20 มี.ค. 2020 เวลา 12:14 • บันเทิง
นโปเลียนโบนาปาร์ตจักรพรรดิฝรั่งเศส 4
กาเตอรีน เดซิเร ซึ่งอายุเพียงสิบสองปีป่วยเสียชีวิตที่เกาะมาร์ตินีกก่อนมาฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1777
เปลี่ยนตัวเจ้าสาว
โฌเซฟีน.จากบันทึกนโปเลียน
เมื่อน้องสาวโฌเซฟีนตายจึงต้องเปลี่ยนตัว เป็นโฌเซฟีน หรือโรซ ที่เป็นพี่สาวคนโตอายุ 15 ปีมาฝรั่งเศสกับบิดาแทน และเธอได้แต่งงานกับ
อเล็กซานเดร ใน ค.ศ. 1779
เธอมีบุตรชายและบุตรสาวกับสามี แต่ชีวิตสมรสก็ไม่ราบรื่น เพราะโฌเซฟีนเป็นผู้หญิงที่ไร้จริต ไม่ช่างพูด ไม่ปรนนิบัติ ทำให้ผู้เป็นสามีเบื่อ ประกอบกับอเล็กซานเดร เป็นนายทหารก็ฝักใฝ่ทางการเมือง เป็นฝ่ายขุนนางสนับสนุนระบอบกษัตริย์ ใน ค.ศ. 1794 ฝรั่งเศสเข้าสู่ยุคแห่งความหวาดกลัว พลังประชาชนปฏิวัติก่อการล้มล้างระบอบกษัตริย์ เหล่าขุนนาง ชาติตระกูลศักดินาถูกตัดสินในข้อหาเป็นศัตรูประชาชน เดินเรียงแถวถูกบั่นคอด้วยกิลโยตินที่จัตุรัสปฏิวัติประชาชนกลางกรุงปารีส ไม่เว้นแต่ละวัน
1
อเล็กซานเดร โบอาร์แน สามีของโฌเซฟีนก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ส่วนเธอเองก็โดนจับขังคุก ยึดทรัพย์สมบัติ
หากเพียง 5 วันหลังจากที่อเล็กซานเดรโดนบั่นคอ โรเบสปิแยร์ ผู้นำปฏิวัติประชาชนก็โดนยึดอำนาจและขึ้นตะแลงแกงกิลโยตินเสียเอง การเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจใหม่ทำให้นักโทษที่กลุ่มโรเบสปิแยร์จับ ถูกปลดปล่อย โฌเซฟีนจึงรอด และยังได้มรดกที่เป็นทรัพย์สินของอเล็กซานเดรผู้เป็นสามีคืนด้วย
เธอจึงกลายเป็นหญิงม่ายลูกสอง ในวัย 33 ปี และใช้ชื่อสกุลสามีคือ โฌเซฟีน เดอ โบอาร์แน
ด้วยที่เธอเป็นสาวงาม (ผู้หญิงครีโอจะมีสรีระงดงามผิวเนียนผุดผาดกว่าสาวยุโรปที่ผิวเผือก) ทำให้บรรดาเหล่านักการเมืองที่มีอำนาจในปารีสหลายแหล่เข้ามาใกล้ชิด โฌเซฟีนเป็นหญิงม่าย เธอพอใจจะมีสัมพันธ์สวาทกับใครก็ได้ไม่ยาก จนกลายเป็นว่าเธอคือดอกกุหลาบ (โรซ-ชื่อของเธอ) ที่พวกนั้นผลัดกันดอมดม แต่ความฉลาดและการช่วยเหลือตัวเองทำให้เธอ เกาะ ปอล บาร์ราส ผู้นำสาธารณรัฐคนใหม่ยิ่งกว่าใคร แสดงตนเป็นเมียเก็บของบาร์ราสอย่างออกนอกหน้า
ปอล บาร์ราส เพียงแค่เล่นๆ เขาเริ่มอึดอัดและสนใจอยากเล่นรักกับหญิงอีกคนหนึ่ง ที่เป็นเพื่อนของโฌเซฟีน จึงพยายามผ่องถ่ายโฌเซฟีนให้กับคนอื่น
และคนนั้นก็คือ นายพล นโปเลียน โบนาปาร์ต เพื่อนวีรบุรุษทหารหาญ ที่ก้าวเข้ามาพอดิบพอดี
นโปเลียนได้เจอกับโฌเซฟีน ใน ค.ศ. 1795 จากการแนะนำกึ่งยัดเยียดของ ปอล บาร์ราส
บางบันทึกกล่าวว่า จุดเริ่มต้นที่นโปเลียนรู้จักโฌเซฟีน มาจากลูกชายของโฌเซฟีนชื่อ ออร์ด็องส์ เดอ โบอาร์แน ได้ถามหาดาบประจำตัวของอเล็กซานเดรผู้เป็นบิดา (ที่โดนบั่นคอด้วยกิลโยติน) โดยสิทธิ์ผู้เป็นลูก ทำให้นโปเลียนประทับใจในความกล้าของเด็กชายอายุสิบกว่าขวบ นโปเลียนหาดาบของอเล็กซานเดรมาให้ และก็ทำให้รู้จักแม่ของออร์ด็องส์ ก็คือ โฌเซฟีน เธอเป็นผู้หญิงที่นโปเลียนประทับใจตั้งแต่แรกพบ
ความจริงแล้ว เธอถูกเรียกว่า โรซ มาตั้งแต่เด็ก มีเพียงนโปเลียนเท่านั้น ที่เรียกเธอว่าโฌเซฟีน นับแต่นั้นมา เธอก็ยึดถือชื่อ โฌเซฟีน เป็นต้นมา
อันเป็นชื่อที่ประวัติศาสตร์โลกจารึกว่า จากเด็กสาวครีโอบนเกาะมาร์ตินีก เป็นแม่ม่ายลูกสอง เป็นของเล่นผลัดกันดอมดมของนักการเมืองฝรั่งเศสสมัยปฏิบัติฝรั่งเศส เมียเก็บของบาร์ราส ที่ยัดเยียดให้ นโปเลียนโบนาปาร์ต
รักเล่น รักลวง สู่รักแท้
นโปเลียน โบนาปาร์ต อายุเพียง 26 ตอนที่เขาพบโฌเซฟีนที่อายุ 32 เธอแก่ว่าถึงหกปีซ้ำยังลูกติดสอง นโปเลียนได้ตัวเธอไปนอนด้วยไม่ยาก เธอคงคิดว่า นายพลหนุ่มที่มีชื่อเสียงจะมาสนใจอะไรในตัวเธอ ก็เพียงเอาเธอเล่นสนุกๆ ไม่ต่างกับพวกพวกนักการเมืองกลุ่มบาร์ราส
3
แต่กลายเป็นว่า นโปเลียนเป็นฝ่ายหลงใหลในตัวโฌเซฟีน เขาขยันเขียนจดหมายแทบทุกวัน พรรณาสำนวนโวหารมากมายถึงเธอ ดังเช่น ''..ยามหลับฝันของฉันก็มีแต่เธอ ยามตื่นก็มีแต่เธอที่เติมเต็มหัวใจฉัน เรือนกายของเธอและความทรงจำด่ำดื่มเมื่อคืนนี้ คือความพึงใจสุดปรารถนาที่มีแต่ความโหยหาไม่เคยพออยู่ในความรู้สึกของฉัน..'' ว่ากันว่าแรกๆ โฌเซฟีนไม่ได้ให้ความสนใจกับนโปเลียนเท่าไหร่ ด้วยไม่คิดว่าเขาจะจริงจัง
2
ยามที่นโปเลียนออกไปประจำการทหาร โฌเซฟีนอยู่ที่ปารีส ก็ยังออกไปมีสัมพันธสวาทกับชายอื่นที่ทั้งที่เคยเป็นคู่ขาทั้งที่เธอพอใจ มีบันทึกบางบันทึกกล่าวว่า ลีลาของนโปเลียนไม่ถึงใจเธอ ไม่มีเล้าโลม อันเป็นนิสัยของนโปเลียนอยู่แล้ว โฌเซฟีนเป็นหญิงวัยสามสิบที่ช่ำชองลีลาสวาทมานักต่อนัก มีน้ำอดน้ำทนสูง ความต้องการทางเพศของเธอมีมากกว่าที่นโปเลียนจะสนองให้ได้
3
หลังจากคบหากันหนึ่งปี นโปเลียน โบนาปาร์ต ก็ประกาศถอนหมั้นกับเดซิลี คลารีสาวที่เขาคบหามาก่อน เพื่อขอ โฌเซฟีน เดอ โบอาร์แน แต่งงาน
ว่ากันว่า แรกๆ โฌเซฟีนไม่ได้รักนโปเลียนเลย แต่เพราะนโปเลียนยินยอมรับลูกชายและลูกสาวที่เป็นลูกติดของเธอเป็นลูกเลี้ยงของเขาตามกฎหมาย โฌเซฟีนถึงรับคำขอและทั้งคู่เข้าพิธีในเดือนมกราคม ค.ศ. 1796 ท่ามกลางความไม่พอใจของแม่และพี่สาวน้องสาวครอบครัวโบนาปาร์ต ที่รังเกียจหญิงม่ายลูกติดซ้ำยังร่านสวาทเป็นเมียน้อยของใครต่อใคร ทำไมนโปเลียนถึงเลือกมาได้ ทั้งที่มีผู้หญิงตระกูลสูงมั่งคั่งมากมายในฝรั่งเศสที่พร้อมจะเป็นมาดามโบนาปาร์ต
นโปเลียนได้มอบแหวน Toi Et Moi ซึ่งเป็นแหวนทองคำประดับด้วยเพชรรูปทรงหยดน้ำเคียงคู่กับไพลินเพื่อเป็นแหวนหมั้นให้แก่เธอ ในยุคนั้นแหวนวงนี้ถือว่าเป็นความฟุ่มเฟือยมากๆสำหรับนายทหารคนหนึ่ง
1
แหวนหมั้นที่นโปเลียนมอบ ให้โฌเซฟีน
หากทว่าหลังแต่งงานเพียงสองวัน
นโปเลียนก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพสาธารณรัฐฝรั่งเศสกองกำลังอิตาลี เพื่อกรีธาทัพไปทำสงครามกับกองทัพออสเตรียที่บุกเข้ายึดอิตาลี
โฌเซฟีนอยู่ในกรุงปารีสในนามของมาดามโบนาปาร์ต แต่เธอก็ใช้ชีวิตอิสรเสรีทางกามาตามเดิม นอนกับผู้ชายที่เธอพึงใจโดยไม่เกรงใจสามีขุนทหาร แล้วเธอก็พบหนุ่มกำยำที่สนองกามเธอได้อย่างเต็มที่สุดๆ คือนายทหารฮุสซาร์ (กองกำลังทหารเชื้อสายแขกมัวร์ของฝรั่งเศส ที่ขึ้นชื่อในการรบประชิดตัว จะสวมหมวกสีดำทรงกลมมีพู่เป็นสัญลักษณ์ มันทำหน้าที่ทหารรักษาพระองค์) ชื่อ อีปอลิต ชาร์ล หนุ่มบึกอายุยี่สิบต้นๆ อ่อนกว่าโฌเซฟีนถึงสิบปี เข้าใจว่า อีปอลิต จะเข้าตำรา สูงชะลูดตูดปอดยอดทหารม้า น้ำอดน้ำทนเป็นเยี่ยม สามารถปรนเปรอบรรเลงกามสนองให้กับโฌเซฟีนอย่างถึงอกถึงใจถึงลูกถึงคน จนเธอหลงใหลเขาที่สุด
1
มีบันทึกว่า โฌเซฟีนลุ่มหลงโหยหาอีปอลิต ถึงขนาดเขียนจดหมายพรรณนาความรักความหลงที่เธอมีต่อเขา (มากเสียยิ่งกว่าเธอเขียนถึงนโปเลียนทั้งชีวิตเสียอีก) เธอขาดเขาไม่ได้ แม้กระทั่งไปมิลานเพื่อไปเยี่ยม
นโปเลียน โฌเซฟีนก็หิ้ว อีปอลิตไปด้วย
ติดตามตอนต่อไป
Cr.บันทึกประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสหอสมุดแห่งชาติ
โฆษณา