27 ม.ค. 2020 เวลา 10:17 • ความคิดเห็น
MovieTalk ดีต่อใจถ้าใครรักงานเขียน:
โรงเรียนเพาะบ่มนักเขียน
(ผ่าน 5.1K ผู้ติดตาม)
Blockdit เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิ์เป็นนักเขียนได้อย่างอิสระ ภายใต้กฎระเบียบบางประการเพื่อความเหมาะสม และยังให้โอกาสสร้างรายได้จากงานเขียนได้อีกด้วย
Blockdit จึงเปรียบเสมือน
“โรงเรียนเพาะบ่มนักเขียน”
หลายคนก้าวเข้ามาด้วยความ ‘รักที่เขียน’
และอีกหลายคนก้าวเข้ามาด้วยความคิด ‘เขียนแล้วมีค่าตอบแทน’
ประการหลังนี่ล่ะ ที่ทำให้หลายคนต้องถอดใจ และหยุดเส้นทางการเป็นนักเขียน
ผมไม่ได้ว่ามันเป็นวิธีคิดที่ผิด แต่อยากให้ทุกคนทำความเข้าใจว่า มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยกับใครหลายคนที่คิดจะเขียนแล้วสร้างรายได้จากที่นี่ ถ้าคุณไม่มีฐานคนอ่านที่ ‘แน่น’ และ ‘กว้าง’ รวมไปถึงบทความของคุณที่ ‘โดนใจ’ ทุกครั้งที่ลง
ผมเองไม่ใช่นักเขียนที่ได้ ‘ดาว’ เป็นประจำ ออกจากนาน ๆ ครั้ง จะมีกับเขาสักดวงด้วยซ้ำไป แม้ว่าทุกวันนี้มีผู้ติดตามเกินหลักครึ่งหมื่นไปแล้ว แต่ถ้าดูตัวเลขคนอ่านจริง ๆ เพจ MovieTalk มีคนตามอ่านประจำอยู่ประมาณ 1-1.5K ถ้าไปดูคนแสดงความเห็นก็เจ้าประจำนั่นล่ะครับ ตามอ่านตามเม้นท์กันทุกโพสต์ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไม่ได้ดาว
แต่ผมก็เขียนบทความของผมไปเรื่อย ๆ
ในขณะเดียวกันผมพยายามพัฒนาเพจของผมตลอดเวลา ใครมีโอกาสลองไปอ่านย้อนหลังจะเห็นความเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด
ซึ่งผมว่ามันดีสำหรับคนเขียน เพราะเราจะไม่เกิดอาการไอเดียตัน
และตัวเราเองก็ได้รีเฟรซความคิด วิธีเขียน ตลอดจนคอนเทนต์ได้ตลอดเวลา
สำหรับโพสต์นี้ผมตั้งใจนำประสบการณ์มาแชร์กับทุกท่านครับ
ผมขออนุญาตกล่าวถึงสถานที่ซึ่งเปิดโอกาสให้แก่ผมในเส้นทางนักเขียน ที่นั่นคือเว็ป OKNation ครับ
หลายคนที่ติดตามมาโดยตลอด ต่างก็ทราบอยู่แล้ว แต่หลายคนที่มาใหม่อาจจะยังไม่ทราบ
ผมจึงขออนุญาตเล่าซ้ำบางส่วนก่อนนะครับ
OKNation เป็นเว็ปไซต์ในเครือ Nation ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นเวทีให้แก่ทุกคนได้ทำหน้าที่ ‘นักข่าวอาสา’ ที่สามารถนำเสนอบทความหลากหลายแนว ตามความชอบ หรือความถนัดของตนเอง ภายใต้กรอบที่เหมาะสม ซึ่งใครที่สนใจต้องกรอกใบสมัครผ่านทางเว็ปไซต์ และรอการตอบรับจากแอดมิน เราเรียกแอดมินบริหารเว็ปไซต์ว่า “บก. หรือ บรรณาธิการ”
เมื่อ บก. อนุมัติ เราจะสามารถสร้างหน้าเพจของเราได้ เราเรียกว่า “บล็อก” หนึ่งคน สามารถเปิดได้ทั้งหมด 3 บล็อก
และเมื่อเราลงบทความ เราเรียกบทความว่า “โพสต์”
ส่วนพวกเราคนเขียน เราเรียกตัวเองว่า
“บล็อกเกอร์”
หยุดไว้ตรงนี้ก่อน คุณรู้สึกเกิดอาการ ‘เดจาวู’ คุ้น ๆ ไหม? มันคล้ายที่ BD อยู่มิใช่น้อย
ผมเริ่มต้นเส้นทางนักเขียน ด้วยการสมัครที่เว็ปไซต์ OKNation โดยกรอกใบสมัครผ่านทางเว็ปไซต์ หลังจากนั้นไม่กี่วันก็ได้รับการตอบรับจากบก. ผมจึงสามารถสร้างบล็อก และเขียนโพสต์ได้ ผมตั้งชื่อบล็อก และนามปากกาคือ
บล็อก “หนังเล่าเรื่อง” นามปากกา “คนคอหนัง”
บทความแรกที่ผมลงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2556 เป็นบทความรีวิวหนังเรื่อง Flight มีคนอ่านไม่มากครับ ปัจจุบันผมลบบทความนี้ออกไปแล้วจากบล็อกของผม และผมก็เริ่มเขียนรีวิวหนังนับตั้งแต่นั้นมา สลับกับเรื่องอื่น ๆ ตามเหตุการณ์บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เหตุบ้านการเมือง, การเงิน-การลงทุน แต่หลัก ๆ ก็คือเรื่องหนัง เพราะมันเป็น Passion ส่วนตัวที่ชอบและรักที่จะเขียน
ที่ OKNation ทุกคนเขียนฟรีครับ เราไม่มีรายได้จากตรงนี้ ดังนั้นทุกคนที่ก้าวเข้ามาต้องมีสิ่งที่เรียกว่า
“รักที่จะเขียน”
เพราะมันเขียนฟรีแต่แรก คนที่เข้ามาตรงนี้คือคนที่อยากเขียน อยากเล่า อะไรก็ตามให้คนอื่นได้อ่าน ได้รับรู้
ผมจึงถือว่า OKNation เป็นเสมือนบ้านที่ผมถือกำเนิด เป็นโรงเรียนเพาะบ่ม ไม่ใช่แค่การเป็นนักเขียน แต่ยังรวมไปถึงการเป็นนักข่าว-ช่างภาพอาสา เนื่องจากผมมักจะถ่ายรูป และนำเสนอข่าวเกี่ยวกับพระราชสำนักในช่วงพิธีการต่าง ๆ เป็นประจำ, งานอีเวนท์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Bike for Dad, Bike for Mom, อุ่นไอรัก คลายลมหนาว, งานจุดเทียนชัยถวายพระพรฯ ตลอดจนงาน
อีเวนท์ใหญ่ ๆ ของภาครัฐ, แนะนำ PR นิทรรศการหมุนเวียนของหอศิลป์ต่าง ๆ ในกรุงเทพ เป็นอีกหน้าที่หนึ่งซึ่งผมรู้สึกว่าได้มีโอกาสทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจนสังคมส่วนรวม ตามแนวทางที่เราถนัดครับ
ความภาคภูมิใจหนึ่งของผมคือ บทความ "คู่มือถวายสักการะเบื้องหน้าพระบรมศพฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9" ที่ผมลงข้อมูลไว้ครบทุกด้านสำหรับคนที่จะเดินทางมาสักการะ โดยรวบรวมข้อมูลจากทุกเว็ปไซต์ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 30 เว็ปไซต์ โดยเจตนารมณ์ของผมคือ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกนี้ ถ้าอ่านคู่มือนี้ คุณจะเดินทางมาและเข้ากราบสักการะพระองค์ได้อย่างแน่นอน
ผมใช้เวลาเรียนรู้ และสะสมประสบการณ์ที่ OKNation จนถึงวันที่เติบโตและก้าวออกมาจากบ้านหลังที่ผมกำเนิด ด้วยบทความทั้งหมด 3 บล็อก บทความ 710 เรื่อง ผ่านสายตาคนอ่านทั้งหมด 772,504 คน และในวันที่ 28 เมษายน 2562 ผมได้หยุดเขียนใน OKNation ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ผมเริ่มต้นก้าวออกมาจากบ้านหลังเดิม
สู่โลกใบใหม่ Blockdit
ดังนั้น สำหรับผม ‘ดาว’ จึงไม่ใช่ปัญหาต่อการเขียนของผม จะได้หรือไม่ คงไม่สำคัญเท่าไร เพราะผมเขียนแบบไม่ได้ค่าตอบแทนมานานร่วม 6 ปี
กลับมาที่ OKNation อีกครั้ง ที่บ้านหลังนี้มีบรรดานักเขียนรุ่นพี่ รุ่นใหญ่ ที่มีน้ำจิตน้ำใจต่อนักเขียนหน้าใหม่เสมอ ๆ หลายคนแวะเวียนมาแสดงความเห็นทุกครั้งที่ผมลงบทความ เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นักเขียนรุ่นใหม่ หลายคนกลายเป็นพี่สาว พี่ชาย ที่ผมเคารพนับถือ แม้จะไม่เคยพบหน้า และมีหลายคนที่มีโอกาสพบหน้าเช่นกัน
น้องเย็น ลูกสาวของผมครับ
บก.ที่นั่นคือ พี่ชาลี เป็นพี่ชายที่ผมเคารพ ในฐานะนักข่าว นักเขียน นักดูนก และนักสู้ชีวิตบนเส้นทางนักเขียน และนักข่าวอย่างแท้จริง
พี่สาวสุดสตรองอย่างพี่แม่หมี คุณแม่นักสู้ที่ต้องต่อสู้กับเซลมะเร็งในร่างกายอย่างหนักหนา และการสอนวิธีคิดดี ๆ ให้แก่ลูกชายที่เป็นเด็กพิเศษ จนลูกชายของพี่แม่หมีสามารถยืนหยัดด้วยตนเอง พร้อม ๆ กับทำงานเลี้ยงดูตนเอง และตอบแทนแม่ของตน ผมยกให้พี่แม่หมีคือ
คุณแม่ฟอร์เรสต์ กัมพ์ตัวจริงบนโลกใบนี้ครับ
ครูทิพย์ นักเขียนสายลุยสายฮา และเป็นกันเองกับทุก ๆ คน ครูผู้พร้อมจะให้กำลังใจ เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มให้กับเพื่อนร่วมบล็อก
พี่สิงห์ ผู้ชายที่จริงจัง หนักแน่น และชัดเจนในการนำเสนอบทความอันเป็นประโยชน์ ผู้เป็นแบบอย่างของความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ด้วยการปฏิบัติต่อนักเขียนรุ่นน้องด้วยไมตรีจิต และน้ำใจของรุ่นพี่ทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้คือแบบอย่างของผมในการเพาะบ่มทั้งงานเขียน และการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมบล็อก
และเมื่อถึงวันที่ผมก้าวเข้ามาในโลกของ Blockdit ผมก็เลือกจะเดินตามรอยรุ่นพี่เหล่านั้น ด้วยการสนับสนุนและสร้างกำลังใจให้แก่เพจน้องใหม่เสมอ ๆ เมื่อมีโอกาส
ที่บ้านหลังใหม่ Blockdit ผมก็ได้พบกับบรรดาผู้คน พลพรรคนักเขียนที่มีน้ำใจและไมตรีจิตไม่ต่างจากบ้านหลังเดิม
แต่ที่ต่างกันเมื่อมาถึงวันนี้ ผมไม่ใช่เพจน้องใหม่อีกต่อไปแล้ว (ส่วนจะไปอยู่รุ่นไหนก็แล้วแต่ครับ)
สิ่งที่ผมสามารถบอกกับเพจน้องใหม่ทุกคนก็คือ
ทุก ๆ วันที่คุณเขียน ทุก ๆ ครั้งที่คุณลงบทความ มันจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่คุณไม่รู้ตัวเสมอ
และการเปลี่ยนแปลงทีละนิด ทีละน้อย เมื่อเกิดขึ้นจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี มันจะค่อย ๆ หล่อหลอมตัวคุณ
เพจของคุณ
และบทความของคุณ
ไม่มีคำว่า “สูญเปล่า” ในการลงบทความของคุณ
เมื่อคุณมีคนติดตามครบ 500 คน...ผ่านหลักพัน...ได้ดาว... ขอให้คุณย้อนกลับไปดูบทความแรก ๆ วันแรก ๆ ความรู้สึกแรก ๆ ที่คุณลง
กับวันปัจจุบันที่คุณมาถึง
“คุณมาไกลจากเดิมมากแค่ไหน?”
และเมื่อคุณได้คำตอบ คุณจะเดินทางต่อไป
บนถนนเส้นนี้ ด้วยสัญชาตญาณที่จะนำทางคุณไปต่อ...ไปต่อ และไปต่อ...
คุณจะต้องไม่หยุดที่จะพัฒนาตนเอง
เพื่อตัวคุณเอง เพจของคุณ และแฟนเพจของคุณ
และอย่าลืมที่จะแบ่งปันไมตรีจิต และน้ำใจให้แก่เพจรุ่นน้องของคุณต่อไป
เพราะทุก ๆ วัน จะมีเพจน้องใหม่เกิดขึ้นเสมอ
และคุณจะกลายเป็นเพจรุ่นพี่ของพวกเขา
เพจน้องใหม่บางคนอาจยึดคุณเป็นแรงบันดาลใจ
"คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้าคุณเป็นแรงบันดาลใจของใครสักคน?"
ส่งต่อความรัก
ความห่วงใย
และความจริงใจให้เพจน้องใหม่
เช่นเดียวกับที่คุณเคยได้รับมาแล้ว
เพราะเขาในวันนี้ ก็คือคุณในวันวาน
วันที่คุณเคยต้องการกำลังใจ แรงสนับสนุน
จากเพจรุ่นพี่
เป็นคนรักที่เขียน และเขียนเพราะรัก
เป็นคนที่จะให้ และพร้อมที่จะรับ
แล้วคุณจะมีความสุขทุกครั้งที่เขียนบทความ
เพราะที่นี่ Blockdit คือ โรงเรียนเพาะบ่มนักเขียนของคนรักที่จะเขียนครับ
“กำลังใจสร้างได้ด้วยวิธีคิด”
เรื่อง & ภาพ: มูฟวี่
***นี่เป็นบทความที่ 350 พอดิบพอดี
ฉลองผ่านหลัก 5.1K ผู้ติดตาม
ที่ผมอยากมอบอะไรคืนกลับไปให้แก่
เพื่อนพ้องน้องพี่ชาว Blockdit ครับ
และกราบขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามเพจ MovieTalk ผมสัญญาว่าจะพัฒนาและนำสิ่งใหม่ ๆ มาสู่คนอ่านทุกคนเสมอครับ
***บทความชิ้นนี้ ผมขออนุญาตนำผลงานภาพถ่ายของตนเองมาลงเป็นภาพประกอบแทนนะครับ
โฆษณา