8 มี.ค. 2020 เวลา 04:30 • ไลฟ์สไตล์
บทที่ 5 ทำคดีแบงค์ แฮงค์จนหมดสภาพ
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณบรรดาผู้ติดตามอ่านบล็อกของเรานะคะ จากที่เห็นมีผู้ติดตามมากขึ้นทุกวัน ทั้งที่แสดงตัวและไม่แสดงตัวก็ทำให้มีกำลังใจในการแชร์เรื่องราวชีวิตของทนายความ เพื่อให้ทุกคนทั้งผู้ที่สนใจจะเข้าสู่เส้นทางอาชีพทนายความและคนทั่วไปได้เห็นภาพและเข้าใจพวกเรามากขึ้น
และในบททนี้เราก็จะมาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการทำคดีแบงค์หรือคดีที่บรรดาธนาคารหรือสถาบันการเงินฟ้องลูกหนี้ที่มาขอกู้เงินหรือสินเชื่อต่างๆ ที่มีปัญหาผิดนัดชำระ คดีแบบนี้ก็มีปริมาณมาก ธนาคารจะใช้วิธีให้ทนายความภายนอกมาประมูลเพื่อเอาคดีเหล่านี้ไปทำ การที่ทนายความจะได้คดีเหล่านี้ไปทำก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าจะเดินเข้าไปหาธนาคารแล้วของานมาทำได้เลยเสียเมื่อไร ธนาคารจะมีข้อกำหนดหลายอย่างในการคัดเลือกทนายความหรือสำนักงานกฎหมายที่จะมารับผิดชอบคดีของเขา เพราะคดีเหล่านี้เป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ หากไม่เข้มงวดเรื่องคุณสมบัติของทนายความที่จะมาดูแลแล้วก็อาจเกิดความเสียหายได้
ข้อกำหนดของทนายความที่จะประมูลคดีแบงค์มาทำก็เช่นต้องมีสำนักงานพื้นที่ไม่น้อยกว่าที่กำหนด มีจำนวนพนักงานหรือทนายความเพียงพอต่องานที่จะรับไป มีคนคอยประสานงานกับแบงค์ตลอด ประสบการณ์ทำคดีของทนายความหัวหน้าสำนักงาน ที่เก็บเอกสาร แผนการรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้หรือการแฮ็คข้อมูล เป็นต้น ดูแล้วทนายป้ายแดงทุนน้อยนี่หมดสิทธิไปเลย ทนายป้ายแดงที่ต้องการทำคดีแบงค์ต้องอาศัยรับงานต่อจากสำนักงานทนายความที่รับคดีมาโดยตรง
1
การทำคดีแบงค์ (กรณีซาปั้ว) ทั้งข้อดีคือถ้ารับงานมากๆ ระดับหลักร้อยคดีก็จะทำให้มีรายได้หมุนเวียนแบบสบายๆ หลายหมื่นถึงหลักแสน แต่ข้อเสียคือจะต้องสำรองจ่ายค่าธรรมเนียมส่งหมายเองไปก่อนแล้วนำใบเสร็จไปเบิกและออกค่าถ่ายเอกสารเองด้วยนะ กว่าจะได้ค่าธรรมเนียมที่สำรองจ่ายออกไปคืนมาก็เป็นเดือน แต่หากรับงานเพียงไม่กี่คดีก็เรียกว่าไม่คุ้มที่จะทำ เพราะคดีนึงได้เงินไม่กี่พันแถมยังทยอยจ่ายเป็นงวดอีก เรียกได้ว่าถ้าสายป่านไม่ยาวพองานนี้มีเข้าเนื้อแน่นอน
1
เราเองก็เคยรับคดีแบบนี้มาทำแต่จำนวนไม่มาก ตอนนั้นก็คิดแค่ว่าอยากหาประสบการณ์ เป็นคดีที่มีทนายความถอนตัว เราเองก็เอะใจเหมือนกัน แต่ก็คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร พอลงมือทำจริงๆ จึงได้รู้ว่ามันเป็นคดีที่เร่งด่วนมาก แต่ละคดีมีจำเลยหลายคน นั่นหมายความว่าต้องทำสำเนาเอกสารตามจำนวนจำเลย เอกสารที่รับช่วงต่อมาก็ไม่ครบแถมมีปริมาณมากอีก เราหมดค่าถ่ายเอกสารไปสองพันกว่าบาท (ซึ่งต้องจ่ายเอง) และต้องสำรองค่าธรรมเนียมเองไปอีกห้าพันกว่าบาท (แทบกระอักเลือด) วันยื่นฟ้องก็ยังต้องมานั่งเรียงสำนวนอีกเพราะเวลามันกระชั้นมาก วันนั้นทั้งวันไม่ได้กินข้าวกินน้ำกันเลย เสียสุขภาพกายและสุขภาพใจ ตลอดจนสุขภาพกระเป๋ามากๆ กลับถึงบ้านแทบสลบ แม้จะไม่กี่คดีแต่เหนื่อยมากกว่าและรายได้น้อยกว่าทำคดีทั่วไปมากโข แต่หากมองในแง่ดีงานนี้ก็ได้ประสบการณเกี่ยวกับการทำคดีการเงินไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าจะถามว่าอยากทำต่อไหม ตอบเลยว่าขอคิดดูก่อน คิดยาวๆ (ฮา)
#สอบตั๋วทนาย
#ทนายความ
โฆษณา