“สงครามครูเสด (Crusades) สงครามศาสนาครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์” ตอนที่ 3
ชัยชนะของกองทัพครูเสด
กองทัพครูเสดจ้องมองไปยังเมืองที่เห็นอยู่เบื้องหน้า โดยครั้งแรก ทุกคนคิดว่าสิ่งที่เห็นคือภาพลวงตา
แต่เมื่อเดินทัพเข้าไปใกล้กำแพงเมือง พวกเขาก็พบว่าสิ่งที่เห็นนั้นไม่ใช่ภาพลวงตา ในที่สุด ภายหลังจากออกเดินทัพมากว่าสามปี พวกเขาก็มาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์
แต่ถึงจะดีใจที่มาถึงเยรูซาเลมแล้วก็ตาม แต่ก็มีความกังวลใจตามมา
กำแพงเมืองเยรูซาเลมยาวเกือบ 15 กิโลเมตร หนากว่าสามเมตร สูงกว่า 15 เมตร นอกจากนั้น หอคอยก็ยังเต็มไปด้วยทหารมุสลิมนับพันที่คอยป้องกันเมือง
ทหารครูเสดมาถึงเยรูซาเลม
กองทัพครูเสดจำเป็นต้องมีหอล้อมเมืองเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นหอขนาดใหญ่ติดล้อและใช้โจมตีเมือง
แต่การจะทำหอล้อมเมืองเคลื่อนที่จำเป็นต้องใช้ไม้ และในบริเวณนั้นก็มีต้นไม้ไม่มากนัก
หอล้อมเมืองเคลื่อนที่
กองทัพครูเสดได้ตั้งค่ายนอกกำแพงเมืองกว่า 39 วัน โดยตอนกลางวันนั้นอากาศร้อนจัด ส่วนยามค่ำคืนก็อากาศหนาวจัดจนทหารต่างทนไม่ไหว
บ่อน้ำที่มีเพียงแห่งเดียว ที่พอจะช่วยดับกระหายให้เหล่าทหารได้ก็คือบ่อน้ำที่อยู่ใกล้กำแพงเมือง ซึ่งการจะเข้าไปดื่มน้ำในบ่อก็เสี่ยงมาก เนื่องจากทหารที่อยู่บนกำแพงเมืองก็จะยิงธนูใส่ หากมีทหารเข้ามาใกล้บ่อน้ำ
ต่อมา กรกฎาคม ค.ศ.1099 (พ.ศ.1642) เรือเสบียงสองลำได้มาถึงเมืองจาฟฟา โดยบรรทุกทั้งเสบียงและน้ำ รวมทั้งไม้มาอีกด้วย
เหล่าทหารของกองทัพครูเสดได้ทำการก่อสร้างหอล้อมเมืองเคลื่อนที่จำนวนสองหลัง รวมทั้งเครื่องกระทุ้งขนาดใหญ่ และเทรบูเชต (Trebuchets) ซึ่งเป็นเครื่องยิงก้อนหิน
เครื่องกระทุ้งขนาดใหญ่
เทรบูเชต (Trebuchets)
หอล้อมเมืองขนาดใหญ่ของกองทัพครูเสดนั้นมีความสูงสามชั้นและมีขนาดมหึมา
เช้าวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ.1099 (พ.ศ.1642) กองทัพครูเสดได้ดันหอล้อมเมืองนี้เข้าไปประชิดกำแพงเมือง ซึ่งทหารมุสลิมก็รีบวิ่งมาประจำที่ ต่อสู้อย่างดุเดือดกับอัศวินครูเสด
เมื่อต่อสู้ไปซักพัก ก็ได้เกิดควันขนาดใหญ่พุ่งขึ้นจากในกำแพงเมือง หอคอยในเมืองกำลังเกิดไฟไหม้
กองทัพครูเสดบุกเยรูซาเลม
อัศวินครูเสดที่อยู่ในหอล้อมเมืองรีบชักสะพานในหอล้อมเมือง พาดกับยอดกำแพง และบุกเข้าไปในเมือง
กองทัพครูเสดที่บุกเข้าไปในเมืองต่างบ้าคลั่ง พวกเขาบุกเข้าไปในบ้านของชาวบ้าน ลากชาวบ้านออกมาฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
ทหารหลายนายก็บุกเข้าไปในบ้านของชาวบ้าน คว้าสิ่งของมีค่าในเมือง
กองทัพที่มีจุดประสงค์เพื่อพระเจ้าและต้องการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ บัดนี้ได้กลายเป็นกองทัพที่โหดร้ายและได้ก่อการฆ่าล้างชาวเมืองครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ยุคกลาง
กองทัพครูเสดบุกเยรูซาเลม
ถนนในเมืองเต็มไปด้วยเลือด เป็นภาพที่ชวนให้หดหู่
กองทัพครูเสดประสบชัยชนะและสามารถบุกยึดเยรูซาเลมได้ แต่พวกมุสลิมไม่ลืมความแค้นครั้งนี้แน่นอน
ทหารในทัพครูเสดที่รอดชีวิตจากสงครามยึดเมืองเยรูซาเลมมีจำนวน 15,000 นาย แต่มีเพียง 3,000 นายที่เลือกจะอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนที่เหลือตัดสินใจเดินทางกลับยุโรป
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้รับการบูรณะฟื้นฟู และได้มีการเลือกอัศวินมากประสบการณ์ผู้หนึ่ง คือ “บอลด์วินที่ 1 เคานท์แห่งเอเดสสา (Count of Edessa)” ขึ้นเป็น “พระเจ้าบอลด์วินที่ 1 แห่งเยรูซาเลม (Baldwin I of Jerusalem)” กษัตริย์พระองค์แรกแห่งเยรูซาเลม
พระเจ้าบอลด์วินที่ 1 แห่งเยรูซาเลม (Baldwin I of Jerusalem)
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกแบ่งออกเป็นอาณาจักรแห่งอัศวินครูเสดจำนวนสี่แห่ง นั่นก็คือ
1.เยรูซาเลมและดินแดนรอบๆ
2.แอนติออก
3.เอเดสสา
4.ตริโปลี
แผนที่อาณาจักรแห่งอัศวินครูเสด
อัศวินครูเสดต่างรู้สึกสุขสบายกับชีวิตในตะวันออก พวกเขาได้ลองกินอาหารที่ไม่มีในยุโรป เช่น มะนาว มะกอก อ้อย และสวมเสื้อผ้าที่ทำมาจากฝ้ายและผ้าไหม
อัศวินหลายกลุ่มเช่น “อัศวินเทมพลาร์ (Knight Templar)” และ “อัศวินผู้อภิบาล (Knights Hospitaller)” ซึ่งทำหน้าที่ปกป้องอาณาจักรแห่งอัศวินครูเสดต่างก็ทรงอำนาจและมีฐานะร่ำรวย
อัศวินเทมพลาร์ (Knight Templar)
อัศวินผู้อภิบาล (Knights Hospitaller)
อัศวินครูเสดยังสร้างปราสาทอีกหลายแห่งเพื่อเป็นฐานที่มั่น ป้องกันการโจมตีจากมุสลิม เรียกว่าวางรากฐานและระบบต่างๆ อย่างดี
ดูเหมือนว่าอัศวินครูเสดในดินแดนนี้จะมีชีวิตที่ดีและเป็นสุข แต่สงครามยังไม่จบ
กองทัพมุสลิมต้องหาทางชำระแค้นอย่างแน่นอน
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้าครับ
- 35
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
