14 ก.พ. 2020 เวลา 10:38 • ปรัชญา
# เงินนับล้านที่เริ่มต้นจากการตักไอศกรีม
ในบางครั้งการปฏิบัติตามแต่เพียงฝ่ายเดียว นั้นอาจหมายคุกตะรางของเสรีภาพและศัตรูของความเจริญ ก็เป็นได้ อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
ชีวิตของเด็กชายในวัยเรียน
ฮาร์แล็น เอ ฮาว็อร์ด เป็นเด็กนักเรียน ยากจน อีกทั้งยังเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่ เขาจึงเริ่มต้นรับจ้างทำงานระหว่างช่วงพักกลางวัน เช่นการทำความสะอาด ล้างจาน เช็ดโต๊ะ และงานหลักของเขา
คือตักไอศครีมใส่ถ้วยขายในโรงอาหาร แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่ชอบทำงานแบบนี้เท่าไร แต่เพราะความจำเป็นที่ต้องหารายได้มาจ่ายค่าเล่าเรียนจึงต้องอดทนทำต่อไป
การทำงานที่ไม่สนุก
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในระหว่างที่เพื่อนนักเรียนชายของเขา กำลังหยอกล้อกับเพื่อนผู้หญิงอยู่ที่หน้าร้านนั้นเอง
ฮาร์แล็น ก็เกิดไอเดียขึ้นมาได้ว่า "หากเราได้รู้ว่าไอศครีมนี้ทำขึ้นมาจากอะไร และทำไมไอศครีมบางเจ้าจึงดีกว่าของอีกเจ้าคงจะน่าสนุกดีนะ"
หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลาศึกษาเรื่องนี้อยู่พักใหญ่ จน ฮาร์แล็น สามารถสร้างยอดขายให้กับทางร้านได้มากขึ้น
สร้่างความน่าสนใจให้กับงาน
และยังกลายเป็นนักเรียนดีเด่นทางด้านเคมีของโรงเรียนอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นความอยากรู้ อยากทดลองเกี่ยวกับธาตุและส่วนประกอบที่นำมาทำอาหารในชีวิตประจำวัน ก็ยังคงมีเพิ่มมากขึ้น
ฮาร์แล็น จึงตัดสินใจเข้าเรียนต่อ ในมหาวิทยาลัยประจำรัฐแมสซาซูเซ็ตส์ ด้วยทุนของโรงเรียนที่มอบให้ศึกษาเกี่ยวกับศาสตร์ของอาหารโดยเฉพาะ
ความสนใจที่เพิ่มมากขึ้น
กระทั่งในระหว่างที่เขาขมักเขม้น กับการศึกษาและวิจัยเรื่องอาหารในห้องแล็บอยู่นั้นเอง อาจารย์ที่ปรึกษาของเขาก็เดินเข้ามาบอกกับ ฮาร์แล็น ว่า
"ในตอนนี้ บริษัทนิวยอร์กโกโก้เอ็กเชนจ์ ประกาศให้เงินรางวัล 100 เหรียญ แก่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยที่สามารถอธิบายถึงคุณประโยชน์ของโกโก้และช็อกโกแลตได้ดีที่สุด อาจารย์ว่าเธอน่าจะลองดูนะ"
โอกาส
เมื่อฟังแบบนั้นเขาจึงตอบตกลงกับ อาจารย์ ไปในทันที
และแล้ววันแข่งขันก็มาถึง ซึ่งมีนักศึกษาส่งเข้าร่วมกับกิจกรรมนี้มากกว่า 1000 คนเลยทีเดียว และมีผลงานที่เขียนอธิบายได้ยอดเยี่ยมจนผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายมากถึง 58 ผลงาน
ซึ่งท้ายที่สุดแล้วรางวัลนี้ก็ตกเป็นของ ฮาร์แล็น ได้ในที่สุด
วิกฤติที่ไม่ได้คาดฝัน
แต่เหตุการณ์ไม่คาดก็เกิดขึ้น เพราะหลังจากที่เขาเรียนจบได้ไม่นาน ก็เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
จนส่่งผลให้ ฮาร์แล็น ไม่สามารถหางานทำได้เลย เขาจึงตัดสินใจนำเงินเก็บทั้งหมด มาเริ่มเปิดห้องทดลองเล็ก ๆ เกี่ยวกับเชื้อโรคในนมและขนมหวานใต้ถุนตึกของบ้านเช่า
พัฒนาและต่อยอด
จนวันหนึ่ง ประกาศจากทางรัฐบาลก็ได้ออกมาว่า "ให้บริษัทรีดนมวัว ทุกกิจการ ตรวจสอบเชื้อโรคในนมก่อนนำส่งมือลูกค้า" ฮาร์แล็นจึงใช้โอกาสนี้ เข้าทำงานเป็นผู้ตรวจเชื้อ และสร้างผลงานได้เป็นอย่างดี
จนเขาตัดสินใจลาออก แล้วมาเปิดบริษัทตรวจเชื้อในเมืองเอ็มฮอส หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 สัปดาห์แรก ธุรกิจของเขาก็เติบโตอย่างรวดเร็วเกินคาด อีกทั้งยังสร้างผลกำไรในปีแรก ให้เขาได้มากถึง 2 ล้านเหรียญ เลยทีเดียว
ดังที่ โรนัลด์ เรแกน กล่าวไว้ว่า "ไม่มีอุปสรรคใดในใจของเรา ไม่มีกำแพงใดขวางกั้นจิตวิญญาณของเราได้ ไม่มีสิ่งใดกีดขวางการเติบโตของเรา นอกจากตัวเราเอง "
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา