29 ม.ค. 2020 เวลา 09:31 • ปรัชญา
คุณเคยเสียใจถึงเหตุการณ์ในอดีตจนอยากเปลี่ยนตัวเองบ้างรึเปล่าครับ?
เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Transformer (2007)
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด สิ่งที่สำคัญคือการยอมรับความผิดพลาดและเรียนรู้จากมัน มนุษย์เราเป็นเครื่องจักรเก็บความรู้สึกครับ (นี่คือข้อสรุปของผมหลังจากที่ทำงานบำบัดจิตใต้สำนึกและปมชีวิตในอดีต)
มนุษย์เรานั้นเกิดมาไม่มีใครเป็นคนไม่ดีครับ There is no bad person. But there're persons who gone bad. เราจะไม่ตัดสินคนที่เราคิดว่าเค้าเป็นคนไม่ดี เพราะลึกๆแล้วทุกคนรู้ดีว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นดีหรือไม่ดี มันมีเพียงสถานการณ์และเงื่อนไขชีวิตเท่านั้นที่ต้องถูกทำความเข้าใจใหม่ และเพลงนี้เป็นตัวอย่างที่ดีครับ
ภาพยนตร์เรื่อง Transformers ปี 2007
เพลงนี้เป็นเพลงเก่าครับ ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Transformers ซึ่งน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักภาพยนตร์เรื่องนี้ และเพลงนี้ก็ดังมากๆ ซึ่งมีแปลกันเยอะแล้วในหลายๆเวป แต่น้อยคนนัก ที่จะรู้ว่าเพลงนี้ยังเป็นเพลงที่ somehow สามารถบำบัดตัวตนของเราได้อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว (แม้จะพรีเซนท์ออกมาในรูปของ alternative rock ก็เถอะ) ซึ่งไม่มีใครพูดถึงเพลงนี้ในประเด็นนี้เลย
เพลงนี้เป็นการบำบัดตัวตนของตัวเองครับ เนื้อเพลงสื่อถึงความรู้สึกของการไม่ยอมรับตัวเอง ไม่ให้อภัยตัวเอง ร้องขอการให้อภัย ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ต้องการเริ่มต้นใหม่
สำหรับผู้ฟังบางท่านที่ไม่ชอบดนตรี alternative rock นะครับ ผมอยากจะลองเชิญชวนให้คุณปล่อยวางเสียงเครื่องดนตรีบางชิ้นที่คุณไม่ชอบ ลองให้ความสำคัญกับเนื้อเพลงและทำนองของมันแทน แล้วคุณอาจจะได้อะไรจากเพลงนี้อย่างที่คุณคิดไม่ถึงเลยทีเดียวครับ
What I've Done - Linkin Park
In this farewell
There's no blood, there's no alibi
'Cause I've drawn regret
From the truth of a thousand lies
So let mercy come and wash away
What I've done
I'll face myself to cross out what I've become
Erase myself
And let go of what I've done
Put to rest what you thought of me
While I clean this slate
With the hands of uncertainty
So let mercy come and wash away
What I've done
I'll face myself to cross out what I've become
Erase myself
And let go of what I've done
For what I've done
I start again
And whatever pain may come
Today this ends
I'm forgiving what I've done
I'll face myself to cross out what I've become
Erase myself
And let go of what I've done
(Na . . . .)
What I've done
(Na . . . .)
Forgiving what I've done
(Na . . . .)
สิ่งที่ชั้นได้ทำลงไป
ถึงคราวจากลา (จากตัวตนนี้ของชั้น)
ไม่ต้องหลั่งเลือด ปราศจากข้อแก้ตัว
เพราะชั้นได้สำนึกเสียใจแล้ว
จากคำโกหกลมลวงนับพันที่เคยเอ่ย
ขอความเมตตาได้โปรดมาชะล้างตัวชั้น
จากบางสิ่งบางอย่างที่ชั้นได้เคยกระทำลงไป
ชั้นจะเผชิญหน้ากับตัวเอง เพื่อขีดฆ่าตัวตนที่ชั้นเป็น
ลบล้างตัวตนนั้น
แล้วปลดปล่อยตัวชั้นจากบางสิ่งที่ชั้นได้เคยกระทำลงไป
พอเสียที กับสิ่งที่เธอคิดเกี่ยวกับชั้น
ชั้นยอมล้างสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว
และเวลาจะทำให้เธอเห็นเอง
ขอความเมตตาได้โปรดมาชะล้างตัวและหัวใจของชั้น
จากบางสิ่งที่ชั้นได้เคยกระทำลงไป
ชั้นจะเผชิญหน้ากับตัวเอง เพื่อขีดฆ่าตัวตนที่ชั้นเป็น
ลบล้างตัวตนนั้น
แล้วปลดปล่อยตัวชั้นจากบางสิ่งที่ชั้นได้เคยกระทำลงไป
สำหรับสิ่งที่ชั้นได้เคยกระทำลงไป
ชั้นจะเริ่มต้นใหม่
ถึงแม้จะต้องเจ็บปวดทรมานสักเพียงไหน
มันจะต้องจบวันนี้แหล่ะ
ชั้นให้อภัยตัวเองในบางสิ่งที่ชั้นได้เคยกระทำลงไป
ชั้นจะเผชิญหน้ากับตัวเอง เพื่อขีดฆ่าตัวตนที่ชั้นเป็น
ลบล้างตัวตนนั้น
แล้วปลดปล่อยตัวชั้นจากบางสิ่งที่ชั้นได้เคยกระทำลงไป
. . . .
สิงที่ชั้นเคยกระทำ
. . . .
ขอโทษด้วย... กับสิ่งที่ชั้นเคยกระทำ
. . . .
อรรถาธิบาย
เพลงเกือบทุกเพลงของ Linkin Park เท่าที่ผมเคยได้ยินมา เป็นการคุยกับตัวเองทั้งนั้นเลยครับ เพลงนี้ก็เช่นกัน อารมณ์เพลงเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้ายที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากที่เคยเป็นในอดีต จากการสำนึกเสียใจในบางสิ่งบางอย่างที่เคยกระทำลงไปในอดีตและต้องปกปิดมันไว้ด้วยคำโกหกนับพัน
In this farewell - farewell แปลว่าลาจาก แต่จากอะไรล่ะครับ? เพราะเค้าใช้คำนี้ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ดังนั้น Farewell ตรงนี้เลยต้องอาศัยความหมายของเรื่องราวทั้งเรื่องในเนื้อเพลง เราต้องฟังเพลงก่อน รู้เนื้อเรื่องก่อน จึงจะทราบได้ว่าเค้าต้องการลาจาจากอะไร ซึ่งเพลงนี้เค้าต้องการลาจากจากอะไรครับ? ตัวตนที่ตัวเองรับไม่ได้นั่นเอง
Alibi แปลว่าพยานสถานที่ ข้อแก้ตัว หลักฐาน ประมาณนี้ครับ เป็นคำแปลกๆดี มักจะได้ยินในซีรีส์สืบสวนของฝรั่งครับ
I've drawn regret - ผมแปลว่า ได้สำนึกเสียใจแล้ว drawn มาจาก draw ที่แปลว่าดึง (ถอนเงิน) ในที่นี้คือถอน regret ความเสียใจ I've drawn regret จึงแปลว่าได้สำนึกเสียใจแล้วครับ อย่าไปสับสนกับ drown ที่แปลว่าจมนะครับ คนละคำกัน
Cross out เป็น idiom ครับ แปลว่า ขีดฆ่า "ขีดฆ่า" แบบที่มีเส้นขวางขีดทับตัวอักษรเวลาที่เราไม่ต้องการคำนั้นครับ เวลาเราเขียนอะไรลงไปในกระดาษแล้วเราไม่เอา เราจดผิด เราไม่ต้องการ จะขีดฆ่าแบบนี้ครับ นี่คือ cross out ในเพลงนี้หมายถึงเค้าไม่ต้องการตัวตนที่เคยกระทำอะไรเหล่านั้นลงไปครับ อยากให้อภัยตัวเอง อยากลบเลือนตัวตนนั้น เค้าเลยขีดฆ่าตัวตนนั้นครับ ส่วนก้าวข้ามคือ cross over ครับ
Put to rest ก็เป็น idiom ครับ รูปแบบคือ put to rest คำแปลก็คือ put an end to a rumor หรือ to finish dealing with something and forget about it. หมายความว่าจบเรื่องข่าวลือ หรือทำบางสิ่งบางอย่างให้จบสิ้นไปแล้วลืมมันซะ ในที่นี้ผมแปลว่า พอได้แล้ว หรือ พอเสียทีครับ
Slate แปลว่าหินชนวนหรือกระดานชนวนครับ สมัยก่อนเค้าเขียนหนังสือเรียนหนังสือใช้กระดานชนวนซึ่งฝรั่งเค้าก็มีครับ เวลาเราดูหนังสืบสวนจะเจอคำนี้บ่อยมากๆ เวลาโจรกับตำรวจต่อรองกันมักจะใช้คำว่า clean this slate คือลบกระดานชนวนนี้ทิ้งทำให้ประวัติขาวสะอาด
With the hands of uncertainty - ด้วยน้ำมือของ uncertainty - uncertainty แปลว่าความไม่แน่นอน แล้วอะไรที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนครับ? เวลานั่นเอง เวลาจะทำให้เธอเห็นเองว่าชั้นเปลี่ยนไปแล้ว ด้วยน้ำมือของเวลาครับ
สำหรับบางท่านที่อนุญาตให้ตัวเองฟังจนเนื้อเพลงซึมลึกเข้าไปถึงภายในใจระดับจิตใต้สำนึกจนสั่นสะเทือนตัวตนภายในได้ คุณจะเข้าใจสิ่งที่ผมพยายามอธิบายถึงเพลงนี้ครับ
คุณอาจจะได้เข้าถึงบางสิ่งบางอย่างในตัวคุณและปลดปล่อยความรู้สึกบางอย่างในตัวตนของตัวเอง ขอให้เยียวยาตัวเองนะครับ และขอแสดงความยินดีด้วยครับ ขอให้ยอมรับตัวตนของตัวเองนะครับ ขอให้รักตัวเองให้มากๆครับ
การเยียวยาที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นเมื่อคุณยอมรับตัวตนของตัวเองได้แล้วเท่านั้น (นั่นคือสิ่งที่ Louise Hay เคยกล่าวเอาไว้ครับ) แล้วค่อยๆสังเกตตัวเองทุกวันๆนะครับ คุณจะรู้สึกดีขึ้นแน่นอน
สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบว่าผมพูดถึงอะไร ไม่เป็นไรครับไม่ได้แปลกอะไร เพลงสไตล์นี้ไม่ใช่เพลงบำบัดเยียวยาอยู่แล้ว (แต่โจ๋ทั่วโลกร้องเพลงแบบนี้แล้วรู้สึกดีขึ้นได้แฮะ) เพียงแต่เพลงนี้มีความพิเศษมากกว่าเพลงทั่วไปในสไตล์เดียวกัน และคนที่เข้าถึงได้ก็มีอยู่
ถ้าสังเกตให้ดี เพลงทุกเพลงที่ผมแปลมา ผนวกกับการแปลและการให้อรรถาธิบาย การถามคำถาม การเกริ่นนำและการสรุป มันเป็นการเยียวยาผู้ฟังผู้อ่านในตัวเองอยู่แล้ว คุณอาจจะเหมาะกับสไตล์เพลงแบบอื่นๆที่ผมจะนำเสนอต่อไปก็ได้ครับ :)
จริงๆแล้วผมก็ไล่หา cover ของเพลงที่จะ soft กว่านี้มาให้ฟังนะครับ เพื่อความง่ายในการตัดเสียงเครื่องดนตรีที่รบกวนการฟังออกไป แต่ส่วนมากที่หาเจอนั้น ไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของเพลงในระดับการบำบัดได้เท่ากับเพลงต้นฉบับได้เลยครับ ดังนั้นไม่มี alternate soft cover ให้ดูนะครับ มีเพียง guitar instrumental เท่านั้น ขออภัยด้วยครับ :)
Happy falling in love with yourself krub :)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา