Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
7 มี.ค. 2020 เวลา 04:09 • ประวัติศาสตร์
“สงครามครูเสด (Crusades) สงครามศาสนาครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์” ตอนที่ 2
2
ความผิดพลาดของกองทัพครูเสด
2
สำหรับอัศวินส่วนมาก สงครามครูเสดคือสงครามที่ไม่เข้าร่วมไม่ได้
1
อัศวินส่วนมากเป็นลูกขุนนางชั้นสูง และได้รับการฝึกฝนการต่อสู้มาตั้งแต่ยังเด็ก
โดยปกติ ก่อนออกรบ อัศวินมักจะต้องสวดมนตร์ อ้อนวอนต่อพระเจ้าเป็นเวลานับเดือนเพื่อให้พระเจ้ายกโทษต่อบาป บาปที่เกิดจากการสังหารศัตรูในสนามรบ
แต่สงครามครูเสดนี้ไม่เหมือนกับสงครามครั้งก่อนๆ การปกป้องดินแดนศักดิ์สิทธิ์คือหน้าที่ของอัศวิน ขณะที่รับสั่งปลุกใจ พระสันตะปาปาถึงกับตรัสว่าบาปทุกอย่างที่กระทำในสงครามศักดิ์สิทธิ์นี้จะได้รับการงดเว้น ผู้คนถึงกับเชื่อว่าการฆ่ามุสลิมจะทำให้ได้ขึ้นสวรรค์ซะด้วยซ้ำ
1
อัศวินครูเสด
แต่อย่างไรก็ตาม มีอัศวินเพียงไม่กี่คนที่เฝ้ารอการเดินทางไปในสงครามครั้งนี้
สงครามครั้งนี้จะต้องเดินทางยาวไกลเป็นระยะทางกว่า 3,000 ไมล์ อีกทั้งเส้นทางก็เต็มไปด้วยอันตราย ไม่มีแผนที่หรือคนนำทาง และไม่มีใครรู้อะไรเกี่ยวกับศัตรูที่จะต้องเผชิญหน้าเลย
นอกจากนั้น การเดินทางครั้งนี้ต้องใช้เงินทุนสูง อัศวินแต่ละคนต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับอาวุธและเสบียง การวางแผนและเตรียมตัวก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน
กองทัพอัศวินครูเสด
แต่สำหรับชาวบ้านที่ยากจน สงครามครูเสดคือโอกาสที่จะสร้างชื่อและลืมตาอ้าปาก
ชีวิตของชาวบ้านในยุคนั้นยากลำบาก หนูและแมลงทำให้โรคระบาดกระจายไปทั่ว น้ำท่วมและความหนาวเย็นก็ทำให้พืชผลเสียหาย และในแต่ละปี ก็มีเด็กๆ ที่ต้องอดตายนับพัน
หลายๆ ครอบครัวจึงมองว่าสงครามครูเสดคือการผจญภัยครั้งใหญ่และอาจจะสร้างชื่อให้พวกเขาได้อีกด้วย
อัศวินและทหารนับพันได้ปฏิญาณที่จะสู้ตามพระประสงค์ของพระเจ้า และต่างก็ใส่เครื่องแบบที่มีลายกางเขนสีแดง
1
ในไม่ช้า ทหารกว่า 100,000 นายก็พร้อมที่จะเดินทางสู่เยรูซาเลม
กองทัพอัศวินครูเสด
ฤดูใบไม้ผลิค.ศ.1096 (พ.ศ.1639) ทหารซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดาได้เริ่มออกเดินทาง
ทหารกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มาจากภาคเหนือของฝรั่งเศสและเยอรมนี และระหว่างการเดินทาง ก็ได้มีผู้เข้าร่วมกับกองทัพอีกนับพัน
4
กองทัพชาวบ้านนี้มีจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีการเตรียมพร้อม ไม่มีการวางแผน ไม่มีการจัดการ แทบไม่มีใครรู้เลยว่าจะไปถึงเยรูซาเลมได้ยังไง ที่สำคัญ พวกเขาไม่รู้ว่าหากไปถึงเยรูซาเลมแล้วจะต้องทำยังไงเพื่อจะยึดเมืองจากศัตรู
ชาวบ้านเหล่านี้คิดแต่เพียงว่าพระเจ้าจะนำพาชัยชนะมาสู่พวกเขา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีเสบียง ไม่มีทุน และไม่รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้ยากลำบากแค่ไหนก็ตาม
1
ดูเหมือนการขาดความรู้และเสบียง เรียกได้ว่าไม่มีความพร้อมเลย เริ่มจะส่งผลเสียในภายหลัง
ภายหลังจากเดินทางมาเป็นเวลานับเดือน ทหารชาวบ้านกลุ่มนี้ก็เริ่มจะไม่ไหว พวกเขานั้นอดอยาก เหน็ดเหนื่อย อ่อนล้าและหิวโหย
ทหารกว่าพันนายตายระหว่างการเดินทัพ อีกนับพันหันหลังกลับบ้าน และในไม่ช้า พวกเขาก็สิ้นหวัง และความสิ้นหวังก็กลายเป็นความโกรธ
