15 มี.ค. 2020 เวลา 06:38 • สุขภาพ
* ภูมิแพ้-ไข้หวัดใหญ่-โควิด 19 อาการแตกต่างกันหรือไม่?
ขณะนี้สถาการณ์ของโควิด 19 รอบโลกยกเว้นในประเทศจีนยังเป็นที่น่ากังวล รวมถึงในประเทศไทยที่ถึงแม้การระบาดยังไม่ลุกลามเป็นวงกว้าง แต่ก็มีปัญหาขาดแคลนสินค้าจำเป็นซึ่งก็คือหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอลล์
คนไม่มีอาการยังหวั่นใจว่าตัวเองติดเชื้อหรือยัง ไม่ต้องพูดถึงคนที่เริ่มคันคอ เจ็บคอ หรือมีอาการไอไม่หยุด แล้วเราจะสามารถบอกความแตกต่างได้ไหมว่าเราติดโควิด 19 หรือเป็นแค่อาการของภูมิแพ้
สำนักข่าว CNN สัมภาษณ์ Dr. Greg Poland อาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจาก Mayo Clinic เกี่ยวกับความแตกต่างของอาการป่วยเหล่านี้
edition.cnn.com
🌿 เคืองตา? น้ำมูกไหล? อาจเป็นภูมิแพ้ หรือ แพ้เกสรดอกไม้ตามฤดูกาล
"ภูมิแพ้ตามฤดูกาลมักจะมีผลกระทบโดยตรงกับตาและจมูก" Poland กล่าว "อาการต่างๆจะแสดงออกบริเวณโพรงจมูกและมักจะอยู่แค่ช่วงศีรษะ ยกเว้นบางคนอาจจะมีผื่นร่วมด้วย"
"ถ้าคุณมีอาการแบบเดิมในช่วงเวลาเดียวกันของทุกปี อาจเป็นภูมิแพ้ตามฤดูกาล ถ้าเช่นนั้น กินยาแก้แพ้และระวังไม่ให้ตัวเองสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นการแพ้ อาการคุณจะดีขึ้น"
🌿 ไข้หวัดใหญ่ และ โควิด 19 จะมีอาการที่ส่วนอื่นร่วมด้วย
เพราะว่าสองโรคนี้ส่งผลกระทบทั้งร่างกาย
"ไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 ส่งผลต่อระบบอื่นๆในร่างกาย ไม่ใช่แค่ช่วงโพรงจมูก แต่ยังสร้างความเสียหายกับระบบหายใจส่วนล่าง คุณอาจจะไม่มีน้ำมูก แต่มีอาการระคายคอ ไอ เป็นไข้ และหายใจสั้นแบบไม่เต็มปอด" ซึ่งนี่เป็นความแตกต่างของการวินิจฉัยทางคลีนิค
"นอกจากนี้ คุณจะรู้สึกเหนื่อย ปวดเมื่อยตามร่างกาย รู้สึกอยากนอนตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างกับภูมิแพ้อย่างชัดเจน ภูมิแพ้อาจทำให้เหนื่อยได้เหมือนกัน แต่ไม่ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ"
*ใส่ใจกับอุณหภูมิของร่างกายคุณ* เพราะส่วนใหญ่อาการภูมิแพ้ไม่ทำให้เกิดไข้ และมักไม่ทำให้หายใจได้สั้นๆ ยกเว้นแต่คุณมีอาการเริ่มต้นของโรคหอบหืด
🌷 ไข้หวัดธรรมดา และ ไข้หวัดใหญ่แบบอ่อน มักหายได้เอง
หลังจากมีอาการป่วย ถ้าคุณดูแลร่างกายให้ดี นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดื่มน้ำ ทานยา คุณจะรู้สึกดีขึ้นภายในไม่กี่วัน (ยกเว้นในผู้สูงอายุหรือคนที่มีโรคประจำตัว อาจใช้เวลานานกว่า)
🌷 ไข้หวัดใหญ่ร้ายแรง และ โควิด 19 อาการจะแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป
ถ้าดูแลตัวเองอย่างดีแล้ว ภายในสองหรือสามวันอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ถึงเวลาที่ควรจะไปหาหมอ อีกหนึ่งอาการที่บ่งบอกคือคุณหายใจได้แค่สั้นๆ เพราะทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 สามารถทำให้ปอดอักเสบได้เหมือนกัน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นโรคไหน ก็ควรได้รับการตรวจและรักษาให้ถูกต้อง
🌼 อาการเริ่มต้นของภูมิแพ้ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และ โควิด 19 อาจแสดงอาการเหมือนกัน
บางคนที่มีร่างกายแข็งแรง เมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ หรือ โควิด 19 อาจแสดงอาการแบบอ่อน ไม่มีสัญญาณบ่งบอกชัดเจน ดังนั้นเมื่อเริ่มมีอาการป่วยควรรีบดูแลตัวเองแล้วคอยดูว่าอาการดีขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะคนในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับปอด หอบหืด โรคหัวใจ เบาหวาน หรือผู้หญิงมีครรภ์
🌼 ผู้ป่วยโควิด 19 จะมีความเสี่ยงอื่นร่วมด้วย
เมื่อไปหาหมอ ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเป็นโควิด 19 มักจะมีความเกี่ยวข้องกับคำถามเวลาโดนซักประวัติเหล่านี้
• ช่วงที่ผ่านมาได้เดินทางไปต่างประเทศหรือเปล่า? ที่ไหน?
• มีคนใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัว เพื่อนร่วมห้อง เพื่อนร่วมงานที่เพิ่งเดินทางไปต่างประเทศมาหรือเปล่า? ไปไหนมา?
• ได้ไปบริเวณพื้นที่เสี่ยง หรือบริเวณที่พบผู้ติดเชื้อมาบ้างหรือเปล่า? ถ้าไม่ได้ไป มีคนใกล้ชิดไปมาหรือเปล่า?
• ไปล่องเรือสำราญมาหรือเปล่า?
• พักอาศัยอยู่ใกล้พื้นที่เสี่ยงหรือเปล่า?
นอกจากนี้ Poland ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "ถ้ามีคนคนป่วยมาพบผม แต่อาศัยอยู่ห่างไกลจากบริเวณที่มีการแพร่ระบาด ไม่ได้เดินทางไปไหน ไม่ใกล้ชิดคนมีความเสี่ยง ผมจะบอกให้เขากินพาราเซตามอล ดื่มน้ำเยอะๆแล้วไปนอน"
"อาจจะฟังดูใจร้าย แต่ด้วยบุคลากร ประสิทธิภาพของชุดทดสอบไวรัส เครื่องมือการรักษา งบประมาณ หลายๆปัจจัย ทำให้เราไม่สามารถตรวจประชาชนได้ทุกคน และไม่สามารถตรวจใครคนใดคนหนึ่งซ้ำไปซ้ำมา แต่ถ้าคุณมีความกังวลก็ไปหาหมอ เล่าประวัติ บอกอาการ หมอจะเป็นคนวินิจฉัยเอง"
"เบื้องต้นคือไม่พาตัวเองไปในพื้นที่เสี่ยงหรือใกล้ชิดบุคคลที่มีความเสี่ยง รักษาสุขภาพให้แข็งแรง สังเกตอาการตัวเอง"
Original post >>

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา