21 มี.ค. 2020 เวลา 03:19 • ประวัติศาสตร์
ปอดรั่ว ep. 2
ปอดเรารั่วครั้งแรกเมื่อ 1มิย60 จากนั้นก็กลับมาพักฟื้นที่ ตจว แขนขวายกไม่ได้ ใช้คอมก็ไม่ได้ ก้มจะหยิบอะไรก็มี
อาการแปร๊บๆที่หน้าอก หายใจไม่อิ่ม
นอนทรมานมากเพราะเจ็บแผล จะลุกก็ลำบาก นอนก็ทรมาน เราต้องทำกายภาพและค่อยๆฟื้นฟูจนหายปกติ ใช้เวลา 1 ปีเต็ม
จากนั้น ก็เริ่มลุยขายน้ำพริกกับแม่ ปลูกผักขาย กำลังสนุกสนานในการขยันทำมาหากินมากค่ะ เพราะตังค์เริ่มหมดแล้ว ฮ่าๆๆ
cr:pixabay
และแล้ว อาการปอดรั่วก็กลับมาอีกครั้ง
2 มค 62 ผู้คนลั้ลลารับปีใหม่
แต่...... เรารู้สึกแน่นหน้าอกหายใจไม่เต็มอิ่ม รอบนี้ไป รพ เอกชน เช็คปอด เพราะยังผวากับการรักษารอบแรก คือ หลังจาก นอน รพ 12 วัน เราจะรู้สึกแย่มากๆเวลาได้ยินเสียงรถเข็น เสียงเข็นเตียงนึกถึงตอนเราต้องเอ็กซเรย์ทุกวัน เวลาที่ต้องเปลี่ยนผ้าปูทุกเช้า คือ มันเป็นช่วงเวลาที่เราเจ็บมากๆ เรายังรู้สึกกลัวมากๆ เลยขอไปเอกชนดู(ตังค์ก็ใช่จะมีเยอะนะ แต่ขอหน่อยเหอะ)
1
คุณหมอ : ปอดรั่วนะครับ
เรา : ช็อคค่ะ!!!! ภาพเดิมวนมา แทงปอดจิ้มสด เอ็กซเรย์ทุกวัน เป่าลูกบอล พึ่งรั่วไป ปีครึ่ง โอ้มายก๊อดดดด
เรา : หมอคะรักษาที่นี่แพงมั๊ย
หมอ : ใช้ UCEP(เจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาฟรี)ได้นะเพราะเข้าเงื่อนไข แล้วค่อยย้ายไป รพ ประกันสังคมก็ได้
เรา : เคค่ะ หนูขอดมยาสลบนะคะ ไม่เจาะสดค่ะ กุมมือหมอ พร้อมทำหน้าตาแบบร้องขอสุดๆ 55555(นาทีนั้นให้ทำไรก็ได้ที่ไม่เจาะสด มันหลอนมากก)
หมอ : ได้เลย ไม่มีปัญหา
และแล้ว หมอก็พาเข้าห้องผ่า ตื่นมาก็มีขวดมาสองขวดเช่นเดิม แต่รอบนี้รั่วแค่ 20% เลยทำให้ฟื้นตัวไว จะย้ายไป รพ รัฐก็ย้ายสังขารไม่ไหว เพราะเจาะเสร็จจะเจ็บมากๆ ลุกยังไม่ได้เลย เราเลยอยู่ยาว เราอยู่ รพ แค่ 7 วัน ที่นี่ไม่มีล้างแผล ไม่มีเปลี่ยนผ้าปูแบบบังคับ ไม่เอ็กซเรย์ทุกวัน รู้สึกชีวิตดีขึ้น ฮ่าๆๆ และแล้วก็ได้ออกจากโรงพยาบาล และฟื้นฟูทุกอย่างแค่เดือนเดียว ก็ใช้ชีวิตได้เกือบปกติเลย หมดตังค์ไปอีก สามหมื่นบาท แต่รอบนี้หมอก็ยังไม่ได้ผ่า เพราะไม่มีหมอเฉพาะทางด้านทรวงอก
หลังจากรั่วรอบนี้ ก็เริ่มรู้สึกว่า
.... ตังค์เก็บช้านนน หลังลาออก
เริ่มร่อยหรอแล้ว รอบหน้า รั่วอีกก็ต้องทนเข้า รพ รัฐแล้วล่ะ
หลังจากออก รพ ก็กลับสู่โหมดเดิม ทำไรหนักไม่ได้ ต้องพะวงเรื่องปอดรั่วตลอดเพราะโอกาสรั่วซ้ำ 50% เราตัดสินใจซื้อ ถังอ๊อกซิเจนมาเลยทีนี้ เหนื่อยก็ดมเข้าไปค่ะ ทำอยู่แบบนี้
จนกระทั่ง...... 1 ปีผ่านไป......
28 มค 63
มันมาอีกแล้ว...... ปอดรั่วววววว รอบที่ 3
อาการเดิมค่ะ แน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่มร้าวไปสะบักหลัง ไปหาหมอรอบนี้
เราไป โรงพยาบาล รัฐ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประกันสังคม คุณหมอเอ็กซเรย์ พบปอดรั่ว แต่รั่วน้อยมาก แค่ 2มิล
คุณหมอบอกว่ามันจะหายได้เอง ให้กลับบ้าน อีกสามวันนัดมาใหม่ พอครบกำหนด เราก็มาเอ็กซเรย์ ปอดไม่มีรอยรั่วละ เย่ๆ ดีใจมาก รอบนี้ไม่เจาะ อิอิ
จากนั้นเราก็ไปตระเวณขายของตามตลาดนัดทุกวัน
จู่ๆ วันนึง เราตั้งร้านเสร็จ เฮ้ย! อาการนี้คุ้นๆ มันมาอีกแล้ว!!! รีบเก็บร้าน พ่อค้าร้านข้างๆ งง พึ่งตั้ง เก็บละ ฮ่าๆๆ แต่คือ สภาพไม่ไหวละ งงมาก จู่ๆจะเจ็บก็มาทันทีเลย
3 กพ 63
เราไป โรงพยาบาล
หมอตรวจ เจอปอดรั่ว....... รอบที่ 4
รอบนี้รั่วจุดเดิม แต่ขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่ไม่รุนแรงมากไม่ต้องเจาะ แอบดีใจ
คุณหมอให้นอนดมอ๊อกซิเจน 4คืน
ในระหว่างนั้น คุณหมอเห็นว่ารั่วเยอะและติดๆกัน เลยให้หมอเฉพาะทางโรคปอดเข้ามาดู
1
หมอโรคปอด : สอบถามอาการ เยอะมากๆๆๆ และเข้าไปดูฟิล์มในห้อง
เรา : หน้าหมอคุ้นๆ เหมือนเพื่อน แต่สงสัยเราคงมึนยาในโรงพยาบาล ฮ่าๆๆ
หมอโรคปอด : ออกมาพร้อมถามว่า "อันใช่มั๊ย? นี่เราวอร์มไง
เรา:นึกออกทันที เพื่อนช้าน สมัยมัธยม แทบจะเข้าไปกอด ดีใจ ฮ่าๆๆ เพราะรู้สึกอุ่นใจรอดตายละช้านนน
เพื่อน : ถามอาการละเอียดมาก
1
สุดท้ายเพื่อนหมอที่น่ารักทำเรื่องส่งตัวไปส่องกล้องที่เชียงรายให้เลย น้ำตาจิไหล ปกติ เคสส่งตัวค่อนข้างยาก
สำหรับเพื่อนคนนี้ไม่ได้เจอกัน ยี่สิบกว่าปีไม่เคยติดต่อกันเลย แต่ตอนมัธยม เราเป็นเด็กเรียนดี มัธยมต้นเลยอยู่กับห้องที่เรียนเก่ง และเพื่อนๆก็นิสัยดีมากในยุคเราฮ่าๆๆ คือ ช่วยกันเรียน พอแยกสายเราแยกมาสายศิลป์ แต่เราชอบทำกิจกรรม ก็ชอบไปช่วยเพื่อนๆสายวิทย์ ด้วยเป็นคนชอบช่วยคนอื่น พอเอ็นทรานซ์ รุ่นเราติดหมอ สิบกว่าคน หนึ่งในนั้นก็เพื่อนคนนี้แหละ ไม่คิดว่าโลกจะกลมมาก และด้วยนิสัยเรา ทำให้เพื่อนจำได้ ฮ่าๆๆๆ
1
ต่อค่ะ ฮ่าๆๆๆ ได้ใบส่งตัวมาละ ระหว่างจะไปรักษาตัวที่ เชียงราย เพื่อนหมอบอกว่า มีอะไรฉุกเฉิน มาหาที่ห้องฉุกเฉินได้เลยนะ เราเตรียมสายเส้นเล็กสุดให้อันไว้เผื่อต้องเจาะ เราอยู่ห้องฉุกเฉินตลอด เรารู้สึกอุ่นใจมีเพื่อนเป็นหมอมันดีแบบนี้นี่เอง
อีกอาทิตย์ต่อมา เราก็นำใบส่งตัวไป รพ ที่เชียงราย พอยื่นเสร็จ ก็ไปเจอนางพยาบาล นางพยาบาลถามหาผลการรักษา เอิ่มมมม ลืมเอามา เค้าเลยให้กลับไปเอาผลทุกอย่างมาให้ครบ วันนั้นใบส่งตัวก็ใช้ฟรีไปจ้าา ต้องไปขอใหม่อีก
วันรุ่งขึ้นก็ไปหาหมอเพื่อน ขอใบส่งตัวอีกรอบ เดชะบุญที่เป็นเพื่อนฮ่าๆๆ
วันศุกร์ ไป เชียงรายอีกครั้ง เพื่อนที่รู้จักให้ไปคลินิคพิเศษ บอกว่าจะไวกว่า เราไปรอบนี้กะไปเจอหมอจ่ายเองก่อน ถ้าต้องนอนค่อยยื่นใบส่งตัว
1
ไปถึงเชียงราย เข้าหาหมอ หมอบอกว่า หมอศัลย์ทรวงอกมาเฉพาะกลางวันค่ะ รอบนี้หมอไม่คิดเงิน เรากลับบ้านมือเปล่าอีกแล้ว มันอะไรกันเนี่ยย
คือ รู้สึกว่าไปเชียงราย สองรอบ ไม่ได้อะไรเลยอ่าาา
และวันนั้นเอง อาการเราแปลกๆ คือ จู่ๆ ใจเต้นแรง มือเท้าสั่น เหงื่อออก หายใจแน่นมาก แม่กับแฟนถามว่าไปฉุกเฉิน รพ เชียงรายเลยมั๊ย คือ เรารู้สึกว่าเรายังไหว หรือ มันเคยชิน เจ็บจนงงๆว่าอันไหนหนักอันไหนเบาละ เราเลยไม่เอา ขอกลับบ้าน (ถ้าเป็นคนอื่นก็เข้า รพ จบละ นี่ไม่รู้อะไรดลใจไม่เอาค่ะ กลับบ้าน)
คืนนั้นเอง เราหายใจแย่มากๆ เจ็บหลัง แน่นหน้าอก เช้ามา เลยไป รพ พะเยา ห้องฉุกเฉิน
22 มีนาคม 63
พบปอดรั่ว... ครั้งที่5
เพื่อนหมอไปสัมมนา เจอหมออินเทอร์น หมอบอกว่า ต้องเจาะนะคะ เพราะปอดคนไข้แฟ๊บแล้วเหลือแค่กำมือเองค่ะ
ฟังเท่านั้น โอ้มายก๊อดดดดด เจาะสดฉีดแค่ยาชาอีกแล้ว น้ำตาจะไหล เพื่อนหมอไม่อยู่สายระบายเล็กๆของช้าน
และนี่ก็เป็นการเริ่มต้น ของการอยู่ โรงพยาบาลที่ยาวนานที่สุดในชีวิต และทรมานมากที่สุดเพราะต้องส่งตัวไปเชียงรายและเข้ารับการผ่าตัดในสภาพที่ร่างกายแย่สุดๆ เกิดอะไรขึ้นกับเราจากนี้ ไว้จะมาเล่าให้ฟังนะคะ จำจนขึ้นใจเลยล่ะค่ะ มันทรมานสุดๆ
เพราะตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงพักฟื้นอยู่เลยค่ะ เกมส์ยังไม่จบ รอจบจะมาสรุปบทสรุปให้ฟังนะคะ ฮ่าๆๆๆ
1
ชีวิตคนเราตอนรู้สึกใกล้ความตาย มันมีอะไรให้ได้คิดเยอะจริงๆ และก็มีบางสิ่งที่ทำให้เรามีรอยยิ้มในวันที่เจ็บปวดที่สุดเช่นกัน
ฝากติดตาม ปอดรั่ว EP.3 ด้วยน๊า
โฆษณา