8 ก.พ. 2020 เวลา 14:05
ข้อคิดวันมาฆบูชา:
๑.หลักธรรมที่จะช่วยให้พ้นทุกข์ทั้งหมดโดยสาระแล้วคือละชั่ว ทำดีและทำจิตให้ผ่องใส หรืออีกนัยหนึ่งคือทำศีล สมาธิและปัญญาให้บริบูรณ์
๒.ศีล สมาธิและปัญญาคือไตรสิกขา สิกขา เป็นคำบาลี มาจากสันสกฤตว่า ศิกฺษา คำว่า ศิกฺษา ดั้งเดิมมาจากรากศัพท์ √ศกฺ ซึ่งหมายถึง *การทำให้ตนช่ำชอง* หรือ *การทำให้ตนมีความสามารถ* ในทางใดทางหนึ่ง
*ไตรสิกขา* ก็คือทำให้ตนช่ำชองหรือสามารถในเรื่องศีล สมาธิและปัญญา ถ้าทำให้สมบูรณ์ได้ก็จะตัดกิเลสได้หมดและทำให้พ้นทุกข์ได้ในที่สุด
หมายความว่าเมื่อเป็นพุทธมามกะแล้ว สิ่งที่ชาวพุทธต้องตระหนัก ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรก็คือต้อง มุ่งเรียนเพื่อทำให้ศีล สมาธิและปัญญาสูงขึ้นหรือมีมากขึ้นเป็นเป้าหมายหลัก ไม่ใช่เรียนเพื่อเอาแค่ใบปริญญาบัตรหรือแค่พัฒนาตำแหน่งวิชาการ
ครูบาอาจารย์หลายท่านในอดีต เช่น อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ จึงมุ่งศึกษาพระไตรปิฎกให้เข้าใจและเพิ่มพูนศีล สมาธิและปัญญายิ่งๆ ขึ้นมากกว่าจะเสาะแสวงหาตำแหน่ง
๓.การพัฒนาไตรสิกขาต้องทำพร้อมๆ กัน เบื้องแรกใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นถ่องแท้ถึงคุณค่าของศีลและสมาธิว่าต้องรักษาศีลและเจริญสมาธิเพื่อประโยชน์อะไร เมื่อเห็นคุณค่าของศีลและเริ่มรักษาศีลแล้ว การอบรมสมาธิก็ทำได้ง่ายขึ้น เมื่อทำสมาธิประจำ ได้ฌานจิตบ่อยๆ จิตใจก็จะอ่อนโยนลงและรักษาศีลได้ง่ายขึ้น
เมื่อศีลและสมาธิมีเพิ่มขึ้นแล้ว ปัญญาก็จะได้รับการอบรมให้สูงขึ้นตาม จนในที่สุด เมื่อศีลและสมาธิสมบูรณ์ ปัญญาก็จะได้รับการส่งเสริมให้ได้รับการพัฒนาจนสมบูรณ์และละกิเลสได้หมดในที่สุด
๔.พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รูปคือตัวอย่างผู้ที่ปฏิบัติตามพุทโธวาทแล้วได้ผล
๕.วันมาฆบูชาคือวันเพ็ญเดือน ๓ เป็นวันเตือนสติชาวพุทธว่าพระอรหันต์ทั้ง ๑,๒๕๐ รูปนั้นเป็นมนุษย์เหมือนกันกับเราๆ ท่าน หากใช้ความเพียรพยายามเต็มที่แล้วก็สามารถบรรลุอรหันต์ได้ในที่สุด
๖.ชาวตะวันตกที่เป็นระดับนักวิชาการอาจจะบอกว่าพระพุทธศาสนามีเหตุผล เข้ากันได้กับวิทยาศาสตร์ แต่ชาวบ้านทั่วไปมักจะประทับใจในพระพุทธศาสนาเพราะสอนเหมือนอารยธรรมตะวันตก คือสอนให้มนุษย์พึ่งพาตนเอง ไม่ต้องพึ่งพาใคร พร้อมทั้งบอก how to ให้ทำอย่างละเอียด
โฆษณา