คลีโอพัตรานางพญารักบันลือโลกตอนที่11
กล่าวถึงตอนที่แล้ว
มาร์คแอนโทนี่ เขาเพิ่งรู้ว่าคลีโอพัตรายังไม่ตาย จึงสั่งให้ทหารแบกร่างของเขาที่เต็มไปด้วยเลือดไปหาเธอ มาร์ค แอนโทนี่ ตายในอ้อมแขนของผู้หญิงที่เขารักยิ่งกว่าชีวิตและอำนาจ สมใจ
คลีโอพัตรารู้ดีว่า นางมิอาจใช้เสน่ห์ของนางกับอ็อกตาเวียนได้ เพราะเจตนาของอ็อกตาเวียนมาเพื่อบดขยี้ เขาอาจไม่ฆ่านางที่อียิปต์ แต่จับตัวไปประจานถึงโรม ดังที่ผู้นำโรมันมักทำกันเพื่อเรียกความนิยมจากประชาชน ก่อนให้ประชาชนสังหารนางโดยการใช้ก้อนหินขว้าง มันเป็นความอัปยศเกินกว่า นางพญาอียิปต์สมมุติเทพสูงศักดิ์จะรับได้
คลีโอพัตรา เตรียมฆ่าตัวตายและเผาเมืองอเล็กซานเดรียให้สิ้น แต่
อ็อกตาเวียนส่งทาสคนหนึ่งของนางเข้าไปพบ เพื่อบอกนางว่า เขาเองมีใจต่อนาง รักนางมาครึ่งทางแล้ว ขอให้นางมาบรรจบพบรักที่เติมเต็มต่อหน้าเขาเถิดแผนร้ายของอ็อกตาเวียนทำให้พระนางคลีโอพัตราเสมือนมองเห็นทางรอดของนาง
ซีซาร์ ออกัสตัส และ จุดจบของคลีโอพัตรา
อีกครั้งหนึ่ง ที่เหมือนชะตากรรมให้คลีโอพัตรา มีโอกาสที่จะขบกัดผลเชอร์รี่เป็นครั้งที่สาม ทำให้เธอมีความหวังว่า อ็อกตาเวียนกำลังเป็นผู้ครองอาณาจักรโรมัน ถ้าหากนางลากเขาขึ้นเตียงได้ นางก็จะเป็นนางพญาเคียงข้างเขา
เมื่ออ็อกตาเวียนเข้าเมืองอเล็กซานเดรีย เขาก้าวไปสู่วังอันแสนงามวิจิตรดุจสวรรค์ของคลีโอพัตรา แล้วพบว่า นางรอเขาอยู่แล้ว
pixzabay
นางอยู่ในชุดแพรบางเบากึ่งเปลือย รอบล้อมไปด้วยรูปปั้นของจูเลียส ซีซาร์ เธออ่านจดหมายรักที่ จูเลียส ซีซาร์ พรรณนาความรักกับเธอด้วยเสียงอ่อนหวาน พรางสบตา อ็อกตาเวียนแบบยอมศิโรราบสิ้น
ทว่าครั้งนี้ มนต์เสน่ห์ยวนใจบุรุษของนางไม่บังเกิดผล
คลีโอพัตรา อายุสามสิบเก้า ไม่ใช่สาวสะพรั่งอายุยี่สิบเอ็ด เหมือนเมื่อครั้งที่เธอหว่านเสน่ห์ให้กับ จูเลียส ซีซาร์ อ็อกตาเวียนยืนนิ่ง ดูนางอย่างหมายเหยียด ปนเวทนา นางทุ่มกายแทบเท้าเขา อ้อนวอนขอตายอย่างมีศักดิ์ศรี นางพญาแห่งอียิปต์ แต่อ็อกตาเวียนต้องการพานางกลับโรม เขาจะเอานางไปแห่ที่ เวีย ซาครา จัตุรัสกลางใจโรม ให้ประชาชนได้ดูหน้านางพญาแห่งอียิตป์ในฐานะเชลยศึก โห่ร้องด้วยความเกลียดชัง อันยิ่งสร้างบารมีให้กับเขา เขากักขัง คลีโอพัตรา ในวังของนาง ตรวจสอบอาหารทุกมื้อ เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายด้วยการกินยาพิษ
อ็อกตาเวียนไม่รู้ว่า ราชวงศ์ชั้นสูง ฟาห์โรแห่งอียิปต์ทุกองค์ มีจารีตประเพณีไปสู่ความตายอย่างมีเกียรติ เมื่อหมดหนทางหนีศัตรู โดยการเลี้ยงงูพิษอียิปต์ไว้อย่างลับๆ โดยทาสผู้ซื่อสัตย์ข้างกาย
คลีโอพัตราแสดงความกลัวต่อความตายหลายครั้ง แต่คราวนี้นางยินยอมที่จะตายเพื่อรักษาเกียรติยศตัวเอง
คลีโอพัตราก็เช่นกัน เมื่อนางตัดสินใจตาย ทาสได้ใส่งูพิษสองตัวไว้ในตะกร้าผลมะเดื่อ ที่ทหารโรมันไม่ได้ตรวจเพราะเห็นเป็นผลไม้ คลีโอพัตราล้วงมือเข้าไป จงใจให้งูพิษกัด จบชีวิตอย่างนางพญาอียิปต์
ภาพวาดการตายของคลีโอพัตราโดยJean-Baptiste Regnault
มีตำนานหลายหลากที่บันทึกความตายของคลีโอพัตรา
บันทึกโบราณของ พาลูตาร์ช ปราชญ์โรมัน หลังจากนั้น 130 ปีว่า
อ็อกตาเวียนสามารถจับคลีโอพัตราได้ในวิหารสุสาน และให้ อีพาโฟรดิอุส ทาสคนสนิทของเขา ควบคุมตัวนางไว้ ไม่ให้ฆ่าตัวตาย เพราะเขาต้องการเอาตัวนางเป็นๆ กลับโรม แต่ความเป็นยอดหญิงนางพญา คลีโอพัตราสามารถกล่อมอีพาโฟรดิอุสจนใจอ่อน เปิดโอกาสให้นางฆ่าตัวตายสมใจจนได้
พาลูตาร์ช บันทึกว่า มีทาสไร้นาม นำตะกร้าในผลมะเดื่อเข้ามาให้คลีโอพัตรา หากข้างในมีงูพิษ (ตำนานใช้คำว่า งูพิษ-asp แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นงูเห่าอียิปต์ ด้วยเป็นสัตว์ชั้นสูงที่ต้องมีเลี้ยงในราชวัง) นางหยิบผลมะเดื่อกินไปสองสามลูก ก่อนที่จะยื่นแขนกระทบตัวงู ให้มันฝังเขี้ยว นำทางนางไปสู่ความตาย บางบันทึกกล่าวว่า งูถูกซ่อนมาในแจกัน ที่นางเขย่าๆ ให้มันโกรธ เมื่อเทออกมามันจึงฉกที่แขนทันที
บ้างก็ว่า นางจับงูมาให้กัดที่หน้าอก มีงูสองตัว หรือกินยาน้ำมันพิษ หรืออ็อกตาเวียนที่พังประตูสุสานเข้ามาแล้วสังหารนาง
ล่าสุดเมื่อเพียงไม่กี่ปีมานี้ (ค.ศ. 2010) คริสทอฟ เชฟเฟอร์ นักโบราณคดีเยอรมัน ระบุว่า ความตายของคลีโอพัตรา ไม่ใช่ถูกงูพิษกัด เพราะพิษงูเห่าอียิปต์จะทำให้เกิดอัมพาต หายใจขัด ใช้เวลานานกว่าจะตาย อันเป็นความตายที่ทรมาน คลีโอพัตราย่อมไม่เลือกที่จะตายทรมานเช่นนั้น เชฟเฟอร์และนักพิษวิทยาไดทิซ เม็บส์ ระบุว่า ยาพิษที่คลีโอพัตราใช้ผสมฝิ่น พืชมีพิษมีผลต่อการกดประสาทและยาพิษผสมหลายขนาน เพื่อการตายที่รวดเร็วและไร้ความเจ็บปวด
อ็อกตาเวียน พบคลีโอพัตรานอนตายบนตั่ง โดยมี ไอราส นางกำนัลคนสนิทนอนตายแทบเท้า ชาร์มิออน นางกำนัลอีกคนหนึ่ง บรรจงจัดมงกุฎงูเห่าที่ศีรษะของคลีโอพัตราให้เข้ารูป ก่อนที่จะล้มลงตายตาม
คลีโอพัตรา มีอายุได้ 39 ปีเท่านั้น เมื่อเธอจากไป สิ่งที่เธอพากเพียรทำเป็นสิ่งสุดท้ายคือเธอ ส่ง ซีซาเรียน ลูกชายของเธอที่เกิดกับจูเลียสซีซ่า ให้ไปจากอียิปต์โดยเร็วที่สุด และไกลที่สุด ซีซาเรียน ถูกส่งตัวไปจากอียิปต์ เขาพยายามหนีไปให้ไกลที่สุด บ้างว่าเขาต้องการหนีไปอินเดีย แต่ทว่า ซีซาเรียน ในวัย 17 ปี กลับหลงเชื่อข่าวลือที่ว่า อ็อกตาเวียนยินดีให้เขาเป็นฟาโรห์แห่งอียิปต์ต่อไป เขาจึงเดินทางกลับมาที่อเล็กซานเดรีย เมื่อซีซาเรียนกลับมาถึงอเล็กซานเดรียคณะที่ปรึกษาแนะนำให้ อ็อกตาเวียน ประหารชีวิตของซีซาเรียนเสียเพื่อไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่ต่อไป อ็อคตาเวียนจึงทำตาม ซีซ่าเรียน พบกับวาระสุดท้ายเช่นนี้นั่นเอง
อ็อกตาเวียนผิดหวังมาก อาณาจักรอียิปต์อยู่ในเงื้อมมือของเขาแล้ว เขาเอาทรัพย์สมบัติประดามีออกมาแจกจ่ายให้กับเหล่าทหารโรมันจนหมดสิ้น สั่งฆ่า ซีซาเรียน บุตรชายของ จูเลียส ซีซาร์ กับคลีโอพัตรา ในฐานะที่เด็กนั้นเป็น ฟาห์โร ปโตเลมี ที่สิบห้า เพื่อริดราชวงศ์ปกครองอียิปต์ให้สิ้น แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่โหดที่จะฆ่าทารกฝาแฝด เฮลิออสกับเซเลเน ''พระอาทิตย์'' และ ''พระจันทร์'' ลูกของ มาร์ค แอนโทนี่ กับ คลีโอพัตรา โดยเอากลับไปให้ อ็อคตาเวีย พี่สาวตนผู้เคยเป็นเมียของ มาร์ค แอนโทนี่ เลี้ยงเป็นลูกต่อไป
อ็อกตาเวียน ทำลายอาณาจักรอียิปต์กับมือ ศัตรูที่เขาหวั่นที่สุด คือ มาร์ค แอนโทนี่ ก็หมดสิ้นแล้ว ไม่มีใครที่จะทาบอำนาจบารมีเขาได้อีกแล้ว ณ บัดนั้น เขาคือ ผู้กุมอำนาจแห่งโลกอาณาจักรเกรโก-โรมันอันเกรียงไกร
อ็อกตาเวียน สถาปนาตนเองเป็น ซีซาร์ ออกัสตัส จักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมัน บนแผ่นดินอียิปต์นั่นเอง ก่อนกลับโรม เขาได้แวะเยี่ยมหลุมฝังศพของ พระเจ้าอเล็กซาน
เดอร์มหาราชในเมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งมีตำนานอำนาจบารมีคล้ายคลึงกับเขา เพื่อประกาศว่าตนเองเป็นจอมจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ มีเรื่องเล่าว่า เขาทำให้เบ้าจมูกกะโหลกพระศพยุบหายไปเพราะอุบัติเหตุไม่ได้ตั้งใจด้วย
ซีซาร์ ออกัสตัส ปกครองอาณาจักรโรมันเป็นเวลายาวนาน ในฐานะจักรพรรดิองค์แรกแห่งโรม เขาสามารถกุมอำนาจจนหมดสิ้น ไม่ว่าในสภาโรมหรือขุนทหารที่คุมกำลังพล เขาไม่ใช่คนบ้าอำนาจ ต้องการแสดงความยิ่งใหญ่ไม่จบสิ้น แต่ปกครองอย่างสุขุม คานอำนาจด้วยการ''ดองแต่งงาน''ทางการเมือง ผูกนับญาติในกลุ่มตระกูลมีอำนาจในโรมอย่างซับซ้อน ให้ผลประโยชน์อย่างเที่ยงธรรม
จึงทำให้ในช่วงที่เขาปกครองโรม ไม่มีใครเป็นศัตรูใคร การปกครองเป็นไปอย่างราบเรียบกระนั้น ซีซาร์ ออกัสตัส กับเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีความสุขสักเท่าไหร่เลย
เขารับรู้ถึงวิถีชีวิตอันฟอนเฟะของชาวโรม ซึ่งตัวเองก็ตกอยู่ในกระแสนั้นมาตั้งแต่หนุ่มๆ เมื่อมีอายุมีอำนาจ จึงพยายามที่จะแก้ไขให้ดีขึ้น พยายาม''ริด''ความสำส่อน วิถีกามเสรีของโรม
โดยการออกกฎหมายสังคมและครอบครัวหลายฉบับ ปกป้องเด็กไร้เดียงสาที่ตกเป็น''ของเล่นทางกาม''ของผู้ใหญ่ ห้ามวัยรุ่นเสพกามกันอย่างเสรี การสำส่อน ชายหญิงที่ร่านกามเกินเหตุจะถือว่าเป็นภัยต่อสังคมโรม จะโดนลงโทษอย่างหนัก โทษประหารหรือเนรเทศ ออกัสตัสเป็นซีซาร์องค์แรกที่ส่งเสริม สถาบันครอบครัวผัวเดียวเมียเดียว ชาวโรมที่แต่งงานกันมีลูกมากๆ จะได้รางวัลจากรัฐ จ่ายเงินพิเศษให้กับครอบครัวที่มีเด็กทารก อาชีพโสเภณียังมีอยู่ แต่ประชาชน ผัวเมียเท่านั้นที่จะเสพกามกันได้ การเล่นชู้มีโทษหนัก การหย่ามีได้ แต่คู่ไหนหย่าภายในสามปี ต้องโดนปรับ คนที่หย่ากันต้องเป็นโสดอย่างน้อยสามปีถึงแต่งงานใหม่ได้ พ่อแม่หรือใครที่มีส่วนทำให้เด็กไปมั่วสุมเรื่องกาม จะถูกลงโทษหนัก
อวสานของพระนางคลีโอพัตราก็จบลงแล้วค่ะขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามซีรีส์เรื่องยาวของเจเจ้มีสาระมาจนถึงวันนี้ชอบกดไลท์กดแชร์กดติดตามเพจเจเจ้มีสาระด้วยนะคะขอบคุณค่ะ
พบกับเรื่องซีรีส์ใหม่ในครั้งหน้านะคะ
บันทึกประวัติศาสตร์กรีกโรมมัน
- 15
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
