17 ม.ค. 2020 เวลา 15:04 • สุขภาพ
ผู้หญิง...อย่าหยุดสวย EP 1: เรื่องของสิว...ที่หนักอกหนักใจ (ตอนที่ 1)
เคยมั้ย??? ที่ไม่ว่าจะทำอย่างไรสิว...ก็ไม่หายขาดสักที
ทั้งทายา กินยา ทำเลเซอร์ สิวหายไปสักพัก เด๋วอีกแปบสิวก็ขึ้นอีกละ
ซ้ำร้าย...บางคนยิ่งพยายามรักษา สิวก็ไม่หาย
แต่ยิ่งกลับทำให้หน้าระคายเคือง บอบบางแพ้ง่ายขึ้นอีก
ทาอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ บนหน้าก็แสบ แดง คันไปหมด 🥺
..... เพราะสิ่งที่เราลืมนึกและได้มองข้ามอยู่เสมอ.....
ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว นั่นก็คือ "ตัวเราเอง"
สาเหตุของการเกิดสิวที่เกิดจากตัวเราเอง เช่น
1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- ฮอร์โมน androgen (มีระดับสูงในช่วงวัยรุ่น โดยเฉพาะเพศชาย) เป็นฮอร์โมนหลักที่พบว่า สามารถไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้นและสร้างไขมันออกมาที่ผิวมากขึ้น
- ฮอร์โมน progesterone ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงระยะก่อนมีประจำเดือน ทำให้มีการบวมของรูขุมขนและการคั่งของน้ำในร่างกาย
ภาพจาก https://bit.ly/35ZdFNL
ซึ่งผลของการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนี้ อาจจะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน เกิดเป็นสิวอุดตันและกลายเป็นสิวอักเสบได้ในที่สุด
2. เชื้อแบคทีเรีย P. Acne
เมื่อผิวของเราเสียสมดุล (Skin Barrier อ่อนแอ่ ทำให้การหลุดลอกของผิวหนังผิดปกติ) มารวมกับการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย P. Acne จึงทำให้เกิดสิวตามมา
3. ชั้นผิวหน้าเสียหาย
หรือ สกิน แบร์ริเออร์ ถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวมีทางเข้าให้กับเชื้อแบคทีเรีย P. Acne
ภาพซ้าย คือ ผิวที่สุขภาพ และ ภาพขวา คือ ผิวที่ชั้นผิวหน้าเสียหาย
โดยพฤติกรรมของเราที่ส่งผลให้ชั้นผิวเสียหาย เช่น
- ตากแดดจัด
- ล้างหน้าบ่อย
- สครับขัดผิวบ่อย
- ใช้กรด AHA/BHA ที่มีปริมาณความเข้มข้นสูงและบ่อยครั้ง เพราะอยากให้หน้าขาวใสไร้สิว
4. การอุดตันของรูขุมขน เช่น
- ล้างเครื่องสำอางไม่หมด (รวมถึงครีมกันแดดด้วยนะคะ)
- การใช้เครื่องสำอางที่มีสารทำให้อุดตันรูขุมขน
- อายุที่มากขึ้นเซลล์ผิวผลัดได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น (โดยทั่วไปผิวที่แข็งแรงจะผลัดเซลล์ผิวทุกๆ 28 วัน)
5. ความไม่สะอาดของสิ่งของเครื่องใช้ที่มาสัมผัสกับใบหน้า เช่น
- โทรศัพท์มือถือ
- อุปกรณ์แต่งหน้า
- ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน
- หน้ากากอนามัยที่ใส่ซ้ำ ๆ กันหลายวัน
รู้หรือไม่?? มือถือของเราเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคและแบคทีเรียที่เยอะเป็นอันดับต้นๆ ของสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวของเรา ดังนั้น เราควรทำความสะอาดมือถือทุกวัน (ที่มาของภาพ https://bit.ly/2R26Y9k)
6. ผลิตภัณฑ์แต่งผม
เช่น แชมพู ครีมนวดผม ลีฟออนใส่ผม สเปรย์ แว๊กซ์ บางชนิด
ภาพจาก https://bit.ly/2ttsQBx
7. ความเครียด
การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการนอนที่ไม่มีคุณภาพ (เช่น นอนกรน) สามารถกระตุ้นฮอร์โมนที่ทำให้เป็นสิวได้
1
8. การสูบบุหรี่
หรือการเป็นผู้สูบบุหรี่มือ 2 (ไม่ได้สูบ...แต่ไปยืนอยู่ข้างคนสูบ) อาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดสิว โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุมาก
9. การขับถ่ายในแต่ละวัน
ส่วนมากผู้ที่มีปัญหาสิวจะขับถ่ายไม่ค่อยสะดวก มักท้องผูกเป็นประจำ
10. สิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเรา
เช่น ฝุ่นละอองหรือที่กำลังที่ฮิตในช่วงนี้ก็คือ PM 2.5 และมลภาวะอื่นๆ เช่น แสงแดด น้ำ มีส่วนทำให้เกิดสิวได้
11. อาหารและเครื่องดื่มบางชนิด
อาจไม่ใช่สาเหตุโดยตรง แต่มีงานวิจัยหลาย ๆ ฉบับ พบว่า อาหารที่ทำมาจากนมวัว เช่น นมพร่องมันเนย (skim milk) และ อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง เช่น ของหวาน ช็อคโกแลต ชานมไข่มุก อาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ หากรับประทานแล้ว สังเกตว่าสิวเป็นเยอะขึ้น ควรหลีกเลี่ยงนะคะ
12. กรรมพันธุ์
หากมีพ่อแม่ที่เป็นสิว เรามีโอกาสที่จะเป็นสิว หรือมีแนวโน้มเป็นสิวในระดับที่รุนแรงได้ ซึ่งสาเหตุนี้ดาวเอาไว้ข้อสุดท้าย เพราะเป็นอะไรที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
1
แต่ถ้าเราหลีกเลี่ยงสาเหตุที่อาจจะทำให้เกิดสิวแล้ว แต่ก็ยังมีสิวอยู่
เราไม่ควรแกะบีบหรือกดสิวเองนะคะ เพราะจะทำให้ผิวรอบๆ บอบช้ำ ทิ้งรอยแดงหรือรอยดำไว้บนผิวหน้า หรืออาจจะอักเสบมากกว่าเดิม ซึ่งจะเพิ่มโอกาสทำให้เกิดแผลเป็นหรือหลุมสิว หรือรอยสิวอาจจะอยู่บนใบหน้าของเราได้นานกว่าปกติ
...สำหรับคนที่รักษาสิวด้วยตนเอง...
หากเราได้ดูแลตัวเองและทายาเป็นอย่างดีแล้ว แต่สิวก็ขึ้นเอาขี้นเอา
เม็ดใหญ่ อักเสบเป็นหนอง นับไปนับมาเกิน 10 เม็ด ที่สำคัญสิวไม่ยุบสักที
ดาวแนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังที่ รพ. หรือคลินิคที่น่าเชื่อถือ เพื่อปรึกษาและทำการรักษาสิวให้ถูกต้องนะคะ เพราะว่า???
1. สิวที่เราเห็น อาจจะไม่ใช่โรคสิวก็ได้ (อาจจะเป็นโรคผิวหนังอื่นๆ เช่น เซ็บเดิร์ม หรือ โรซาเซียแบบที่ดาวเป็น)
2. ยิ่งเริ่มการรักษาสิวช้า สิวนั้นก็จะยิ่งรักษาได้ยากขึ้น และที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการรักษาหลุมสิว แพงกว่า!!! รักษาสิวมากด้วยค่ะ
.... สำหรับคนที่เริ่มเป็นสิว แต่ไม่รู้จะดูแลตนเองอย่างไรดี...
รอติดตามบทความถัดไปกับ ผู้หญิง...อย่าหยุดสวย EP 2: เรื่องของสิว...ที่หนักอกหนักใจ (ตอนที่ 2) นะคะ 😉

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา