10 ก.พ. 2020 เวลา 12:11 • เกม
Rainbow Six Siege : กับภาพสะท้อนหัวใจเบื้องต้นของยุทธวิธี
...
สวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ ชาว Blockdit ทุกท่าน
...
วันผมหมูแว่นอาจมาในรูปแบบที่แปลกออกไป เพราะบทความไม่ได้มาวิเคราะห์ภาพยนตร์หรือหนังสือ แต่มาวิเคราะห์เกมๆ หนึ่งที่ผมเคยชื่นชอบ (ปัจจุบันก็ยังเป็นเกมในดวงใจอยู่ เพียงแต่ไม่ค่อยมีเวลาเล่นแล้ว) มาเล่าสู่กันฟังครับ
...
เกมนั้นมีชื่อว่า ‘Tom Clancy's Rainbow Six Siege’ หนึ่งในสุดยอดเกม FPS ในรูปแบบของ Tactical+Action แห่งยุคนี้
...
เกม Tom Clancy's Rainbow Six Siege เป็นเกมที่ถูกพัฒนาจากเรื่องราวที่ถูกเขียนเป็นนิยายของผู้เขียนนิยายสงครามและการเมืองชาวอเมริกันชื่อดังก้องโลกอย่าง ‘ทอม แคลนซี (Tom Clancy)’ และเขาเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2556
...
ทอม แคลนซี (Tom Clancy)
และถูกพัฒนาและจัดจำหน่ายในรูปแบบเกมโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ‘ยูบิซอฟต์ (Ubisoft)’
...
ยูบิซอฟต์ (Ubisoft)
Tom Clancy's Rainbow Six Siege ได้แรงบันดาลใจมาจากหน่วยต่อต้านผู้ก่อการร้ายทั่วโลก โดยตัวเกมจะพูดถึง Team Rainbow หน่วยต่อต้านผู้ก่อการร้าย (Counter-Terrorist) จาก NATO มีหน้าที่ส่งไปทำภารกิจรอบโลก โดยลักษณะการปฏิบัติการของ Team Rainbow มักจะเป็นรูปแบบปฏิบัติการในที่แคบ เช่น ช่วยเหลือตัวประกัน, การกอบกู้ระเบิด หรือต่อต้านการก่อการร้าย เป็นต้น
...
โดยตัวเกมจะให้เรารับบทเป็นสมาชิกในทีม Rainbow ที่ถูกคัดเลือกมาจากหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายที่มีอยู่จริงจากทั่วโลก อาทิ SAS ของประเทศอังกฤษ, GIGN ของประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น โดยจะจำลองการฝึกซ้อมของทีม Rainbow ในภารกิจการช่วยเหลือตัวประกัน และภารกิจการกู้ระเบิด
...
โดยตัวเกมจะเน้นไปที่โหมด Multiplayer (เล่นกับผู้เล่นคนอื่น) โดยแบ่งผู้เล่นยออกเป็น 2 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายบุก ซึ่งจะมีหน้าที่บุกเข้าไปกู้ระเบิด หรือชิงตัวประกัน และฝ่ายตั้งรับ ซึ่งจะมีหน้าที่คอยขัดขวางไม่ให้ฝ่ายบุกทำภารกิจสำเร็จ และแบ่งเป็นฝ่ายละ 5 คน
...
โดยตัวเจ้าหน้าที่ (Operator) แต่ละคน จะมาพร้อมกับความสามารถ หรือมีอุกรณ์พิเศษเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้เล่นสามารถวางแผนได้อย่างหลากหลายในแต่ละเกม
...
ไอคิว (IQ) ตัวละครฝั่งบุกตัวแทนจาก GSG9 ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์พิเศษที่มีชื่อว่า ‘Electronics Detector’ หรืออุปกรณ์สำหรับตรวจหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น กับดัก หรือกล้องวงจรปิด
ลุก (Rook) ตัวละครฝั่งตั้งรับตัวแทนจาก GIGN ที่มาพร้อมกับ ‘Armor Pack’ หรือชุดเกราะที่เอาไว้แจกจ่ายให้กับเพื่อนร่วมทีม
“สงครามแห่งการช่วงชิงข้อมูล และการระบุตำแหน่ง”
...
เมื่อเริ่มปฏิบัติการ ตัวเกมจะมีอุปกรณ์พื้นฐานให้กับทั้งฝั่งบุกและฝั่งตั้งรับในการสอดส่องเก็บข้อมูลฝ่ายตรงข้าม เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบ
...
โดยฝั่งบุก (Attacker) เกมจะมี ‘โดรน (Drone)’ ไว้สำหรับค้นหาศัตรูหรือตัวละครฝั่งตรงข้าม, การค้นหาห้องภารกิจ คือห้องที่มีตัวประกัน หรือระเบิดอยู่ และการสำรวจสภาพแวดล้อมภายในอาคาร
...
ส่วนฝั่งตั้งรับ (Defenders) เกมจะมี ‘กล้องวงจรปิด (CCTV)’ที่ประจำอยู่ตามจุดต่างๆ ในแผนที่ (ซึ่งแต่ละแผนที่จะมีตำแหน่งที่ตายตัว) ซึ่งสามารถเอาไว้สอดส่องจุดที่ฝั่งบุกจะทำการเข้าจู่โจม และค้นหาเป้าหมายหรือตัวละครฝั่งตรงข้ามก็ได้
...
ดังนั้น เพื่อไม่ให้ฝั่งตรงข้ามล่วงรู้ข้อมูลและช่วงชิงความได้เปรียบมากจนเกินไป ภารกิจสำคัญเบื้องต้นของทั้งสองฝ่ายคือ ฝั่งบุกจะพยายามทำการไล่ทำลายกล้องวงจรปิดทุกตัวที่อยู่ในฉาก และฝั่งตั้งรับจะค้นหาและทำลายโดรนเหล่านั้น
...
ด้วยเหตุผลพื้นฐานที่ว่า ‘การทำลายทัศนวิสัยของฝั่งตรงข้าม คือจุดได้เปรียบของฝั่งเรา’ หากฝั่งตรงข้ามตาบอดก็จะเคลื่อนที่ได้ช้าลง แต่ถ้าเราล่วงรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เราก็จะได้เปรียบ และเข้าจู่โจมได้อย่างรวดเร็วและเเม่นยำ
...
แต่โจทย์ในเรื่องการรวบรวมข้อมูลนี้ มันคือภารกิจที่สำคัญมากๆ สำหรับฝั่งบุกเลยล่ะครับ เนื่องด้วยความที่เราต้องเป็นฝ่ายเคลื่อนที่เข้าไปหา ข้อมูลทุกอย่างจึงเปรียบเสมือนลมหายใจของความสำเร็จในภารกิจและของตัวเราเองเลยล่ะครับ
...
ดังนั้นไม่ว่าในโหมดชิงตัวประกัน หรือในโหมดกู้ระเบิด ฝั่งบุกจะต้องทำการระบุให้ได้ว่าตัวประกันหรือระเบิดอยู่ ณ จุดใดภายในอาคารแห่งนั้น และศัตรูมีใครบ้าง และจุดบริเวณใดบ้างที่ฝั่งตั้งรับจะดักซุ่มยิงเราได้ ตลอดจนการระบุตำแหน่งของศัตรู เพื่อนำทั้งหมดนี้มาใช้ประกอบสำหรับวางแผนในการเข้าจู่โจมและทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงต่อไป
...
ขออนุญาตทุกท่านย้อนกลับไปในค่ำคืนวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์ กับเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ เมื่อทหารคลั่งรายหนึ่งก่อเหตุกราดยิง โดยท้ายสุดก็วิ่งไปกบดานที่ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช
...
สิ่งแรกที่เจ้าหน้าที่ทำคือ การรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดโครงการของห้างเทอร์มินอล 21 ตลอดจนการใช้โดรนหรือกล้องวงจรปิด
...
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจในการเข้าช่วยตัวประกัน, การเคลื่อนที่ของหน่วยจู่โจม การคาดคะเนจุดที่คนร้ายจะซุ่มทำการโจมตีได้, การเคลียร์พื้นที่ในแต่ละโซน หรือตลอดจนการระบุตำแหน่งของคนร้าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วงชิงความได้เปรียบเอาไว้กับตน
...
และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ได้รับความช่วยเหลือด้านข้อมูลจากแอดมินเพจดังหลายเพจ เช่น เพจหมอแล็บแพนด้า และเพจดราม่าแอดดิค เป็นต้น
...
โดยแอดมินเพจหลายเพจ ต่างเป็นตัวกลางในการติดต่อแจ้งข้อมูลรายละเอียดตัวประกันและจุดซ่อนตัวไปยังเจ้าหน้าที่ (กองปราบ) เพื่อเพิ่มความสะดวกในการจัดเตรียมทีมและเคลื่อนที่เข้าช่วยเหลือได้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
...
แต่เหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นกลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อสื่อบางเจ้าทำการล้วงข้อมูลแบบถึงลูกถึงคน โดยไม่สนเรื่องความปลอดภัยของทางเจ้าหน้าที่และคนที่ติดอยู่ภายในห้าง
...
ด้วยการรายงานว่า “เจ้าหน้าที่เรียกพลสไนเปอร์มาประจำการ” นั้นจึงทำให้คนร้ายย้ายจากชั้น 4 ลงชั้นใต้ดิน เพื่อหลบเลี่ยงการสอดส่องระบุตำแหน่ง และการถูกลอบสังหาร
...
สื่อรายงานต่ออีกว่า “มีการใช้กล้องวงจรปิดเพื่อรายงานสถานการณ์จากด้านใน” ทำให้คนร้ายทำลายกล้องวงจรปิดภายในห้าง เพื่อทำให้เจ้าหน้าที่นั้นตาบอด
...
และสื่อก็ยังรายงานต่ออีกว่า “เจ้าหน้าที่จะใช้โดรนช่วยในการทำงาน…” คนร้ายจึงชิงลงมือสอยทำลายโดรนเสีย เพื่อปิดหูปิดตาเจ้าหน้าที่
...
ทั้งหมดนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างยากลำบากยิ่งขึ้น เพราะเนื่องจากไม่สามารถระบุตำแหน่งของคนร้ายได้ (และยิ่งคนร้ายก่อเหตุด้วยตัวคนเดียว ย่อมสามารถเคลื่อนที่ย้ายจุดได้สะดวกและรวดเร็ว) ประกอบกับตัวห้างที่กว้างใหญ่ ทำให้การเคลื่อนตัวเข้าไปเพื่อช่วยเหลือตัวประกันของเจ้าหน้าที่มีความอันตรายขึ้นเป็นทวีคูณ
...
เมื่อฝั่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำการระบุตำแหน่งของคนร้ายได้ แต่ทว่าฝั่งคนร้ายกลับได้ตาทิพย์ที่สามารถรับรู้การเคลื่อนไหวของทางเจ้าหน้าที่ เพราะ ‘สื่อรายงานการเคลื่อนย้ายกำลัง ตลอดจนยุทธวิธีการจะเข้าไปในห้างของทางเจ้าหน้าที่ด้วย’
...
‘ในขณะที่ฝั่งเจ้าหน้าที่ตาบอด แต่ฝั่งคนร้ายกลับได้ตาทิพย์ที่เหล่าสื่อมวลชนบางเจ้าหยิบยื่นถวายพานให้’
...
ดังนั้นสำหรับคำถามที่โซเชียลบางส่วนที่ถามกันว่า “ทำไมเจ้าหน้าที่จึงเคลียร์เรื่องนี้ได้ล่าช้านัก?”
...
บทความนี้น่าจะให้คำตอบบางส่วนกับท่านได้ ท่ามกลางปัจจัยอื่นๆ ที่อาจจะยังมีอยู่อีกก็ตาม
...
แต่ท้ายสุด เราต้องขอบคุณช่อง 7 ที่ให้เจ้าหน้าที่ยืมใช้โดรนจับความร้อนของช่อง ในการช่วยค้นหาตัวคนร้ายเพื่อระบุตำแหน่ง ซึ่งนำไปสู่การปิดฉากของเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญในครั้งนี้ลงได้
...
สุดท้ายนี้ ผมนายหมูแว่นขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกๆ ท่านด้วยครับ
...
และขอสดุดีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ตลอดจนบุคคลอื่นๆ ที่คอยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังทุกท่านครับ
เครดิตภาพ
...
โฆษณา