ประวัติศาสตร์รำลึก,
#ต้องใหญ่โตแค่ไหนถึงจะใหญ่โตราวกับรับซาร์เรวิช,#โพสต์ตามคำขอ,
(ตอนที่ 1),
1)#ใหญ่โตราวกับรับซาร์เรวิช,
-“ใหญ่โตราวกับรับซาร์เรวิช”, เป็นวลีที่คนไทยในสมัยรัชกาลที่5 ใช้พูดเมื่อสัพยอกใคร ที่ทำอะไรใหญ่โตหรูหรา เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่อลังการ โดยเปรียบเปรยกับการจัดการต้อนรับซาร์เรวิชของสยาม ในครั้งนั้น ท่ีเรียกว่าใหญ่โต หรูหรา ยิ่งใหญ่ อลังการ ซึ่งงานท่ีต้องอาศัยแรงงานคนจำนวนมาก เพื่อตระเตรียมให้ออกมาอย่างสมบูรณ์,
-“ใหญ่โตแค่ไหนกัน” ส.พลายน้อย เขียนเล่าไว้ใน “เกร็ดโบราณคดี ประวัติศาสตร์ไทย” ถึงความยิ่งใหญ่ ซึ่งพอจะสรุปโดยสังเขป ได้ว่า
“.. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดฯให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ เสด็จออกไปรับเจ้าซาร์เรวิชที่สิงคโปร์.., และเมื่อเรือ”โกริช” ของรัสเซียมาถึงสยาม ผ่านสันดอนปากแม่น้ำ จนถึงท่าราชวรดิฐ ก็จะพบกับประดับประดาอย่างงดงาม ซึ่งมีแผ่นป้ายเขียนต้อนรับเป็นภาษารัสเซีย และกองทหารเกียรติยศสยามบรรเลงเพลงชาติรัสเซียต้อนรับการเสด็จ อันสร้างความประทับใจนับตั้งแต่ก้าวแรกสู่สยามกับคณะ
แกรนด์ดุกซาร์เรวิช,
โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวถวายการต้อนรับซาเรวิชด้วยพระองค์เอง อยู่ใต้ซุ้มประตู,
ภาพถ่ายมุมกว้างโดย”เอฟ.จิตร แอนด์ซัน” ของซุ้มต้อนรับแกรนด์ดุกซาร์เรวิช เมื่อครั้งเสด็จเยือนสยาม ระหว่างวันที่ 20-25 พ.ศ.2434,
-จากนั้นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ แลผู้ที่ประจำรับรอง จึงเชิญแกรนด์ดุกซาร์วิช เสด็จเข้าในพระบรมมหาราชวัง มีการถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่ง มหาจักรีบรมราชวงศ์ อันเป็นเครื่องราชฯ ชั้นสูงสุดของไทย ที่สงวนไว้เฉพาะผู้มีกำเนิดเป็นเจ้านายชั้นสูงแก่แกรนด์ดุกซาร์เรวิช ซึ่งเป็นการให้คุณค่าและการยอมรับซาร์เรวิชเสมอเหมือนเจ้านายสยามพระองค์หนึ่ง ซึ่งนับเป็นวิเทโศบายของสยามที่สามารถผูกใจ มกุฎราชกุมารแห่งรัสเซียพระองค์นี้ให้เป็นมิตรแท้ของสยาม ในเวลาต่อมา,
ภาพถ่ายมุมกว้าง โดย ฟรานซิส จิตร แอนด์ซัน, ขบวนเสด็จของมกุฏราชกุมารซาร์เรวิช ภายในพระบรมมหาราชวัง
-จากนั้น เวลาบ่าย เชิญไปดูมิวเซียม แลขึ้นภูเขาทอง, จวบจนเวลาค่ำแกรนด์ดุกซาร์วิช จึงขึ้นรถ แล้วไปลงเรือที่ท่าสุนันทาลัย ไปดูละครบ้านเจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรง (เพ็ง ต้นสกุล เพ็งกุล) ใต้ประตูนกยูง ท่าเตียน,
ภาพถ่าย โดยฟรานซิส จิตร “..สมเด็จฯเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฏราชกุมารกำลังจะเสด็จขึ้นรถม้าพระที่นั่ง ซึ่งเทียบอยู่ที่หน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยมีคณะผู้ติดตามซาร์เรวิชเดินตามเสด็จ,
-และไฮไลท์ของการต้อนรับซาร์เรวิช อันเป็นที่มาของประโยค “ใหญ่โตราวกับรับซาร์เรวิช”นั้น จะปรากฎอย่างชัดเจนใน ตอนที่ 2, และในตอนที่ 2 นี้เอง จะทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงมุมมองของคณะซาร์เรวิชจากสายตามหาอำนาจประเทศ สู่ มหามิตรของสองประเทศ,
2)#เกร็ดเพิ่มเติม,
-หลังจากที่นิโคลัสได้รับตำแหน่งซาเรวิชมาได้ไม่นาน ในปี 1890 ซาเรวิชนิโคลัสได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทั้งเอเชีย เพื่อดูการเมืองการปกครอง และวัฒนธรรมของเหล่าชาติในเอเชีย ซึ่งในการท่องเที่ยวครั้งนี้พระองค์ไปพร้อมกับ น้องชายแกรนด์ดยุคจอร์ช อเล็กซานโดรวิช และลูกพี่ลูกน้องเจ้าชายจอร์ชแห่งกรีกและเดนมาร์ก,
-Tsesarevich Nicholas Grand Tour to the Far East, ในระหว่าง ปีพุทธศักราช 2433-2434 รวมระยะทาง
31,000 ไมล์ หรือ 51,000 km), โดยแบ่งเป็น การเดินทางโดยรถไฟ 15,000 km และทางเรือ 22,000 km โดยเริ่มต้นจาก
St. Petersburg via Austria, Trieste, Italy, Greece, Egypt, India, Sri Lanka (Ceylon), Indonesia, Siam, French Indo-China (Vietnam), Japan, and Vladivostok (Eastern terminus of the Trans-Siberian Railway), across Siberia back to St. Petersburg,
สวัสดี และขอจบ เพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ,
ร้อยเรียงข้อมูล (T.Mon)
23/2/2020
ภาพ และข้อมูลสนับสนุนส่วนหนึ่ง: เกร็ดโบราณคดี ประวัติศาสตร์ไทย- ส.พลายน้อย, Chulalongkorn, King of Siam. Far from Home - Fern von Zuhause - Loin des siens. Bangkok:
Chulalongkorn University, European Studies Programme, 1997,เบื้องหลังการเยือนกรุงสยามของมกุฎราชกุมารรัสเซีย
มิติการเมืองใหม่สมัย ร.5, อ.ไกรฤกษ์ นานา,หนังสือฉายาลักษณ์สยาม,
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
