นวัตกรรมจากการวิจัยเพื่อการอำนวยความยุติธรรมแบบล้ำสมัยที่นักวิจัยจาก 15 โครงการ ได้ร่วมกันพัฒนาขึ้น ใน 3 ด้าน คือ
1) นวัตกรรมทางกฎหมาย มี 6 โครงการ ที่เกี่ยวกับการลดข้อจำกัดและความยุ่งยากของข้อกฎหมายต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานคดีที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ได้มีการรวบรวมและสกัด องค์ความรู้จัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับมาตรฐานและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการบูรณาการ ความร่วมมือในกระบวนการสอบสวนของสหวิชาชีพ และการใช้กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์เพื่อส่งเสริมทั้งความยุติธรรมทางกฎหมายและความยุติธรรมทางสังคมควบคู่กัน โดยค้นพบนวัตกรรมเด่นในการแก้ไขปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขเร่งด่วน ในเรื่องที่ทำการสอบสวนปากคำผู้เสียหาย ผู้ต้องหา หรือพยาน ที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี
2) นวัตกรรมทางนิติวิทยาศาสตร์ มี 4 โครงการ ได้พัฒนาเทคนิคการตรวจวิเคราะห์กัญชาและสารเสพติดชนิดอื่น ๆ ในเส้นผม พัฒนากระบวนการจัดการและวิเคราะห์วัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ให้สามารถอธิบายเหตุการณ์แทนการสอบสวนกับเด็กและเยาวชน และเสนอรูปแบบพิมพ์เขียวห้องสอบสวนคดีเด็กและเยาวชนที่สามารถใช้เป็นต้นแบบให้แก่สถานีตำรวจทั่วประเทศ พบนวัตกรรมที่โดดเด่นในเรื่องการพัฒนาระบบป้องกันการเสพติดซ้ำของเด็กและเยาวชน โดยการตรวจสารเสพติดในเส้นผม ซึ่งปัจจุบันจะตรวจจากปัสสาวะ
3) นวัตกรรมด้านฐานข้อมูล มี 5 โครงการ ได้จัดทำเป็นแผนที่จุดเสี่ยงในการกระทำผิดของเด็กและเยาวชนสำหรับการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่และการหลีกเลี่ยงอันตรายของประชาชนชนทั่วไป การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลอาชญากรรมและการพยากรณ์แนวโน้มของการกระทำผิด รวมถึงการพัฒนาระบบภาคีเครือข่ายอาชีพเพื่อส่งเสริมกระบวนการคืนคนดีสู่สังคมและลดโอกาสการกระทำผิดซ้ำ ตลอดจนการสร้างเครือข่ายเยาวชนโดยใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นตัวเชื่อมโยงเพื่อการป้องกันการกระทำผิดและการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่สอดคล้องกับสังคมในยุคดิจิทัล ซึ่งค้นพบนวัตกรรม Program Application ที่สามารถประเมินพฤติกรรมเด็กและเยาวชน ที่คาดว่าจะมีพฤติกรรมกระทำผิดซ้ำ