31 ม.ค. 2020 เวลา 13:13 • สุขภาพ
วันนี้นึกมุกเก่าได้ล่ะ...คุณอาจไม่รู้ว่า 75% ของการติดเชื้อใหม่นี้มาจากสัตว์ เนื่องจากความร้อนและที่อยู่อาศัยลดลงสัตว์ป่าและมนุษย์จึงมีทางแยกด้านชีวะวิทยากันมากขึ้น...
โพสต์นี้เขียนเพื่อกันลืม... ดังนั้นวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆมารู้จักมีห้องทดลองเพียงไม่กี่แห่งทั่วโลกเท่านั้นที่สามารถเข้าถึง coronavirus ใหม่ตัวนี้ได้และห้องปฏิบัติการเหล่านั้นจะมีลักษณะเช่นไร...
การระบาดของโรคซาร์ส
ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมามีโรคติดต่อหลายโรคเกิดขึ้นมากมายรวมถึงโรคเอดส์ที่รู้จักกันดี (จากลิงชิมแปนซี), โรคซาร์ส (แหล่งที่มาจากค้างคาว), อีโบลา (มาจากค้างคาว), โรคเฮนดรา (โรคติดเชื้อในสัตว์ที่หายากที่สามารถติดต่อมนุษย์และม้า) และต้นกำเนิดของพวกมันส่วนใหญ่มักจะเป็นสัตว์ป่า
จะต้องศึกษาถึงเชื้อโรคของโรคติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงชีวิตก่อนที่มนุษย์จะมีวิธีต่อสู้กับมันได้
ดังนั้นคำถามคือตอนนี้ห้องปฏิบัติการที่ดูเชื้อที่ไม่รู้จัก แต่อันตรายเช่น coronavirus ใหม่ (nCoV-2019) มีลักษณะอย่างไร????
ค้างคาวเป็นแหล่งที่มาของโรคซาร์สและไวรัสอีโบลา
ตามคู่มือความปลอดภัยทางชีวภาพขององค์การอนามัยโลก
ห้องปฏิบัติการทางชีวภาพแบ่งออกเป็นสี่ประเภทตามระดับอันตรายของวัตถุวิจัยระดับการป้องกันความปลอดภัยทางชีวภาพ
ระดับต่ำสุดเรียกว่า BSL-1 และที่สูงที่สุดคือ BSL -4 การวิจัยเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่เช่น coronavirus ใหม่นั้นมักจะดำเนินการในชั้นเรียนด้วยระดับความปลอดภัยสูงสุดคือในห้องปฏิบัติการ BSL-4
สำหรับทั้งสี่ระดับมาตรฐานของประเทศต่างๆนั้นแตกต่างกันเล็กน้อยแต่โดยทั่วไปแล้วห้องปฏิบัติการพื้นฐาน BSL-1 ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยเป็นพิเศษนักวิจัยจำเป็นต้องล้างมือบ่อยๆ โดยศึกษาแบคทีเรียที่ไม่ติดเชื้อบางชนิดสามารถศึกษาได้ในสภาพแวดล้อมดังกล่าวนี้
ห้องปฏิบัติการ BSL-2 นักวิจัยจำเป็นต้องสวมใส่ชุดป้องกัน จุลชีพก่อโรคเช่นไวรัสตับอักเสบเอ, ไวรัสตับอักเสบบี, ไวรัสตับอักเสบซี, ไวรัสคางทูมและอื่น ๆ จึงมักจะดำเนินการในห้องปฏิบัติการ BSL-2
biohazard symbol @cdc
ห้องปฏิบัติการ BSL-3 นั้นอันตรายยิ่งกว่าความตายและการติดเชื้อ เพื่อการศึกษาจุลชีพก่อโรค เช่น Bacillus anthracis, Mycobacterium tuberculosis (วัณโรค)และ SARS coronavirus อยู่ในประเภทนี้ดังนั้นมาตรการความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการในระดับนี้จึงมีมากกว่าระดับอื่น ๆ
ส่วนในห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาที่อันตรายที่สุดคือห้องปฏิบัติการ BSL-4 มักเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุดที่มนุษย์ "ไม่รู้จัก" และมักจะไม่มีวิธีรักษา เช่น อีโบลา, ไข้ทรพิษ, และ coronaviruses ใหม่มักจะศึกษาในห้องปฏิบัติการระดับนี้
ห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพแห่งชาติหวู่ฮั่น BSL.4
คราวนี้เรา ....ลองมาดูห้องปฏิบัติการ BSL-4 ชั้นนำของโลกกันตามที่เกริ่นนำไว้นะครับ
ห้องปฏิบัติการ BSL-4 อันดับต้น ๆ ที่เรากำลังรับชม อยู่ในออสเตรเลียซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการทดสอบสุขภาพสัตว์แห่งออสเตรเลีย (AAHL) ภายใต้องค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพแห่งออสเตรเลีย (CSIRO)
AAHL เป็นระดับความปลอดภัยทางชีวภาพระดับสูงสุดของออสเตรเลียและเป็นห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพที่ทันสมัยที่สุดในโลก เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ที่ไม่รู้จักหรือโรคจากสัตว์เช่นไวรัสเฮนดรา
AAHL ยังปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง "Infectious Diseases" ของฮอลลีวูดในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับว่าเป็นห้องปฏิบัติการทางชีวภาพที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
เรามาลองดูข้างในของ AAHLกัน...
ก่อนเข้าห้องปฏิบัติการคุณต้องผ่านบริเวณห้องล็อกอากาศก่อนที่จะเข้าห้อง Airlock เสื้อผ้าทั้งหมดรวมถึงอื่นๆจะถูกถอดและวางไว้ในตู้เสื้อผ้าข้างๆ
หลังจากถอดเสื้อผ้าออกให้กดปุ่มแบบนี้และเมื่อคุณได้ยินเสียงปัง
สเปรย์ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคจะฉีดพ่นในอ่างอาบน้ำใส่เรา(คล้ายๆอ่างนะผมว่า)
ออกจากห้องอาบน้ำและสวมชุดป้องกัน
ชุดป้องกันห้องปฏิบัติการ BSL-4 เป็นหนึ่งในชุดป้องกันทางชีวภาพที่ทันสมัยที่สุดที่ใช้กันโดยทั่วไปและจะเป็นชุดป้องกันความดันเป็นบวก
ชุดป้องกันความดันที่เป็นบวกมีท่อก๊าซแยกต่างหากซึ่งใช้ออกซิเจนในการหายใจ อากาศในชุดป้องกันจะแยกจากอากาศในห้องปฏิบัติการและความดันที่สูงขึ้นเพื่อให้ก๊าซในห้องปฏิบัติการไม่เข้าไปในชุดป้องกัน..ปลอดภัยๆ..เย้
ก่อนสวมใส่ให้สวมชุดป้องกันต้องดูแรงดันบวกเพื่อดูว่ามีการรั่วไหลหรือไม่?
จากนั้นติดตั้งและเชื่อมต่อท่อออกซิเจน
Alex Hyatt ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการของ AAHL กล่าวว่าห้องปฏิบัติการนี้เป็นแห่งแรกในโลกที่สามารถ ศึกษาการติดเชื้อเซลล์สิ่งมีชีวิตด้วยไวรัสและใช้กล้องจุลทรรศน์เพื่อติดตามการลุกลามของไวรัสจากการเข้าไปทำซ้ำ(ก๊อปปี๊RNAหรือDNA)และออกจากเซลล์เพื่อแพร่กระจาย....
พื้นที่ทำงานนี้สามารถรองรับนักวิทยาศาสตร์ได้สูงสุด 12 คนพร้อมกัน มีตู้ความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ2 (ไอ้ตู้อันนี้ไม่เกี่ยวกับระดับห้องปฏิบัติการนะครับ)และตู้อบสำหรับเชื้อโรค
ไวรัสจะถูกทำกอปปี๊ซ้ำในตู้อบจนจำนวนเพิ่มมากขึ้น...
เมื่อไวรัสโตขึ้นก็ถึงเวลาที่จะเริ่มการวิจัย นักวิจัยจะใช้ปิเปต(สิ่งที่ใช้ดูดของเหลวในมือด้านขวา)นี้เพื่อเก็บตัวอย่างไวรัส เมื่อทำการทดสอบที่มีความเสี่ยงสูงจึงต้องมีคนอื่นอยู่ข้างๆอย่างน้อย1คนเพื่อควบคุมและช่วยเหลือ
ภายในตู้ปฏิบัติการจะมีชั้นของแผ่นกั้นโปร่งใสที่คุณสามารถเห็นได้นั้นคือตู้ความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งติดตั้งตัวกรอง HEPA
ดังนั้นแรงดันลบภายในจะไม่หลุดออกไปซึ่งสามารถป้องกันละอองที่เป็นอันตรายจากการติดเชื้อในห้องทดลอง โดยทั่วไปห้องปฏิบัติการ BSL-2ขึ้นไปจะ มีตู้ความปลอดภัยทางชีวภาพแบบนี้อยู่
หลังจากเสร็จสิ้นก็จะทำการฆ่าเชื้อ...
ฉีดๆ พ่นๆ เช็ดๆ
นอกจากนี้ยังมีกล้องจุลทรรศน์พิเศษที่สามารถใช้ในการทำวิจัยที่มีระดับกำลังขยายระดับสูง...แต่ไม่ถึงระดับอิเลคตรอนนะครับ..นั้นมันเครื่องใหญ่และไม่จำเป็น
ตัดภาพมาในห้องควบคุมกระจกที่แยกจากนักวิทยาศาสตร์คนอื่นเพื่อสังเกตและศึกษา...พวกเขาไม่จำเป็นต้องสวมชุดป้องกันแรงดันบวก
1
พวกเขาสามารถดูภาพการวิจัยแบบเรียลไทม์ สื่อสารกับนักวิจัยในห้องปฏิบัติการและควบคุมกล้องจุลทรรศน์ได้จากระยะไกล อย่างที่เราทุกคนรู้กันฟังก์ชั่นอื่นของห้องควบคุมคือให้มุมมองของบุคคลที่สาม
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาห้องปฏิบัติการนี้ได้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้เพื่อศึกษาโรคติดเชื้อใหม่ ๆ หลายอย่างเช่นไข้หวัดม้า, โรคเฮนดราและโรคซาร์ส
ไวรัสร้ายแรงที่ถูกวิจัยจะถูกเขียนลงบนกระดานไวท์บอร์ด...ดูคลาสสิคดี
แน่นอนว่าชุดป้องกันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับบุคคลภายนอกได้
ไวรัสมีขนาดเล็กจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันรั่วออกมา?
สิ่งนี้จะถูกนำมาพิจารณาด้วย ในฐานะห้องปฏิบัติการ BSL-4 ทุกสิ่งในห้องปฏิบัติการจะถูกตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง ทุกสิ่งที่ถูกทิ้งจะผ่านการฆ่าเชื้อ
ตัวกรองอากาศของ AAHL
ตัวอย่างเช่นอากาศจะถูกกรอง ส่วนท่อระบายน้ำทั้งหมดจะได้รับความร้อนและฆ่าเชื้อ ขยะมูลฝอยต่างๆจะถูกเผา
บุคลากรทุกคนที่ออกจากห้องปฏิบัติการ จะผ่านการทำความสะอาดร่างกาย พวกเขายืนให้ชุดป้องกันถูกฉีดพ่นใช้เวลาอาบสารเคมีนาน 7 นาทีจากนั้นถอดชุดป้องกันออก
และอาบน้ำ ล้างตัวด้วยเจลอาบน้ำ(18+)
และล้างอีกครั้งก่อนออกจากเขตอันตรายสู่เขตปลอดภัย
อยู่คนล่ะห้องกันนะครับ
หลังจากออกไปแล้วบุคลากรของสถาบันจะไม่สัมผัสสัตว์ปีกหรือปศุสัตว์เป็นเวลา 7 วันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ต้องบอกว่าหลายประเทศกำลังทำงานเกี่ยวกับการระบุและการวิจัยของ coronaviruses ใหม่ในห้องปฏิบัติการ BSL-4
เช่นนักวิจัยห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาแห่งชาติของแคนาดากำลังศีกษา coronavirus อยู่เช่นกัน
โดยใช้อาร์เอ็นเอที่สกัดจากเซลล์จมูกติดเชื้อและเมือกจากลำคอ นำมาแยกเชื้อไวรัสนำมาเปรียบเทียบ RNA เพื่อดูว่าเป็น coronaviruses ใหม่หรือไม่
เป็นยังไงกันบ้างครับกับทริปห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยาแห่งชาติเพื่อศึกษา coronavirus ท่องเที่ยวกันสนุกดีนะครับ และหวังว่านักวิจัยจะหาทางจัดการกับ coronavirus ตัวใหม่นี่ได้โดยเร็วที่สุด.....
ขอบคุณที่มา..
- คณาจารย์ ม.ขอนแก่น ที่อบรมสั่งสอน...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา