22 มี.ค. 2020 เวลา 04:00 • ความคิดเห็น
Special Topic : ส่งตรงหายนะถึงมือท่าน "Moonoi Endgame"
โดย พื้นฐานการลงทุนหมูน้อยออมเงิน
หลังจากที่พวกเราเหล่านักลงทุนเจอสถานการณ์ที่ทำให้สินทรัพย์ต่างๆราคาไหลรูดลงไปถึงจุดที่เรียกได้ว่า.....ต่ำสุดในรอบหลายปี
วันนี้ หมูน้อยจะมาแชร์มุมมองสถานการณ์
ในเวลานี้ให้กับทุกท่านฟังกันครับ
สถานการณ์ภายนอก ในส่วนของโรคระบาด
และผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ
อย่างที่ผมได้กล่าวไปในบทความก่อนหน้าหลายๆบทความว่า กลยุทธ์การลงทุนหลักของผมในช่วงนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับโรคระบาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
วันนี้ผมจะมาขยายความ สิ่งที่ผมมองเห็นในภาพนี้กันครับ
ผมอยากพูดถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกคร่าวๆ ก่อนว่า.....
ในขณะที่มีการแพร่ระบาดอยู่นั้น หลายๆอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่าง "สายการบิน"
ที่ระงับการบินไปยังต่างประเทศ ในช่วงนี้
ซึ่งการที่สายการบินต่างๆหยุดบิน
สิ่งที่ตามมาก็คือ ธุรกิจขาดเงินหมุนเวียนในระบบ
รายได้ของธุรกิจได้รับผลกระทบโดยตรง
ซึ่งมันก็ต้องมองไปถึงภาระค่าใช้จ่ายของสายการบิน พวก fix cost หรือรายจ่ายประจำเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินกิจการได้ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าลานจอดเครื่องบินท่าอากาศยาน
https://www.thetimes.co.uk/article/most-global-airlines-will-be-bankrupt-in-ten-weeks-88d6bnnbj
เหล่านี้คือสิ่งที่สายการบินไม่อาจแบกรับไว้ได้ในสภาวะที่ไม่มีรายได้เข้ามาในระบบ ดังนั้น เราจึงได้เห็น
-การให้หยุดงานโดยไม่รับเงินเดือน
-การระงับเส้นทางการบินในต่างประเทศ
หรืออาจจะหมายถึง การหยุดให้บริการ
โดยปรกติแล้วการทำธุรกิจ จะมีหนี้อยู่ในระบบปริมาณหนึ่ง ทางฝั่งธุรกิจก็จะต้องนำเงินไปชำระหนี้ตรงตามเวลา
แต่เมื่อสถานการณ์เรื่องการแพร่ระบาดดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง....การชำระหนี้ก็จะทำไม่ได้ตามกำหนด
เมื่อยื้อจนสุดทางแล้ว ก็จะถูกฟ้องล้มละลาย
เนื่องจากไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้
.
ฝันร้ายมันยังไม่จบแค่นี้ครับ...
ในธุรกิจใหญ่ๆอย่างสายการบิน มักจะเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศต่างๆ ทำให้บริษัทสามารถระดมทุนผ่านช่องทางหลายๆอย่างได้
หนึ่งในนั้นคือ หุ้นกู้ หรือ ตราสารหนี้ภาคเอกชน
การออกหุ้นกู้หลักๆก็ คือ สัญญากู้ยืมเงินกับเจ้าหนี้โดยจะมอบผลประโยชน์ให้เป็นงวดๆ ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ย หรือ หุ้น
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ในเมื่อสายการบินไม่สามารถหารายได้มาจ่ายหนี้ได้ตามกำหนด
มันจะทำให้เกิด ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (Default Risk)
ซึ่งการ Default ในส่วนของตราสารหนี้นั้น มันคือ หายนะของเจ้าหนี้
ข่าวร้ายก็คือ... ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ ณ เวลานี้นั้น ไม่ได้มีแค่เพียงในธุรกิจการบินเท่านั้น
....แต่! รวมถึงธุรกิจแทบจะทุกประเภท ที่มีหนี้สูง และไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไหว
ผมจะทำให้ท่านขนหัวลุกไปกว่านั้นอีกระดับ
ถ้าหากว่า... คนที่เสพติดการก่อหนี้นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ภาคเอกชนล่ะครับ....
แต่มันรวมถึงรัฐบาลของประเทศต่างๆ ด้วย...
ณ เวลานี้ ท่านเริ่มกลัวหรือยัง!!!!??
ความหายนะ มันยังไม่จบแค่นั้นครับ...
U.S. นับว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เรียกได้ว่าเป็น ประเทศที่ก่อหนี้มากที่สุดในโลก
บังเอิ๊ญ บังเอิญ.....
เจ้านี้ของ U.S. ดันเป็นประเทศอื่นๆ และนักลงทุนทั่วโลกด้วยสิครับ
https://www.visualcapitalist.com/foreign-countries-holding-most-u-s-debt/
คำถามที่น่าสนใจคือ ในขณะที่ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบในเรื่องของการแพร่ระบาด
"การจ่ายหนี้" ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องทำ ต่อให้ใช้อภินิหารอะไรมาช่วย หนี้ก็ยังต้องจ่าย
เมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายรัฐบาลของทุกประเทศก็ต้องเข้ามาอุ้มธุรกิจเหล่านั้น
ประเด็นคือ... แม้แต่รัฐ ก็ต้องการคนอุ้มนะครับ เหอะๆ
และเวลาที่ยักษ์ล้ม.... มันจะล้มทั้งระบบ!!
โลกเราเสพติดการก่อหนี้ครับ
และ COVID-19 นี้มันก็ดันเป็นตัวจุดฉนวน
ให้ปัญหาที่ทุกคนพยายามซุกเอาไว้ใต้พรม
มันแสดงตัวออกมา
ผมเริ่มเห็นสัญญาณการขอเลื่อนการชำระหนี้
ในส่วนของตราสารหนี้ในประเทศบ้างแล้ว
ผมแนะนำไว้อย่างนี้ครับว่า
ท่านใดที่ลงทุนในกองทุนประเภทตราสารหนี้
ไปตรวจสอบว่าเป็นหนี้คุณภาพดีรึเปล่า
บางคนเอาไปลงประเภท non rate
ซึ่งมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้สูงอยู่แล้วในภาวะปรกติ
มาเจอสถานการณ์นี้...น่าจะไม่รอดครับ
แม้แต่ตราสารหนี้บางตัวในกลุ่ม rating สูงๆ ก็เริ่มออกอาการเช่นกัน
ก็... ตัดสินใจกันนะครับว่าจะทำอย่างไร
สำหรับใครที่คาดหวังว่าหุ้นตกแล้วมันจะดีดขึ้นไปเป็น V-Shape
ผมอยากบอกว่ารอบนี้มันไม่ได้เกิดจากคนตกใจธรรมดา ที่ขายหุ้นลงมาแล้วจะ cover ขึ้นไปด้านบนได้
อย่าลืมว่าหลังจบเรื่อง COVID ทุกๆประเทศก็จะเจอปัญหาเรื่องหนี้ ทั้งฝั่งของเอกชนและอื่นๆ มาตามล้างตามเช็ดกันอีก
รอบนี้จะหนักครับ....
ถ้าผมคิดไม่ผิด วิกฤติปี 40 จะกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เพราะในรอบนั้น คนที่เจ็บหนักๆส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีความมั่งคั่งในระดับนึง ส่วนประชาชนธรรมดาไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไหร่
แต่รอบนี้ การเลิกจ้างจะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากครับ
ที่เร่ิมก่อนเพื่อนไปแล้วคือกล่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
... ดังนั้น กอดงานของเราเอาไว้ให้แน่นๆนะครับ
ณ วินาทีนี้ไม่ใช่เรื่องการพูดว่า พื้นฐานของกิจการในหุ้นที่เราถือมันดี
เพราะในสายตาผม ตอนนี้มองไปตัวท็อปๆ
ร้อยละ 90 ราคามันก็ลงมาต่ำกว่ามูลค่าทั้งนั้น
ประเด็นคือ ณ วินาทีนี้ คือ การต่อสู้กันในเรื่องของความเชื่อ
ฝั่งที่เชื่อว่าระบบเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่หายนะ ก็จะ "ขาย"
ฝั่งที่เชื่อว่าระบบเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่การฟื้นตัว ก็จะ "ซื้อ"
เท่านั้นเองครับ ...
เรื่องสหรัฐจะไปช่วยรัสเซียเจรจากับซาอุแล้วจะร่วมกันลดกำลังการผลิต อย่าไปคาดหวังมากนะครับ
ในมุมมองผม ระหว่างมานั่งยิ้มเช็คแฮนด์กันลดกำลังการผลิต กับการปล่อยให้พวกเชลออยล้มละลายไป อย่างหลังมันง่ายและมีประโยชน์กว่าเยอะ
...ยอมเจ็บแค่ตอนนี้สักหน่อยจะเป็นไรไป
อย่าลืมว่า US เอาเปรียบคนอื่นมานาน
คราวนี้ก็ถึงคราวเวรกรรมตามทันแล้วล่ะครับ
เอาจริงๆน้ำมันถูกก็ดีกับระบบเศรษฐกิจพอสมควรนะครับ แค่อาจจะไม่ดีกับคนมีหุ้นเท่าไหร่
เป็นกำลังให้ทุกท่านครับ หมูน้อย
ขอ บ่นๆ
มาช่วงหลังๆนี้ผมไม่ค่อยเข้ามาใน Blockdit
ส่วนนึงเป็นเพราะว่าเรื่อง COVID นี่ล่ะครับ
มีแต่เรื่อง COVID จนเริ่มเอือม
อ่านเปเปอร์เรื่องนี้แล้วยังเจอรายงาน
เรื่อง COVID รายงานแทบจะทุก 30 นาที เลยเอือมๆไปหน่อย
แต่ก็ยังคงเป็นห่วงทุกท่านครับ อย่างน้อยที่สุด ผมจะมาอาทิตย์ละครั้งเพื่ออัพเดทมุมมองการลงทุนที่น่าสนใจครับ
ช่วงนี้ไปโฟกัสอยู่ในตลาดหุ้นเสียเยอะ
แต่ละวันถึงขั้นหมดแรงเลยทีเดียว
หากใครคิดถึง หรืออยากได้มุมมองเรื่องไหนสามารถสะกิดเรียกที่คอมเมนต์ได้ตลอดเวลาครับ
*ผมยังไม่มองว่าตลาดหุ้นจะกลับตัวเป็นขาขึ้นในเวลานี้ครับ .....เกมส์นี้ อีกยาว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา