8 ก.พ. 2020 เวลา 09:07 • ปรัชญา
เรื่องสั้น สองจอมยุทธ (กับมุมมองที่แตกต่าง)
เอเมน เด็กหนุ่มวัย 20 ต้นๆ ผู้ที่กำลังก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน เขาเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ “อาเธอร์” ผู้ซึ่งเป็นจอมยุทธแห่งสมาคมวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์
อาเธอร์เป็นคนแนะแนวทางและปรัชญาการใช้ชีวิตต่างๆให้กับศิษย์รักของเขาเสมอ เอเมนรักอาเธอร์มาก เมื่อมีปัญหา คนเดียวจะแก้ปัญหาให้เขาได้ คืออาจารย์ของเขา
วันหนึ่งเมื่อเอเมนต้องทำงาน อาเธอร์อยากให้เขาไปเผชิญโลกภายนอกบ้าง จึงบอกเอเมนให้ไปเรียนวิชาและทำงานที่สำนักอื่น เพื่อจะได้ความรู้ใหม่ๆติดตัวกลับมา โดยอาเธอร์ได้แนะนำให้เขาไปเจอกับ อาจารย์ผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือ นั่นคือ อาจารย์ลาคัส จอมยุทธแห่งสมาคมเศรษฐกิจและการค้าทั่วราชอาณาจักร แต่มีข้อแม้ว่าเขาจะไปเองโดยห้ามอ้างตนว่าเป็นศิษย์ของอาเธอร์
เอเมนได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวขอบคุณอาจารย์ เพราะเอเมนเองก็ชื่นชอบลาคัสมาก เขาติดตามผลงานการเขียนตำราของลาคัสอยู่เสมอ ตนจึงส่งสาสน์แนะนำตัวไปยังสำนักของลาคัส
อาเธอร์และลาคัส ต่างเป็นเพื่อนกันผ่านการเขียนตำราของตนให้กับผู้คนได้อ่าน ลักษณะนิสัยของทั้งสองจอมยุทธนั้น รักสันโดษ ไม่สุงสิงกับใคร รักการเขียนตำราเป็นชีวิตจิตใจ พวกเขารู้ว่าสิ่งเดียวที่ลงทุนไปแล้วไม่ขาดทุนคือการลงทุนให้ความรู้กับผู้อื่น
เพื่อหวังว่าจะพัฒนาบ้านเมือง และเป็นประโยชน์ต่อสังคม
แต่ความแตกต่างของสองจอมยุทธนี้คือ อาเธอร์ ไม่เพียงแต่เขียนตำราเท่านั้น แต่เขายังอุทิศตนเดินทางไปสอน และบรรยายให้กับผู้คนต่างๆ ทำให้คนรู้จักและเป็นศิษย์ของอาเธอร์มากมาย ในขณะที่ลาคัสไม่เปิดเผยตัวตน เขาเขียนให้ความรู้แค่ในตำราเท่านั้น ผู้คนจึงรู้จักเขาเพียงการเขียน
Picture: Pinterest
เมื่อสำนักของลาคัสส่งสาสน์เรียกเอเมนให้เข้าพบ เขาดีใจมากจึงนำเรื่องไปบอกอาร์เธอร์ เอเมนจึงเดินทางไปหาลาคัส เพื่อขอทำงานและเป็นลูกศิษย์ เพราะเขาอยากรู้ว่าจอมยุทธที่เขาชื่นชอบท่านนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร เหตุใดจึงไม่อยากเปิดเผยตัว
ก่อนออกเดินทาง อาร์เธอ เตือนว่า “จอมยุทธอย่างลาคัสเป็นผู้รู้ที่จริงจังมาก หากได้ทำงานกับเขาเจ้าต้องเป็นผู้รู้จริงและศึกษาตำราของเขาให้แม่น”
เมื่อไปถึงสำนัก
เขาพบชายวัยกลางคนผู้หนึ่งรูปงาม นัยต์ตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น สุขุม แต่งตัวน่าเคารพนับถือ
“คารวะท่าน ข้านามว่า เอเมน พึ่งเรียนจบจากสำนักฟัลโลห์ ข้าอยากมาทำงานกับอาจารย์ลาคัสที่นี่ โปรดเมตตาข้าด้วยเถิด” เอเมนกล่าวแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร
“เจ้าหนุ่ม การทำงานกับอาจารย์ลาคัสนั้นจริงจังมากนัก จะเขียนตำราเพื่อพัฒนาบ้านเมือง จำเป็นต้องใช้พลังมหาศาล เจ้าจะรับได้หรือ” ชายลึกลับกล่าว
“ได้สิท่าน” เอเมนตอบด้วยความมั่นใจ
“งั้นข้าขอถามเจ้า หากวันนึงเจ้าเดินเรือไปทำงานพร้อมกับมารดา ซ้ายมือเจ้ามีคนกำลังว่ายน้ำอยู่ แต่หากไปทางนั้นเจ้ากับมารดาจะปลอดภัย แต่คนที่อยู่ในน้ำต้องตาย ในทางกลับกัน เจ้าเลือกจะไม่ชนคนในน้ำ แต่เลือกชนโขดหินยักษ์ตายพร้อมมารดา เจ้าจะเลือกอะไร”
Picture: Pinterest
“หากเป็นเช่นนั้น ข้าเลือกอย่างหลังท่าน”
“ตอบแบบไม่คิดเลยหรือ มีมารดาของเจ้าด้วยนะ” ชายลึกลับถามขอให้ตอขอีกครั้ง
“ข้าไม่กลัวความตายหรอกท่าน” เอเมนย้ำคำตอบเดิม
“มีคนมากมายที่กลัวความตาย เว้นเสียแต่เจ้า อธิบายการไม่กลัวตายจองเจ้ามาเถิด ว่าเพราะเหตุใด ข้าจะได้กระจ่างในความคิดเจ้า ให้ข้าเข้าใจว่าเจ้าไม่ได้ตอบด้วยความกล้าหาญเพียงเพราะลมปาก” ชายลึกลับกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มีคนสอนข้าว่า ในการทำงานใดก็ตามให้เต็มที่กับการทำงานทุกครั้งแม้ว่าพื้นที่นั้นจะอันตรายหรือไม่ การทำงานให้เต็มที่ไม่ควรจำกัดพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง จงทำมันให้เต็มที่จนกระทั่งความตายไม่สามารถพรากจิตวิญญาณและความมุ่งมั่นของตนได้
ดังนั้นแล้ว หากข้ากำลังทำงานแต่เมื่อคราวต้องตาย ข้ายอมตายเสียดีกว่าต้องฆ่าผู้บริสุทธิ์ ข้าตระหนักถึงการตายทุกชั่วขณะและมองมันเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิต และหากข้าต้องทำให้มารดาตาย มารดาข้าย่อมยินดี ที่ข้าทำเช่นนั้น”
ชายผู้นี้ได้ฟังจึงรู้สึกทึ่ง ในใจครุ่นคิดว่า ใครเป็นอาจารย์ของชายหนุ่มผู้นี้
“ขอชื่นชมคนที่สอนเจ้า เอเมน”
เขาทดสอบความรู้เอเมนต่างๆ จนในที่สุดเขาได้ข้อสรุป แล้วพูดกับเอเมนว่า
“เจ้าอ่านตำราเยอะ ข้าขอยอมรับ แต่มีหลายอย่าง ที่เจ้าต้องพัฒนาอีกมาก บางคุณสมบัติของเจ้ายังไม่ผ่าน การทำงานของเราไม่ใช่เรื่องง่าย อาจารย์ลาคัสต้องการคนที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ขอให้เจ้าฝึกฝีมือและประสบการณ์สัก 5 ปีเถิด แล้วกลับมาก็ไม่สาย”
เอเมนได้ฟังดังนั้น จึงรู้สึกผิดหวัง แต่ในขณะเดียวกันก็ดีใจ เพราะเอเมนรู้สึกถึงรังสีแห่งจอมยุทธที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวชายผู้นี้ เอเมนมั่นใจว่าชายที่อยู่ตรงหน้า คืออาจารย์ลาคัส แน่นอน
“ท่าน คืออาจารย์ลาคัส ใช่มั้ย”
“ข้าไม่บอก ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องรู้ว่าลาคัสคือใคร”
“ข้าชื่นชอบอาจารย์ลาคัสมาก แต่ข้าอยากเห็นหน้าและพูดคุยกับท่านอาจารย์สักครั้ง ข้าคิดว่าหากท่านเปิดเผยตัวและเดินทางไปสอน ณ ที่ต่างๆ เหมือนจอมยุทธหลายๆท่าน ผู้คนคงได้ประโยชน์และแรงบันดาลใจจากท่านไม่น้อย”
Picture: Pinterest
“เขาพูดไม่เก่งหรอก เพียงเขียนเก่งก็เท่านั้น หากเดินทางไปสอนหรือบรรยายที่ต่างๆ มันไม่ยุติธรรมกับผู้ที่ไม่ได้มาฟัง สิ่งเดียวที่ยุติธรรมและเข้าถึงได้ คือการเขียนเพราะผู้คนจะอ่านตำราเมื่อไหร่ ที่ไหนก็ได้ ผู้คนได้ประโยชน์ต่อวงกว้างได้มากกว่า นี่คือปณิธานข้า หวังว่าเจ้าคงเข้าใจ”
1
“ไม่ยุติธรรมงั้นหรือ…” เขาบ่นพรึมพรำ
“ข้าขอคารวะท่าน” เขากระจ่างถึงเหตุผลของลาคัส ว่ามุมมองของจอมยุทธท่านนี้ช่างต่างจากจอมยุทธที่เขารู้จัก
“ช่างปราดเปรืองยิ่งนัก” เอเมนเดินออกมาจากสำนักพร้อมความปิติที่ครั้งหนึ่งเขาได้เจออาจารย์ลาคัส จอมยุทธที่น้อยคนนักจะพบตัวเขา เพราะก่อนหน้านี้เอเมนแอบฟังวงในของราชสมาคมพูดถึงลักษณะ และรูปร่างของอาจารย์ลาคัส ซึ่งก็คือชายที่พูดกับเขาไปเมื่อสักครู่นี้เอง
ณ สำนักฟัลโลห์
“เป็นอย่างไรบ้าง เอเมน” อาจารย์อาเธอร์ถามด้วยอาการตื่นเต้น
“ดูเหมือน ทางนั้นจะไม่รับข้าเสียแล้ว ท่านอาจารย์” เอเมนตอบด้วยความรู้สึกผิดหวัง
“ทำไมกันเล่า เจ้าเล่ามาซิ เกิดอะไรขึ้น”
เอเมนจึงเล่าให้ฟังโดยละเอียด
“เอเมน การทดสอบของเจ้าดูเหมือนจะห่างชั้นกับความต้องการของลาคัสนัก แต่รู้มั้ยว่าลาคัสอยากได้เจ้าทำงานจริงๆ แต่ต้องเกลาฝีมือเสียก่อน ข้าดูออก” อาเธอร์บอกด้วยความเอ็นดู
“อาจารย์ลาคัสเนี่ยนะ อยากรับข้า ทำไมถึงคิดยังงั้นละท่านอาจารย์” เอเมนสงสัย
“ปกติสำนักของลาคัส จะไม่รับคนธรรมดาเข้าทำงานนะซี นอกเสียจากว่าลาคัสจะหาคนมาทำงานเอง ซึ่งต้องเก่งและเหนือชั้นมาก แต่เจ้าคือคนที่ลาคัสเรียกเข้าไปพบ เขาคงเห็นอะไรบางอย่างในตัวเจ้า ศิษย์ข้า จอมยุทธด้วยกันมักดูกันออก เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าใครคืออาจารย์ของเจ้า” อาเธอร์บอกพร้อมกับยิ้มมุมปาก
Picture: Pinterest
“จริงสิ อาจารย์หากเขารู้ว่าเป็นท่าน คงดีใจไม่น้อยแน่
แต่ตอนนี้ข้าต้องฝึกฝนให้มากกว่านี้สินะท่านอาจารย์”
“เอาเถอะ เอเมน จงฝึกฝนต่อไป ถึงลาคัสจะไม่รับเจ้าแต่ข้าจะรับเจ้ามาทำงานกับข้าเอง”
“เอ๋ ท่านอาจารย์ ทำไมถึงรับข้ากันล่ะ ข้ายังอ่อนหัดมาก ท่านจำเป็นต้องทำงานกับปรมาจารย์ หากข้าเป็นผู้ช่วยของท่าน ไม่เหนื่อยเอาหรือ”
“แม้ว่าลาคัสจะรับเฉพาะคนเก่งเท่านั้น แต่สำหรับข้ารับคนอ่อนหัดเสมอ เพราะคนอ่อนหัดมีอยู่ทั่วไป คนเหล่านี้ต้องได้รับการฝึกฝนถึงจะเก่งได้ จำไว้นะเอเมน คนไม่เก่งมีจำนวนมาก หากเราอบรม สั่งสอนให้พวกเขาเก่งได้ คนจำนวนมากพวกนี้จะเป็นกำลังต่อการพัฒนาชาติ ในอนาคตบ้านเมืองเราจะเต็มไปด้วยผู้เรืองปัญญา”
“ข้าขอคารวะท่านอาจารย์” เขาตอบด้วยความซึ้งใจพร้อมกับน้ำตาคลอที่ตนได้รับโอกาส
“พวกท่านคือจอมยุทธที่แท้จริง” เขาพรึมพรำด้วยความประทับใจ
เอเมนจึงเกิดข้อสรุปต่อมุมมองที่แตกต่างของทั้งสองจอมยุทธ ที่ทั้งสองมีเป้าหมายที่จะใช้ความรู้พัฒนาบ้านเมืองเหมือนกัน แต่มุมมองและวิธีการคิดกลับต่างกัน
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นจอมยุทธเหมือนกันก็ตาม
แต่ใครจะสนกันล่ะ เมื่อมีเจตนาที่ดีถึงผลลัพธ์ในการช่วยเหลือสังคมคือสิ่งเดียวกัน ไม่ว่าวิธีไหนก็เป็นที่น่าเคารพนับถือต่อคนในสังคมอยู่ดี
แล้วท่านล่ะมุมมองที่แตกต่างในการพัฒนาบ้านเมืองของท่านเป็นอย่างไร
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ
8 กุมภาพันธ์ 2563
ท่านเด็ก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา