท่าเลยทีเดียว
2. Libra เป็นภัยต่อระบบการเงินโลก
ข้อนี้เรียกว่า เป็นทั้งจุดเด่นและก็จุดด้อยของ Libra เลยแหละครับ
ลองคิดดูนะครับว่า ทุกคนสามารถโอนเงินไปต่างประเทศได้ โดยไม่ต้อง แสดงเอกสารอะไรเลย มันจะเป็นยังไง??
แน่นอนครับว่า มันควบคุมไม่ได้!!! อันนี้คือปัจจัยหลัก ที่เป็นข้อดี และก็ข้อเสียของ Libra
คือคนทุกคนสะดวก เพราะสามารถโอนเงินได้ทันที ไม่ต้องมายื่นเอกสารให้ยุ่งยาก
แต่การโอนแบบลอย ๆ นั่นก็ อาจเป็นที่มาของการฟอกเงิน และเป็นช่องทางของมิจฉาชีพได้เป็นอย่างดี
และพอเป็นแบบ บุคคล การควบคุมก็ยิ่งยาก เงินบางประเทศจะไหลออกมากกว่าไหลเข้า จนอาจจะกลายเป็นภาวะ ขับขันเลยก็ได้
3. Libra เป็นตัวเต็ง ของการ Disruption ธนาคาร
อันนี้เป็นประเด็นที่น่าจะใหญ่ที่สุดของ Libra เลยก็ว่าได้ และเป็นประเด็นที่หลาย ๆ ประเทศ ค่อนข้างจับตามองเป็นพิเศษ เพราะการทำธุรกรรมของ Libra นั้น ถ้ามันง่าย และเร็วจนเกินไป ต่อไป ธนาคารก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป ลองคิดเล่น ๆ ว่า มี ธนาคารทั่วโลก เจ๊ง จากผลกระทบของ Libra สัก 10-20 แห่งพร้อม ๆ กัน ระบบการเงินของโลกเราจะเป็นยังไง??
4. สิ่งที่ libra ยังขาดคือ ความเชื่อถือ
cr. pixabay
สิ่งนี้หลาย ๆคนยังตั้งข้อสงสัย ว่า Libra ปลอดภัยแค่ไหน ขนาด Facebook คนออกหน้า ยังโดน Hack ข้อมูลมาแล้ว และคราวนี้มันเป็นถึงสกุลเงิน จะไว้ใจได้ขนาดนั้นเลยหรอ??
ความจริงเรื่องการ Hack อันนี้ควรเบาใจได้นะครับ เพราะมันค่อนข้างยากมาก ๆ ด้วยการที่เป็นระบบ Blockchain แต่เรื่องข้อมูลส่วนตัว อันนี้ ทาง Facebook บอกว่า Calibra ที่เป็นแอพสำหรับใช้จ่าย libra นั้น จะไม่มีการส่งข้อมูลระหว่างกันกับ Facebook เพื่อให้คนใช้งานวางใจ
แต่เชื่อเถอะครับว่า แค่นี้ก็ยังยากอยู่ดี ที่จะดึงความเชื่อมั่นของคนให้เห็นด้วยไปกับ Libra ง่าย ๆ ทุกสิ่ง ทุกอย่างต้อง อยู่ที่ผลลัพธ์ล้วน ๆ ว่าถ้ามัน ดีและปลอดภัยจริง ถึงจะดึงความเชื่อมั่นของคนให้ไปใช้ได้
แต่ถ้ามันยังก้ำกึ่ง และยังไม่ตอบโจทย์ในอีกหลาย ๆข้อที่ผมได้ว่าไปนี้ มันก็คงจะไม่ง่ายนักที่ จะสั่นคลอน ระบบการเงินของโลกใบนี้
สำหรับตอนนี้ถือเป็นตอน พิเศษ 2.5 ก่อนไปเข้า Blockchain ถ้าใครรออยู่ก็อดทนรอหน่อยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา