25 มี.ค. 2020 เวลา 11:00 • ประวัติศาสตร์
“ซามูไร (Samurai) นักรบแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย” ตอนที่ 3
ยุทธการที่ดันโนะอุระ
ค.ศ.1180 (พ.ศ.1723) กองทัพตระกูลไทระมีกำลังเข้มแข็งมาก เหนือกว่าตระกูลมินาโมโตะ
ผู้นำตระกูลคือ “ไทระ โนะ คิโยโมริ (Taira no Kiyomori)” ได้บังคับให้จักรพรรดิสละบัลลังก์และแต่งตั้งองค์รัชทายาท ซึ่งก็คือหลานของคิโยโมริ ขึ้นเป็นจักรพรรดิ
จักรพรรดิพระองค์ใหม่คือ “จักรพรรดิอันโทกุ (Emperor Antoku)” ซึ่งมีพระชนม์เพียงหนึ่งพรรษา แต่ในสมัยนั้นไม่ถือเป็นของแปลก เนื่องจากจักรพรรดิที่ยังทรงพระเยาว์ ล้วนแต่เป็นประโยชน์แก่กลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่ง สามารถบังคับ ควบคุมได้ง่าย
ไทระ โนะ คิโยโมริ (Taira no Kiyomori)
จักรพรรดิอันโทกุ (Emperor Antoku)
คิโยโมริเสียชีวิตในเวลาต่อมา และลูกชายของเขา “ไทระ โนะ มุเนโมริ (Taira no Munemori)” ก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล
การที่มุเนโมริขึ้นเป็นผู้นำตระกูล นับเป็นลางร้ายสำหรับตระกูลไทระ เนื่องจากเมื่อเทียบกับคิโยโมริ ผู้เป็นพ่อแล้ว มุเนโมรินับว่าเป็นผู้นำที่อ่อนแอ ไม่มีความสามารถ
1
ไทระ โนะ มุเนโมริ (Taira no Munemori)
ค.ศ.1183 (พ.ศ.1726) ตระกูลมินาโมโตะได้ขับไล่มุเนโมริ พร้อมด้วยตระกูลไทระออกไปจากเกียวโต รวมทั้งขับจักรพรรดิอันโทกุออกจากบัลลังก์ด้วย
ตระกูลมินาโมโตะได้แต่งตั้ง “จักรพรรดิโกะ-โทบะ (Emperor Go-Toba)” เป็นจักรพรรดิพระองค์ใหม่
จักรพรรดิโกะ-โทบะ (Emperor Go-Toba)
แต่ตระกูลไทระยังคงไม่ยอมแพ้ ทั้งสองตระกูลได้สู้รบกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยตระกูลไทระเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ต้องถอยร่นมาเรื่อยๆ
25 เมษายน ค.ศ.1185 (พ.ศ.1728) ทั้งสองตระกูลได้มาพบกันสำหรับการรบครั้งสุดท้าย
สถานที่ทำการรบคืออ่าวดันโนะอุระ โดยกองเรือของตระกูลมินาโมโตะกว่า 850 ลำ เรียงแถวเป็นแนวยาว
สำหรับกองเรือของตระกูลไทระนั้นมีจำนวน 500 ลำ แบ่งออกเป็นสามกอง โดยมี “ไทระ โนะ โทโมโมริ (Taira no Tomomori)” น้องชายของมุเนโมริ เป็นผู้ควบคุมกองเรือ
ไทระ โนะ โทโมโมริ (Taira no Tomomori)
ทั้งสองฝ่ายทำการรบอย่างดุเดือด โดยนักรบตระกูลไทระนับ 100 นายได้บุกขึ้นไปบนเรือของตระกูลมินาโมโตะ ฆ่าฟันศัตรูจนพื้นเรือแดงฉานไปด้วยเลือด
ด้วยความที่โทโมโมริมีความสามารถในการบังคับเรือ กองเรือของไทระที่มีจำนวนน้อยกว่าก็สามารถปิดล้อมเรือของมินาโมโตะที่มีจำนวนมากกว่าได้
แต่ขณะที่ตระกูลไทระกำลังฮึกเหิมกับความได้เปรียบของตนนั้น หนึ่งในกัปตันเรือของไทระ ซึ่งเป็นพวกทรยศและได้เข้าร่วมกับตระกูลมินาโมโตะ ได้หันหัวเรือและโจมตีกองเรือของฝั่งตนเอง
ในเวลานั้น จักรพรรดิพระองค์ก่อน คือจักรพรรดิอันโทกุพร้อมด้วยพระอัยยิกา (ยาย) ได้อยู่บนเรือของตระกูลไทระ
พระอัยยิกาซึ่งเป็นคนของตระกูลไทระ ตระหนักว่าเมื่อกองเรือของตระกูลไทระพ่ายแพ้ ตนและจักรพรรดิอันโทกุจะต้องถูกจับไปแน่ๆ
พระอัยยิกาจึงกระโดดลงน้ำ ฆ่าตัวตายพร้อมจักรพรรดิอันโทกุ
ตระกูลไทระซึ่งกำลังเป็นรองอย่างมาก ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
ซามูไรหลายนายตัดสินใจจบชีวิตด้วยการกระโดดน้ำ ฆ่าตัวตายตามจักรพรรดิ ตามมาด้วยนักรบตระกูลไทระ ผู้หญิงและเด็กอีกจำนวนมากกระโดดน้ำตาม รวมทั้งบางส่วนก็ถูกตระกูลมินาโมโตะจับโยนลงน้ำ
1
ผืนน้ำเปลี่ยนเป็นสีแดง
เมื่อสิ้นสุดสงคราม ฝ่ายที่ชนะคือตระกูลมินาโมโตะ
ผู้รอดชีวิตจากตระกูลไทระจำนวนมาก รวมทั้งมุเนโมริและลูกชาย ได้ถูก “มินาโมะโตะ โนะ โยชิสึเนะ (Minamoto no Yoshitsune)” แม่ทัพตระกูลมินาโมโตะจับมามัดรวมกัน
มินาโมะโตะ โนะ โยชิสึเนะ (Minamoto no Yoshitsune)
โยชิสึเนะพาเชลยตระกูลไทระเข้าเมืองเกียวโต มุ่งไปยังราชสำนัก โดยมีประชาชนจำนวนมากพากันเยาะเย้ยตระกูลไทระ แต่ก็มีคนบางส่วนเศร้าใจที่นักรบผู้สูงศักดิ์ตระกูลไทระต้องมาเสื่อมเสียเกียรติเช่นนี้
แต่เหล่าเชลยก็ไม่ต้องอับอายนานนัก พวกเขาถูกประหารในเวลาต่อมา
โยชิสึเนะเป็นแม่ทัพรูปงามและมีชื่อเสียง ชนะศึกสงครามมาหลายครั้ง และชัยชนะครั้งนี้ก็ยิ่งทำให้เขาโด่งดัง
เมื่อโยชิสึเนะมาถึงเกียวโตพร้อมชัยชนะ ข้าราชสำนักก็ต่างชื่นชมและมอบรางวัลให้เขามากมาย
แต่ “มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ (Minamoto no Yoritomo)” พี่ชายของโยชิสึเนะรู้สึกอิจฉาน้องชาย
มินาโมโตะ โนะ โยริโตโมะ (Minamoto no Yoritomo)
โยริโตโมะเป็นผู้นำตระกูลมินาโมโตะและเขาก็หวาดกลัวว่าโยชิสึเนะจะคิดโค่นล้ม และชิงตำแหน่งผู้นำตระกูลไปจากเขา
โยริโตโมะกล่าวหาโยชิสึเนะว่าเป็นผู้ทรยศและส่งคนไปจับโยชิสึเนะเพื่อนำมาประหาร
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้านะครับ
โฆษณา