28 ม.ค. 2020 เวลา 04:50
อื่ม เอ่อ..
and the review goes to.. "ไทบ้าน x BNK48 - จากใจผู้สาวคนนี้"
สวัสดีครับโพสนี้จะมาระบายเอ้ยรีวิวหนังเรื่อง "ไทบ้าน x BNK48 - จากใจผู้สาวคนนี้" ที่เป็นการ crossover ระหว่างทีมไทบ้านเดอะซีรีส์กับน้อง ๆ BNK48 เข้าเรื่องย่อกันเลยอย่างรวดเร็ว
เรื่องย่อคือ BNK48 วงไอดอลเมืองไทยที่มีต้นแบบจากญี่ปุ่นตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลง ทางทีมบริหารเลยคิดไอเดียเอาวงไอดอลสไตล์ญี่ปุ่นมาทำเพลงแนวอิสานเพื่อกอบกู้กระแสของวงให้กลับมาอีกครั้ง ทำให้สาว ๆ วง BNK48 ต้องไปใช้ชีวิตในจังหวัดศรีษะเกษ บ้านเกิดของ "เจ๊ก้อง" (ก้อง-ห้วยไร่) ที่รับหน้าที่ดูแล project นี้ เพื่อเข้าถึงความเป็นอิสานอย่างลึกซึ้ง
ขอบอกก่อนว่าผมไม่เคยดูหนังซีรีส์ไทบ้านมาก่อนหน้านี้ แต่ได้ยินมาตลอดว่าหนังไทบ้านเนี่ยทำดีนะ รายได้ก็ดี แถมรับประกันความฮาแน่นอน ทำให้พอมารวมพลังกับ BNK48 ที่คนละแนวกันอย่างสิ้นเชิงแล้วทำให้มันน่าสนใจว่าหนังจะออกมาเป็นยังไง (ใช่ครับผมเป็นโอตะ)
ด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยม กะจะมาฮาและฟินในความน่ารักของน้อง ๆ ทำให้เมื่อดูจบ ก็ได้ฮาและได้ความน่ารักจากน้อง ๆ จริง ๆ ครับ คือมันได้แค่นั้นอะ ไม่ได้อะไรไปมากกว่านั้น (ฮา)
การแสดงของน้อง ๆ BNK48 นี่ไม่แย่เลยครับ อาจจะเพราะรับบทเป็นตัวเองด้วย แต่โดยรวมเป็นการแสดงที่ไม่ทำให้รู้สึกขัดใจ และก็น่ารักสดใสฟรุ้งฟริ้ง ถ้าให้คะแนนความน่ารักของน้อง ๆ ก็เอาไปเลยล้านเต็มสิบ ยิ่งฉากไหนที่ดูออกว่าขำนอกบทนี่จะยิ่งน่าร้ากกกก เข้าไปใหญ่ครับ
ทีนี้เนื้อเรื่องที่หวังว่าจะได้เสพของดีกลับเป็นอะไรที่อิหยังวะมาก เอาจริง ๆ ทุกอย่างแทบจะอยู่ในตัวอย่างหมดแล้ว แต่ละประเด็นของหนังมันเบาหวิวเหมือนผีจับยัด อยากจะให้บทเป็นยังไงก็เป็นไม่สมเหตุสมผล
ความดราม่าที่ควรจะเป็นตัวชูโรงยิ่งแย่หนักเข้าไปอีก แบบโกรธกันจะเป็นจะตายฉากต่อมาคุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือสร้างสตอรีไว้ในใจคนดูแล้วไม่เคลียร์ให้ รวมถึงฉากที่จะมีมาทำไมหรือมีมาเพื่อแค่เนี้ยะ ก็มีเหมือนกันในหนังเรื่องนี้
และที่สำคัญคือการเกลี่ยบทแย่มาก ถ้าตัวละครเยอะแบบ Avengers จะไม่ว่าเลย แต่นี่ใน 8 คนของน้อง ๆ BNK48 จะมีเด่นอยู่ 3 คนคือ เนย แก้ว โมบายล์ ซึ่งหากใครหวังจะไปดูโอชิตัวเองที่ไม่ใช่สามคนนี้ก็จะเหงา ๆ หน่อย คือทั้งเรื่องมีฉากเด่นให้คนละหนึ่งฉาก ที่เหลือคือตัวประกอบล้วน ๆ ไม่มีมิติของตัวละคร 5 คนที่เหลือโดยสิ้นเชิง
ข้อดีของหนังคือน้อง ๆ BNK48 น่ารักมากและความฮาของทีมไทบ้าน จ่าลอดนี่พูดประโยคไหนก็ฮา แต่ก็มีฉากจาง ๆ ตามประสาหนังตลก ข้อเสียคือเนื้อเรื่องไม่แข็งแรง เกลี่ยบทไม่ดี ไทม์ไลน์งง และหนังไปไม่สุดสักทางทำให้ไม่มีจุดเด่นของหนังเลย
การเอาน้อง ๆ BNK48 มาเพิ่มจุดเด่นของหนังมันยังไม่พอ ต่อให้เป็นโอตะแค่ไหนก็คงไม่หลับหูหลับตาดูหนังแย่ ๆ หลาย ๆ รอบ
รีวิวเรียบร้อยยย ต่อไปเป็นช่วงระบายความในใจครับ (ฮา)
==========
*****สปอย-รวมความอิหยังวะของไทบ้าน x BNK48*****
หลังจากนั่งทำใจให้สบายแล้วค่อย ๆ คิดอยู่สักพัก ทำให้ผมรวบรวมความอิหยังวะของหนังเรื่องนี้ได้ 7 ข้อ ลองมาอ่านกันว่าคิดเห็นเช่นไร
1. Porject ทำเพลงอิสาน โดดดิด่งที่หายไปกับสายลม - คือว่าในหนังเนี่ย ตอนแรกเจ๊ก้องจะพาทำเพลงโดดดิด่งจึงพาน้อง ๆ มาศรีสะเกษ แต่การทำเพลงโดดดิด่งในหนังนี่คือการทำแบบลวก ๆ เพราะเจ๊ก้องรีบทำรีบเอาเงินค่าจ้างไปจ่ายภาษีย้อนหลัง ทำให้งานโดดดิงด่ง (เอาไปเสนอจ๊อบซังที่ กทม.) เนี่ยเผามาก เลยได้กลับมาศรีสะเกษอีกรอบ
แล้วเหมือนจะเป็นการมาแก้เพลงโดดดิด่งนะ แต่ไม่เลย อยู่ ๆ เจ๊ก้องแต่งเพลง "จากใจผู้สาวคนนี้" ขึ้นมา แล้วก็ซ้อม ๆๆๆ จนได้อัด จนต่าง ๆ คำถามคือ โดดดิด่งหายไปไหน อยู่ ๆ ก็เลิกแล้วก็เปลี่ยนเพลงงี้เลยรึ
คือถ้าแบบว่ากลับมาศรีสะเกษรอบสองแล้วพยายามฝึกซ้อมจนลากเลือดแล้วสุดท้ายทำเพลงโดดดิด่งไม่ได้จนเจ๊ก้องแต่งเพลงใหม่ให้เป็นเพลงช้างี้ก็พอเข้าใจนะ แต่นี่กลับมาแล้วคือโดดดิด่งหายไปเลย เหมือนเกิดมาไม่เคยรู้จักกันสะงั้น
แถมเป็นเพลงโปรโมทหนังที่ไม่มีฉากไหนที่ช่วยดันเพลงเลย โดดดิด่งจึงกลายเป็นเพลงที่น่าสงสารสุด ๆ สำหรับหนังเรื่องนี้
น่าร้าก
2. แผนลับ Project สุดอิหยังวะ - เมื่อ BNK48 อยู่ในช่วงขาลง จึงอยากทำเพลงอิสานมากู้กระแส บวกกับเจ๊ก้องที่ร้อนเงิน ทำให้ทั้ง BNK48 และเจ๊ก้องมาทำงานร่วมกันได้ แต่เดี๋ยวก่อน เรามาทบทวนกันใหม่
วงขาลง ---> project ลับทำเพลงอิสาน ---> ความลับแตกเพราะบักมืดแอบถ่ายคลิปไปลงโซเชียล ---> ญี่ปุ่นห้ามทำ project นี้ต่อ
นั่นคือ project ลับเพลงอิสานที่ว่าเนี่ย ญี่ปุ่นก็ไม่รู้เหรอโว้ยยยย อ๊ากกกก มันเป็นไปได้ยังไงงงงง BNK48 ลงทุนสามล้านจ้างเจ๊ก้องให้ทำเพลง โดยที่ญี่ปุ่น (ที่มีอำนาจควบคุม) ไม่รู้เนี่ยนะ ละไปเข้าห้องอัดกันนู่นนี่นั่นเป็นเรื่องเป็นราว พอญี่ปุ่นรู้ปึ้บบอก หยุดทำมันขัดกับภาพลักษณ์ อ้าวมันได้เหรอ
คือเข้าใจว่า project ลับ แต่ลับยังไงก็คุยกับเขาก่อนเถ้อพ่อคุณเอ้ยยย กลายมาเป็นดราม่าเจ๊ก้องรู้ว่าเพลงไม่ได้ทำต่อในห้องอัด ยืนมองน้อง ๆ ร้องเพลงที่ไม่มีวันได้ใช้ ร้องไห้ฮือ ๆ แต่คนนั่งดูเนี่ยงง อิหยังวะสุด ๆ กันไปเลย
3. ดราม่าสุดบาง - ต่อเนื่องจาก project ล่ม จ่าลอดก็มาด่าบักมืด ว่ามึงทำงี้คิดว่ามึงเท่หลายบ่ (แอบถ่ายตอนซ้อมลงโซเชียล) "มึงบ่น่าเกิดมาเป็นน้องกูเลย" คำนี้แทงใจบักมืดสุด ๆ ถึงกับเข้าป่าไปต่อยต้นกล้วยยังกะปรมาจารย์ยิปมัน ทั้งต่อยทั้งร้อง ไม่รู้ว่าโกรธหรือรู้สึกผิด
สักพักตัดมาอีกฉาก ฉากที่เนยส่งบัตรคอนเสิร์ตให้จ่าลอด 2 ใบให้มากับบักมืด แล้วจ่าลอดกับบักมืดคุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แบบเอ๋า ไปคืนดีกันตอนไหน ที่โกรธกันเมื่อกี้มันรุนแรงมากนะเห้ย หรือว่าเปิดโหมดอภัยทานให้กันและกัน หรือยังไง นั่งรถไฟไปกรุงเทพนำกันเสย
4. ญี่ปุ่นจะเอายังไงกันแน่จ๊ะนายจ๋า - ในหนังคือคลิปหลุด --> ญี่ปุ่นห้ามทำ --> project ล่ม --> โมบายร้องเพลง (ที่ญี่ปุ่นห้ามทำ) ในตู้ปลา --> เนยไลฟ์อยู่โลกโซเชียลเลยได้ยิน --> โลกโซเชียลชอบ --> ญี่ปุ่นให้ทำต่อ (เอาละไง) --> ทำมาจนแล้วจนรอด อัพคลิปลงยูทูป กำลังจะขึ้นคอนไปแสดง --> ญี่ปุ่นโทรหาจ๊อบซังกลางคอนเสิร์ต บอกว่าห้ามร้องเพลงนี้บทเวที --> ...
คือ.. ต้องรู้สึกยังไงกับพล็อตแบบนี้ (ฮา) หรือผมจำเนื้อเรื่องส่วนไหนตกหล่นไปช่วยแจ้งทีนะครับ ตอนนั้นรู้สึกในหัวมันโล่งจริง ๆ
แต่น้อนๆ ยังคงน่ารัก
5. คำคมที่ยัดเข้ามาจนหลอนหู - ประโยค "อย่าให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงในใจของเรา" นี่แหละ ฟังทีแรกมันดีนะ แต่เป็นประโยคที่มาโคตรบ่อย เยอะจนล้น อะไรที่มันคม ๆ นี่หาฉากสวย ๆ ใส่ลงไปให้มันน่าจดจำสักครั้งสองครั้งจะทำให้เป็นประโยคที่ประทับใจกว่านี้ ในหนังนี่พอเจอสถานการณ์นิดหน่อยมาละ อย่าให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงในใจของเรา ฟังจนแบบ พอเถ้อ
6. ฉากนี้ส่วนตัวล้วน ๆ - ฉากที่ BNK48 ทะเลาะกับเจ๊ก้องเป็นฉากที่ผมหงุดหงิดมาก เจ๊ก้องตั้งใจจะถ่ายทอดเพลงนี้ให้และอยากให้เพลงออกมาดีที่สุด แต่ BNK48 ดันไม่ฟัง และทำเป็นเล่น ต่อล้อต่อเถียง จนทำให้เจ๊ก้องปรี้ดแตกและเดินหนีไป
ฉากนี้ถ่ายทอดความน่ารำคาญออกมาได้อย่างสุดซึ้ง ผมนั่งดูนี่รู้สึกรำคาญมาก ทำไมไม่ตั้งใจฟัง ตั้งใจซ้อม หรืออยากจะแสดงความเห็นทำไมไม่พูดดี ๆ พอทำทุกอย่างเหมือนเล่น ๆ ไปหมดคนสอนก็พลอยหมดกำลังใจ แถมหนังยังให้เจ๊ก้องเป็นฝ่ายมาขอโทษก่อนอีก ยิ่งทำให้เซ็งเข้าไปใหญ่
ผมไม่ได้ยกประเด็นอายุขึ้นมานะ แต่เป็นประเด็นเรื่องการทำงานและการประเมินสถานการณ์ หากรู้ตัวว่าตัวเองผิดก็ควรรีบไปขอโทษ (บทคือ BNK48 ก็รู้สึกว่าตัวเองผิด แต่สุดท้ายเจ้ก้องมาขอโทษก่อน) นี่เจ๊ก้องมาขอโทษแล้วยังจะเก๊กใส่อีก (แบบหยอก ๆ) ทำให้กลายเป็นฉากคืนดีที่ดูแล้วโคตรจะหงุดหงิด
7. และนี่คือความสุดยอดของความงง หลังจากโปรเจคล่ม BNK48 แยกย้ายกันไปที่ต่าง ๆ เนยไปเที่ยวประเทศ CG น้ำใสเก็บใบชา ไข่มุกอยู่บ้านทำเบเกอรี ที่เหลือนั่งกินชาบูกัน จ๊อบซังแต่งงาน
ทีนี้ Project กลับมาทำได้อีกครั้ง (!?) แล้วก็กลับมารวมตัวเป็น BNK48 คือ คือ คืออะไรวะ ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ ช่วงที่แยกย้ายกันในหนังเหมือนเร่งเวลาไปข้างหน้า ทำให้ไม่รู้ว่าตอนนี้แต่ละคนอยู่ในฐานะอะไร (นึกว่าพากันไปทำอาชีพอื่นแล้ว) ทีนี้พอบทจะกลับก็กลับ แล้วก็มาเข้าล็อคร้องเพลงบนคอนเสิร์ตไม่ได้ ละก็จบ .... คือ เอ่อ ฮ่า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ งงโว้ยยยย ใส่ฉากนี้มาทำไมเนี่ยยย
==========
สรุปว่า ไทบ้าน x BNK48 เป็นหนังที่ดูเอาฮาได้แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก น้อง ๆ BNK48 น่ารักมาก แต่หนังไปไม่สุดสักทาง ใครหวังมาเสพดราม่าหรือฮากรามค้างต้องเตรียมใจไว้หน่อยนึง
ฝากติดตามเพจ and the review goes to ด้วยนะครับ รักทุกคนนะ คิคิ
สำหรับใครที่ติดตามก็ขอบคุณมากเลยนะครับ ว่าง ๆ ก็แวะมาอ่านกันเด้อ อิ้อิ้
โฆษณา