22 ม.ค. 2020 เวลา 10:57 • สุขภาพ
🚑 ไปโรงพยาบาลในประกันสังคมไม่ทัน ให้เข้า รพ รัฐ
1
⛔ พี่ ๆ เพื่อน ๆ คงได้ยินข่าวว่า
1
ไปโรงพยาบาลในประกันสังคมไม่ทัน ให้เข้า รพ รัฐ
⛔ ข่าวสะเทือนใน ปี 2562
💢 ตัวอย่างข่าวดังที่เป็นเรื่องฉุกเฉินในปีที่แล้วลูกสาวพาแม่ไป รพ. คนไข้เสียชีวิตเนื่องจากถูกน้ำกรดราด และพยายาลแนะนำให้ไปใช้สิทธิ์โรงพยาบาลอื่น
💢 และข่าวเด็ก ๆ ที่ถูกช่วยชีวิตไม่ทันในหลายกรณี
และหากเป็นตัวเราเอง ที่เกิดเจ็บป่วย โดยเฉพาะผู้ที่มีสิทธิรักษากับประกันสังคมเองแล้ว หากเป็นอาการป่วยฉุกเฉินที่เข้าโรงพยาบาลที่อยู่ในสิทธิ์ประกันสังคมได้ไม่ทัน ให้พยายามเลือกโรงพยาบาลรัฐครับ เพราะจะเบิกได้ 100% ไม่ค่อยมีข้อยกเว้น
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ก็เลือกเอา
แต่หากเป็นการเจ็บป่วยที่ยังไม่ถือว่าฉุกเฉินมาก แล้วดันไปเข้า รพ. เอกชน จะเบิกค่ารักษาได้ประมาณ 1,000 บาท เท่านั้น ยกเว้นบางกรณีเท่านั้น และมียิบย่อยไปอีก
กรณีผู้ป่วยนอก
 
▶ สามารถเบิกค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินครั้งละ 1,000 บาท
▶ สามารถเบิกค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงเกินครั้งละ 1,000 บาท ได้หากมีการตรวจรักษาตามรายการในประกาศ ดังนี้
▶ การให้เลือดหรือส่วนประกอบของเลือด การฉีดสารต่อต้านพิษจากเชื้อบาดทะยัก
▶ การฉีดวัคซีนหรือเซรุ่มป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเฉพาะเข็มแรก การตรวจอัลตร้า ซาวด์
▶ กรณีที่มีภาวะฉุกเฉินเฉียบพลันในช่องท้อง การตรวจด้วย CT - SCAN หรือ MRI กจ่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด การขูดมดลูก
▶ กรณีตกเลือดหลังคลอดหรือตกเลือดจากการแท้งบุตร ค่าฟื้นคืนชีพและกรณีที่มีการสังเกตอาการในห้องสังเกตอาการตั้งแต่ 3 ชั่วโมงขึ้นไป
กรณีผู้ป่วยใน
 
▶ ค่ารักษาพยาบาล กรณีที่ไม่ได้รักษาในห้อง ICU เบิกได้ไม่เกินวันละ 2,000 บาท
▶ ค่าห้องและค่าอาหารไม่เกินวันละ 700 บาท
▶ ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาลกรณีที่รักษาในห้อง ICU เบิกได้ไม่เกินวันละ 4,500 บาท
▶กรณีที่มีความจำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ เบิกได้ไม่เกินครั้งละ 8,000 - 16,000 บาท ตาม ระยะเวลาการผ่าตัด
▶ การฟื้นคืนชีพรวมค่ายาและอุปกรณ์ไม่เกิน 4,000 บาท
▶ ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และหรือเอกซเรย์ เบิกได้ในวงเงินไม่เกินรายละ 1,000 บาท
▶ กรณี มีความจำเป็นต้องตรวจวินิจฉัยพิเศษ ได้แก่ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง การตรวจคลื่นสมอง การตรวจอัลตร้าซาวด์ การสวนเส้นเลือดหัวใจ และเอกซเรย์ การส่องกล้อง การตรวจด้วยการฉีดสี การตรวจด้วย CT - SCAN หรือ MRI จ่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด
แต่หากเป็นคุณผู้หญิงต้องคลอดก่อน ไปได้ทุกโรงพยาบาล
จากประกันสังคม sso.go.th
17 อาการที่เรียกว่าป่วยฉุกเฉินแล้วแหละ
>> 17 อาการที่เรียกว่าป่วยฉุกเฉินแล้วแหละ << (ที่มา https://www.sso.go.th/wpr/assets/upload/files_storage/sso_th/07327dcea5b7cb3d970b017055bfc578.pdf)
1. ไม่หายใจ ไม่มีชีพจร
2. เสียหายใจดัง Stridor ศัพท์การแพทย์เรียกว่า Airway Obstruction
3. หายใจผิดปกติ ลุกนนั่งต้องพิง
4. มีชีพจรทีอาจนำไปสู่การช็อก หรือประกอบด้วยอาการต่อไปนี้ 2 ข้อ ได้แก่ เหงื่อท่วมตัว, ซีด ผิวเย็น, หมดสติ/เกือบหมดสติเมื่อลุกนั่งหรือยืน, มีค่า SBP น้อยกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท ค่า MAP น้อยกว่า 65 มิลลิเมตรปรอท เป็นต้น
5. กำลังชักเมื่อถึงจุดคัดแยก
6. แพ้ยา มีผื่นร่วม หายใจติดขัด
7. ถูกสัตว์มีพิษกัด หรือถูกกัดในบริเวณสำคัญ (โดยเฉพาะงู)
8. เจ็บแน่นหน้าอก มีภาวะ STEMI
9. ผู้หญิงมีครรภ์ ใกล้คลอดหรือน้ำเดิน หรือมดลูกหดเกร็ง
10. หญิงตั้งครรภ์ที่กำลังชักจากสภาวะ Eclampsia
11. แขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยวครึ่งซีก
12. ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ในอวัยวะที่สำคัญ
13. มีอาการไหม้ ลวก จากความร้อนหรือสารเคมี หรือกระแสไฟฟ้า
14. จมน้ำ หรือบาดเจ็บทางน้ำ
15 หกล้ม พลัดตกจากที่สูง บาดเจ็บในส่วนระบบประสาทหรือหลอดเลือดสำคัญ
16. อุบัติเหตุจากยานยนต์
17. อื่น ๆ ให้แพทย์ฉุกเฉินพิจารณา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา