23 ก.พ. 2020 เวลา 00:10 • ธุรกิจ
จากศูนย์สู่ร้อยล้าน ก่อนอายุ 35 ปี (EP.3)
ตอนที่ 3 : ถูกรางวัลที่ 1 ในการลงทุนในอสังหาฯ (กำไรหลักล้านครั้งแรกในชีวิต )
โดย Savvy Investor (แซฟวี่ อินเวสเตอร์)
“Slow Life แต่ไม่ Slow Rich”
“ เชิญติดตาม...การเดินทางของชายคนหนึ่งที่เริ่มต้นด้วยเงินทุนเล็กๆ ไปสู่พอร์ตการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 9 หลัก ในเวลาเพียง 6 ปี !!!”
ภาพถ่ายทิวทัศน์ ตอนไปหาไอเดียใหม่ๆที่สวิสฯ
คุณหรือญาติพี่น้องเคย ถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่ 1 ไหม ครับ ?
ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ คงตอบว่า “ไม่เคย” (แต่ถ้าเคย ขอดีใจด้วยครับ)
แปลว่า มีคนส่วนน้อยเท่านั้น ที่จะถูกล็อตเตอรี่ รางวัลที่1 !!!
แค่ดู จากจำนวนรางวัล ก็รู้แล้วว่ารางวัลที่1 ยากขนาดไหน
แต่ถ้าผมจะบอกเคล็ดลับคุณว่า คุณสามารถได้กำไร ราวกับถูกล็อตเตอรี่ รางวัล ที่ 1 ทุกๆปี หรือ ต่ำๆก็รางวัลที่ 2 ปีละหลักสิบใบ มันน่าสนใจไหมครับ ? ถ้าสนใจติดตามอ่านต่อด้านล่างนี้เลย ครับ
การเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ดีๆ ยามปกติ
ปกติแล้ว เวลาเราลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปแล้ว ราคาอสังหาริมทรัพย์ดีๆ มักจะมีราคาขึ้นอยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่ายไป ตามกฎ ดีมานด์ ซัพพลาย
เนื่องจาก มนุษย์ต้องการที่ดิน ที่อยู่อาศัย ที่ค้าขาย เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ ที่ดินบนโลกใบนี้เท่าเดิม และคนที่มีที่ดินแล้ว ก็อยากมีอีก นั้นมากมาย (ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชนทั่วไป ห้ามดราม่า555) และปัจจัยการเฟ้อของค่าแรงงาน ข้าวของ เครื่องใช้ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ ขยับขึ้นตาม (ยกเว้นในกรณีวิกฤติ) ดังกราฟในรูปสเก็ต ข้างบนครับ
1
ซึ่งจากกราฟ จะเห็นได้ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่จะค่อยๆขยับขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลาครับ (เวลา จาก T1 ไป T2)
แต่จะมี อสังหาริมทรัพย์ บางแห่งหรือบางชนิดที่ราคากระโดด กระชากขึ้นในระยะเวลาอันแสนสั้น ทำให้ผู้ครอบครองมีมูลค่าเพิ่มหรือกำไรเกิดขึ้นทันทีในสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับเวลา (ถ้ายืมคำ คุณตัน อิชิตัน มาใช้ ก็เรียกได้ว่า “รวยฟ้าผ่า”) ดังกราฟด้านล่าง ครับ
2
การเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ เมื่อมีปัจจัยบวกเข้ามา
จากกราฟข้างบน จะเห็นได้ว่าราคาอสังหาฯจะกระชากขึ้น ในเวลาอันสั้นครับ ซึ่งเกิดได้จากการมี ปัจจัยในแง่บวกอย่างมาก เกิดขึ้นใกล้ๆ กับอสังหาฯของเรา
1
เช่น ซื้อคอนโดมานานแล้ว อยู่ดีๆ สถานีรถไฟฟ้ามาอยู่ใกล้ๆ หรือ ห้างดังมาเปิดใกล้ๆบ้านเรา หรือ มีการตัดถนนใหม่ทำให้เราเดินทางสะดวกขึ้น หรือสวนสนุกมาเปิดใกล้โรงแรมของเรา เป็นต้น
เหตุการณ์ เหล่านี้ ผมเรียกว่ากำไรแบบก้าวกระโดด จากการพัฒนาในทำเลที่ทรัพย์สินตั้งอยู่ (Upside from New Developments) ซึ่งหากเกิดกับใคร แทบจะบอกได้ว่า โชคดีสุดๆ กำไรนี้ราวกับถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่1 หรือรางวัลที่2 หลายๆใบเลยครับ !!!
ข่าวดี!!! ....คือ ... เบื้องหลังความโชคดี แบบนี้ มันมีความรู้ วิสัยทัศน์และความกล้าซ่อนอยู่ 70-80% ครับ ไม่ใช่โชคดีล้วนๆแบบถูกหวยรวยเบอร์ แบบนั้น
นั่นแปลว่า พวกเราสามารถทำได้ เรื่อยๆ โดยไม่ต้องเสี่ยงดวง(มากนัก) แบบซื้อล็อตเตอรี่ที่ไม่รู้ว่าชาตินี้ จะถูกรางวัลกับเขาไหม
ผมมีตัวอย่าง 2 เรื่อง จากชีวิตจริง สำหรับประกอบความเข้าใจครับ
เรื่องที่1 : มีอยู่ว่า ผมได้ลงทุน ในอาคารพาณิชย์ ห้องหัวมุมแห่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเพชรยอดมงกุฎของโครงการเลยครับ
โดยด้านหน้าของ อาคารพาณิชย์ ของผมนั้นยังเป็น พื้นที่ป่ารก และยังไม่มีการพัฒนาใดๆ (ราคาแรกที่ซื้อจึงไม่แพงมากครับ)
1
แต่ผมมีความรู้สึกว่า ทำเลแถวที่ผมซื้ออาคารพาณิชย์นี้ ยังน่าจะเติบโตได้อีกเรื่อยๆ เพราะ การเติบโตของหมู่บ้านบริเวณนั้นสูงมากๆ และน่าจะมีการพัฒนา ในที่ดินฝั่งตรงข้ามอาคารพาณิชย์ของผมในอนาคต
โชคดีมากๆ ความคิดของผมเป็นจริง !!! นั่นคือ มีการตัดถนนใหม่ๆเพิ่มเติม ทำให้จะมีรถผ่านหน้าอาคารพาณิชย์ผมเยอะขึ้น และมีข่าวว่าจะมี ตลาด เกิดขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งหากเป็นจริง ตลาดจะนำมาซึ่งผู้คนมากมาย และทำให้มูลค่า อาคารพาณิชย์ย่านนั้น สูงขึ้น
ในช่วงที่ อาคารพาณิชย์ผม กำลังใกล้จะเสร็จ ก็เริ่มมีคนมาขอซื้อต่อแล้ว ครับ แต่ผมรอการสร้างอาคารพาณิชย์ให้เสร็จก่อน และที่สำคัญผมรอให้ตลาดเริ่มสร้างก่อนเพื่อให้ผู้ซื้อหรือผู้เช่าในอนาคตมีความมั่นใจว่าตลาดขึ้นแน่ๆ
1
หลังจากตลาดเริ่มก่อสร้าง อาคารพาณิชย์ ผมแล้วเสร็จ ผมก็แปะป้ายให้เช่าเลย ครับ โอ้โห แปะได้ ไม่ถึง 2 สัปดาห์ มีคนโทรมาขอเช่าหลายคนมากๆ แต่ต้องรอนัดวันมาเปิดอาคารให้ดู ในวันที่ผมหยุดงาน (ยังเป็นลูกจ้างอยู่ครับ ตอนนั้น)
แต่มีอาเฮียท่านนึงโทรมาถาม ว่าขายไหม อยากได้จริงๆ ไม่อยากเช่า แกเสียดายค่าเช่า (แต่ไม่เสียดายค่าซื้อ555) ผมจึงคิดไป 10 นาที แล้วโทรกลับไปบอกราคา แบบอารมณ์ยังไม่อยากขาย (เพราะมีนัดดูบ้านเช่าไว้กับอีกคนแล้ว) ก็เลยบวกไปตามอารมณ์ส่งเดชครับ ...
2
ปรากฎเฮียแก ถามสวนกลับมาคำนึงว่า “ลดให้หน่อยได้ไหม?” ผมตอบว่า ยังไม่อยากขายครับ ขออนุญาตไม่ลดครับ แกเเลยรีบบอกว่า “ตกลง” ส่วนผมก็ ตกใจ!!! เลยครับ ไม่คิดว่าไม่ลดราคา แล้วคงไม่ซื้อ แต่ในเมื่อเราบอกราคา แล้วลูกค้าโอเค เราจะกลับคำก็คงไม่ได้ เลยตอบไปแบบเสียงเสียงดายนิดๆ(แอบยิ้มมุมปาก) ว่า “งั้นก็ตกลงครับ” วันรุ่งขึ้น เฮียแกมาวางเงินทำสัญญา ทันทีเลยครับ
เรื่องนี้ก็ปิดดิว เหมือนถูกรางวัลที่ 2 หลัก10ใบครับ
เรื่องที่ 2 : อันนี้เป็นเรื่องของเพื่อนผม ครับ ตอนนั้นมีโครงการหนึ่ง เป็นคอมมูนิตี้มอล (Community Mall) ที่ขายอาคารพาณิชย์แบบ mixed use ที่ภูเก็ต หน้าสถานที่ท่องเที่ยว ใกล้ชายหาดบางเทา ที่มีโครงการหรูหรามากมาย แต่ตอนเริ่มโครงการ ที่เปิดจอง ทางโครงการเองไม่ได้บอกว่า อนาคตจะมีอะไรเด็ดๆ เข้ามาอยู่ในโครงการ ไหม แค่บอกว่าจะทำให้ดีที่สุด
อาคารพาณิที่เพื่อนๆผมซื้อ ในปัจจุบัน
ผมได้เชียร์เพื่อนๆ มาลงทุน 3-4 คน ส่วนผมตอนนั้นกำลังสร้างโรงแรมของตัวเอง จึงไม่ได้ลงทุนด้วย ผมเชื่อว่าเพื่อนทุกคนที่ลงทุนได้วิเคราะห์แล้วว่า ทำเลมีศักยภาพ และน่าจะมีอะไรเด็ดๆเกิดขึ้นในภายหลัง และน่าจะพลิกโฉม คอมมูนิตี้มอล แห่งนี้
และแล้ว สิ่งที่พวกเราคาดไว้ก็มาถึง เพราะหลังจากสร้างเสร็จ ไม่นาน ได้มีข่าวว่า ทาง Villa Market จะมาเปิด ธนาคารใหญ่ๆก็มา ร้านอาหาร เกรดดีๆ ก็มาเปิดร้านกันเต็มที่ (ตามภาพ)
บรรยากาศในปัจจุบันที่การค้าคึกคัก
หลังจากที่ถือไว้ประมาณ 2-3 ปี (ระหว่างที่ถือยังได้ค่าเช่า เดือนละ 7-9 หมื่นบาทครับ) เพื่อนผม ก็ขายไป ในกำไรที่ สูงกว่าถูกรางวัลที่1 ซะอีกครับ (ซื้อ 7.9 ล้าน ขายไปกว่า 16 ล้าน) บางคนซื้อไว้ 2 ยูนิต ก็มีครับ งานนี้ กำไรท่วมเลย (แต่ก็มีบางคนขายตั้งแต่ ก่อสร้างไม่เสร็จ กำไร 3-4 แสนก็มีครับ)
เป็นไงบ้างครับ เพียงแค่ 2 ตัวอย่าง พอที่จะทำให้คุณผู้อ่าน อยากลองทำบ้างไหมเอ่ย ?
แต่ก่อนจะเริ่มทำจริง ลองอ่านสรุปเทคนิคการมองทำเลคร่าวๆเผื่อจะถูกรางวัลล็อตเตอรี่ แบบผมและเพื่อนๆบ้างครับ
1. คาดการณ์จากทำเล และพื้นที่จริง พร้อมประเมินศักยภาพทำเล การอยู่อาศัย หรือทำการค้าจริงๆ เป็นยังไง อันนี้สำคัญมาก ถ้ามองพลาด คุณอาจจะได้รางวัลที่ 3-4-5 แทนครับ
2. ศึกษาเชิงลึก อ่านเกมส์ได้ ใครคือเจ้าของที่ดินที่ว่างเปล่ารอบๆของโครงการที่เราจะซื้อบ้าง เขามีศักยภาพไหม ? มีวิสัยทัศน์ไหม? และมีทุนทรัพย์ในการพัฒนาไหม? (ข้อนี้ ใช้ได้ดีกับที่ดิน ต่างจังหวัดครับ เพราะยังมีที่ดินว่างเปล่า และ แนวโน้มการพัฒนาต่ออีกเยอะ )
3. รัฐฯ มีแผนพัฒนาพื้นที่แถวทำเลเราหรือไม่? ต้องดูพวกนโยบายต่างๆ การตัดถนน หรือสาธารณูปโภคต่างๆ
4. ต้องดูศักยภาพเจ้าของโครงการ ว่ามีความสามารถมากเพียงไหนครับ เพื่อเป็นหนึ่งในแรงผลักดันหลัก ให้กับอสังหาริมทรัพย์ที่เราจะซื้อด้วยครับ
5. มีเพื่อนนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยกันเยอะๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน รวมถึงการพากันไปซื้อ เพื่อสร้างเป็นกลุ่มพิเศษ ในการเจรจาต่อรอง กรือได้สิทธิ์พิเศษ จากเจ้าของโครงการ เช่น ได้เลือกก่อนใคร ได้ดีลราคาพิเศษ เป็นต้น
สุดท้ายนี้ ขอให้หาให้เจอรางวัลที่1 ของคุณครับ โชคดีครับ
*** ถ้าคิดว่าเป็นประโยชน์ รบกวนช่วยกด Like กด ติดตาม และแชร์ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
โฆษณา