ภายหลังจากมาถึงฮังการี กลุ่มทหารชาวบ้านที่เข้าร่วมในสงครามครูเสดได้ทำการปล้นร้านค้าและบ้านเรือน เข่นฆ่าทุกคนที่ขวางทาง
1
ที่เมืองเซมลิน กลุ่มทหารได้ทำการฆ่าชาวยิวกว่า 4,000 คน และที่เบลเกรด ทหารก็ได้ทำการเผาเมืองไปกว่าครึ่ง และดูเหมือนจะเหลืออัศวินครูเสดเพียงไม่กี่คนที่ยังมุ่งมั่นจะไปให้ถึงเยรูซาเลม
1
อัศวินครูเสดเข่นฆ่าชาวยิว
เมื่อทหารชาวบ้านมาถึงคอนสแตนติโนเปิล องค์จักรพรรดิก็ทรงตกพระทัยในสิ่งที่เห็น
พระองค์ทรงคาดหวังว่าจะได้กองทัพมาช่วยปกป้องและขับไล่พวกมุสลิม แต่สิ่งที่พระองค์เห็นคือกลุ่มชาวบ้านที่ป่าเถื่อน
1
เมื่อไม่รู้จะทำอย่างไร พระองค์จึงต้องพระราชทานเสบียงให้ทหารชาวบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ และทหารชาวบ้านก็เดินหน้าต่อ มุ่งไปยังดินแดนตุรกี ทำการโจมตีหมู่บ้านแต่ละแห่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
1
แต่ชะตากรรมของทหารชาวบ้านก็ไม่ดีนัก พวกเขายึดปราสาทร้างเป็นที่มั่น แต่กองทัพตุรกีที่กำลังโกรธแค้นก็ได้ล้อมรอบปราสาทและฆ่าทหารชาวบ้านตายเกือบหมด
ทหารชาวบ้านจากกองทัพครูเสดนั้นสร้างความเสียหายไว้มาก ในบรรดาชายหญิงที่ออกเดินทางจากยุโรปกว่า 100,000 คน เหลือรอดเพียงไม่ถึง 3,000 คน และพวกเขาก็เดินทางไปยังคอนสแตนติโนเปิลเพื่อรวมกับอีกกองทัพที่กำลังเดินทัพมาจากทางตะวันตก
กองทัพอัศวินครูเสดเดินทางมาถึงชายแดนของยุโรปในฤดูร้อน ค.ศ.1096 (พ.ศ.1639) โดยกองทัพอัศวินครูเสดได้ตั้งค่ายนอกเมืองคอนสแตนติโนเปิล
1
กองทัพอัศวินครูเสดกว่า 40,000 นายได้ทำการตั้งค่าย และทั้งค่ายก็เต็มไปด้วยเกวียนที่บรรทุกอาวุธ และสัตว์ที่ทำหน้าที่ขนเสบียง
2
นอกจากอัศวินแล้ว ยังมีผู้แสวงบุญที่ติดตามมาด้วยอีก 60,000 คน มีทั้งคนรับใช้ พ่อครัว รวมทั้งครอบครัวของอัศวิน
กองทัพที่ใหญ่โตนี้ได้ปักหลักอยู่ที่คอนสแตนติโนเปิลเป็นเวลาแรมเดือน และในระหว่างนั้น เหล่าอัศวินก็ใช้เวลารวบรวมเสบียงและวางแผนลงใต้ ก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางในฤดูใบไม้ผลิของปีค.ศ.1097 (พ.ศ.1640)
การเดินทัพของกองทัพอัศวินครูเสดนั้นล่าช้าตั้งแต่ต้น
เกวียนและม้าต่างต้องบรรทุกเสบียงจำนวนมาก อัศวินเองก็ต้องใส่เกราะที่หนาและหนัก ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างล่าช้า แค่เดินทัพทั้งหมดออกจากที่มั่นก็ใช้เวลากว่าสามวัน
ในยามค่ำคืน เหล่าผู้นำทัพ ทั้งเจ้าชายและลอร์ดจากดินแดนต่างๆ ทั่วยุโรปได้ประชุมกัน และตัดสินใจที่จะแบ่งทัพ
ครึ่งหนึ่งของกองทัพจะเดินทัพล่วงหน้าไปหนึ่งวัน โดยมีเจตนาเพื่อที่จะให้กองทัพนั้นเดินทางได้รวดเร็ว
แต่จริงๆ แล้วนี่เป็นการทำให้ทัพนั้นยิ่งอ่อนแอลงไปอีก
กองทัพครูเสดครึ่งหนึ่งเดินทัพมาถึงเมือง Dorylaeum และอยู่ๆ เสียงแตรก็ดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขา
ทันใด ทหารม้ามุสลิมกว่า 30,000 นายก็ได้บุกเข้ามาในหุบเขา โจมตีกองทัพครูเสดและล้อมกองทัพครูเสดไว้
กองทัพครูเสดครึ่งหนึ่งที่มานี้มีจำนวนน้อยกว่าศัตรูมาก สิ่งเดียวที่ทำได้ นั่นคือการเกาะกลุ่มกันเป็นวงกลม โดยอัศวินครูเสดได้ล้อมผู้หญิงและเด็ก ทำตัวเป็นเกราะกำบังให้ผู้หญิงและเด็ก
ห้าชั่วโมงผ่านไป ซึ่งตลอดเวลา อัศวินครูเสดต้องพยายามต้านทานศัตรู และอัศวินครูเสดนับร้อยก็ได้ถูกฆ่าตาย แต่วงกลมของทัพครูเสดยังคงหนาแน่นและเกาะกลุ่มกันอย่างดี
ยุทธการที่ Dorylaeum
ภายหลังจากเวลาเที่ยงวันผ่านไป กองทัพครูเสดอีกครึ่งหนึ่งก็ได้มาถึงหุบเขา และรีบรุดมาช่วยกองทัพครูเสดที่กำลังแย่
ทหารมุสลิมนั้น เมื่อเห็นกองทัพครูเสดอีกกองทัพมาถึง ต่างก็รีบสั่งถอยทัพ เนื่องจากทหารมุสลิมนั้น เครื่องแต่งกายก็คือผ้าธรรมดา ในขณะที่อัศวินครูเสดนั้นใส่เกราะอย่างดี การโจมตีของทหารมุสลิมนั้นจะเน้นความว่องไวและโจมตีโดยไม่ให้ศัตรูตั้งตัว
กองทัพมุสลิมรีบถอยทัพ โดยระหว่างทางนั้น ทหารมุสลิมได้ทำการวางยาพิษในบ่อน้ำและเผาไร่พืชผลต่างๆ ตลอดเส้นทางเพื่อไม่ให้ศัตรูมีน้ำและอาหาร
ภายหลังจากที่กองทัพมุสลิมถอยทัพไปแล้ว สิ่งที่กองทัพครูเสดพบคือหายนะ
พวกเขาอยู่บนที่ราบแห้งแล้งในภาคกลางของตุรกี รอบๆ มีแต่ความแห้งแล้ง เหล่าทหารต่างกระหายและอ่อนล้า ม้าก็ตายไปหลายตัว
ในยามค่ำคืน ค่ายของพวกเขาก็เต็มไปด้วยแมงมุมและงูพิษ และในแต่ละวันก็มีอัศวินครูเสดตายไปนับร้อยราย
บรรยากาศในค่ายตึงเครียด เหล่าทหารเริ่มเครียดและทะเลาะกันเอง ทหารหลายกลุ่มเลือกที่จะหนีทัพและหันไปยึดเมืองเล็กๆ ระหว่างทางแทน
กองทัพที่เหลือได้บุกตีเมืองแอนติออก และได้พักผ่อน รวมทั้งรวบรวมเสบียงในเมือง
แต่ภายหลังได้เกิดโรคระบาดและแผ่นดินไหว ทำให้ทหารบาดเจ็บล้มตายเป็นอันมาก เมื่อกองทัพครูเสดเดินทัพออกจากแอนติออกในเดือนมกราคม ค.ศ.1099 (พ.ศ.1642) กองทัพก็เหลือคนไม่ถึง 15,000 คน และมีอัศวินครูเสดเพียงแค่ 1,300 นายเท่านั้น
1
ยุทธการแอนติออก
แต่เมื่อเดินทัพไประยะหนึ่ง ภาพเลือนรางของเยรูซาเลมก็เริ่มปรากฎสู่สายตาของพวกเขา
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้านะครับ
References:
https://www.metmuseum.org/toah/hd/crus/hd_crus.htm
https://www.historytoday.com/archive/feature/crusades-complete-history
https://www.ancient.eu/article/1249/the-crusades-causes--goals/
https://www.ancient.eu/Crusades/
https://www.britannica.com/event/Crusades
https://www.history.com/topics/middle-ages/crusades
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Crusades
https://www.historynet.com/first-crusade-peoples-crusade.htm
https://isj.org.uk/exploring-the-peasant-crusaders/
http://uo-medievalchristianity.weebly.com/blog/crusades
https://www.thoughtco.com/the-peoples-crusade-1788840
https://en.m.wikipedia.org/wiki/People%27s_Crusade
https://warfarehistorynetwork.com/2016/09/22/dorylaeum-the-first-christian-muslim-clash-of-the-crusades/
http://www.historyofwar.org/articles/battles_dorylaeum.html
https://www.historynet.com/first-crusade-battle-of-dorylaeum.htm
https://www.britannica.com/event/Crusades/From-Constantinople-to-Antioch#ref955854
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Battle_of_Dorylaeum_(1097)
https://www.britannica.com/event/Siege-of-Antioch-1097-1098
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Battle_of_Antioch_(1098)
1
61 บันทึก
238
22
33
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
“สงครามครูเสด (Crusades) สงครามศาสนาครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์”
61
238
22
33
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย