“ศุภจี สุธรรมพันธุ์”
CEO หญิงสุดแกร่ง ผู้สร้างประวัติการณ์ของสตรีไทย
ในสภาวะที่อะไรๆก็มีแต่เรื่องน่าปวดหัวแบบนี้ คิดว่าเพื่อนๆน่าจะเบื่อหน่ายกับปัญหา Covid-19 กันมากแล้ว แถมหลายๆธุรกิจก็ยังต้องโดนปิดกันไปชั่วคราวอีก แต่ทุกคนทราบไหมว่า
ประเทศไทยยังมี “สุภาพสตรี” อยู่ท่านนึง ที่มีฝีมือการบริหารอันน่าสนใจ เพราะเธอมีเรื่องราวในการ “พลิก” บริษัทในสภาวะวิกฤติมาแล้ว แถมยังเป็น CEO ที่มีอาวุธครบเครื่องโดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีอีกด้วย
ซึ่งเรียกได้ว่าสถานะการณ์ที่เธอต้องเข้าไปบริหารในแต่ละครั้ง แต่ละบริษัทนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการได้รับมอบหมายให้เข้าไป “พลิกฟื้น” บริษัทซะมากกว่า และเธอก็ทำสำเร็จมาทุกครั้ง
วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักกับสุภาพสตรีท่านนี้ คุณ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” CEO หญิงสุดแกร่ง ผู้สร้างประวัติการณ์ของสตรีไทย
ว่าแล้วก็ไปเริ่มกันเลย
หากจะนึกถึงผู้บริหารหญิงมากฝีมือในไทยแล้ว เราก็อยากจะแนะนำให้รู้จักกับคุณ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” CEO หญิงนอกตระกูลที่ได้รับหน้าที่ให้เข้ามาบริหาร “กลุ่มดุสิตธานี” เครือโรงแรมอันเก่าแก่และยิ่งใหญ่อีกหนึ่งกลุ่มของไทย
ก่อนหน้านี้ คุณแต๋ม ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เคยทำงานกับองค์กรระดับโลกอย่าง IBM มาเป็นเวลานานกว่า 23 ปี และทุกก็พอจะคนทราบใช่ไหมครับว่า IBM เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี ซึ่งเรียกได้ว่าแค่จุดเริ่มต้นก็น่าสนใจแล้ว เพราะคุณศุภจีคนนี้ เธอจบการศึกษาใน “เอกจิตวิทยา” มานั่นเอง
และก่อนหน้าที่จะเข้าไปทำกับ IBM เธอก็ยังเคยทำได้ทำอาชีพมาหลากหลายมากไมาว่าจะเป็นด้านการขายและด้านการเงินอีกด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นอะไรที่เธอถนัดอีกเช่นกัน
การได้เข้าไปทำงานใน IBM ถือว่ามีความเกี่ยวข้องกับโมเมนตั้มชีวิตของคุณศุภจีมาก เพราะเวลา 23 ปีของเธอในนั้นมันทำให้เธอได้เรียนรู้อะไรมากมายและที่สำคัญเธอยังถูกจัดว่าเป็น “กรรมการผู้จัดการหญิงคนแรก” และคนเดียวของ IBM ประเทศไทยในวัยเพียง 37 ปี
แต่ความสามารถของเธอก็ยังไม่หยุดอยู่แค่ในระดับประเทศ ต่อมาคุณศุภจีได้ถูกมอบหมายงานในเวทีอาเซียนด้วยการเข้ารับตำแหน่ง “ผู้ช่วย CEO” ของ IBM
ตลอดการทำงานในตำแหน่งนี้นั้น เธอได้ใกล้ชิดกับบุคคลระดับโลกอย่าง “Samuel J. "Sam" Palmisano” หรือ CEO ของ IBM ในอดีตอีกด้วย ซึ่งคุณศุภจีก็ยังได้เป็น “คนเอเชีย” คนแรกที่ได้เข้ารับตำแหน่งนี้
ทำให้เธอได้เรียนรู้ทั้งประสบการณ์, วิสัยทัศน์, การจัดการอารมณ์ และรูปแบบตลาดของประเทศต่างๆทั่วโลก ก่อนที่เธอจะกลับมาทำงานกับ IBM อาเซียนเพื่อดูแลตลาดกว่า 10 ประเทศที่สิงคโปร์กับพนักงานร่วม 9,000 คน เรียกได้ว่าเป็นบทเรียนอันล้ำค่าที่น้อยคนนักจะสามารถไปยืนในจุดนั้นได้โดยเฉพาะคนเอเชีย แต่เธอก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า “คนไทยก็ทำได้”
เมื่อเธอถึงจุดอิ่มตัวแล้ว คุณศุภจีจึงได้มีความคิดที่อยากจะกลับมาบริหาร “ธุรกิจที่ไทย” บ้าง เพราะเธอไม่อยากให้เวทีโลกรู้จักแค่เพียงชื่อเธอคนเดียว แต่เธออยากที่จะทำให้ “ชื่อขององค์กรไทย” ไปไกลในเวทีโลกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลของการเลือกกลับมาบริหาร “ไทยคม” (THCOM) บริษัทโทรคมนาคมของไทยที่ดูแลดาวเทียมให้กับบริษัทต่างๆมากมายทั่วโลก
ตอนนั้น ไทยคม กำลังมีสภาพที่ย่ำแย่ ผลประกอบการขาดทุนมานานถึง 6 ปี อีกทั้งยังไม่จ่ายปันผลนานกว่า 9 ปี เพราะได้นำเงินไปลงทุนเสียมาก แถมในช่วงแรกๆที่เข้าไปทำงาน คุณศุภจีก็ได้รู้ว่าถึงจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหมือนกัน แต่เธอก็ยังต้องกลับไปศึกษาพื้นฐานทำการบ้านอีกยกใหญ่ และเธอก็เริ่มย้อนกลับไปเรียนถึงบทที่สอนถึงความหมายของคำว่าดาวเทียมกันเลยทีเดียว
หลังจากที่เธอได้กลับมาศึกษาและปรับตัวได้เพียงไม่นาน จากความสามารถในระดับสากลของผู้หญิงไทยคนนี้ที่มีอยู่แล้วไปบวกกับความเข้าใจในธุรกิจของตนเอง เธอก็ได้ทำให้ ไทยคม กลับมามีกำไรได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน หรือ 1 ไตรมาสเท่านั้น
หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการ “พลิกวิกฤติ” ให้กับไทยคมมาสักพักใหญ่ๆแล้ว เธอก็ได้ตัดสินใจในการเปลื่ยนธุรกิจในการบริหารอีกครั้งในปีพ.ศ. 2559 และก็นั่นแหละครับ เธอเลือกที่จะเข้ามารับตำแหน่ง CEO ของกลุ่มดุสิตธานีที่เป็น “ธุรกิจโรงแรม” หลังจากการวางมือของการบริหารธุรกิจจานดาวเทียมมา
มันต่างกันสุดขั้วไปเลยใช่ไหมล่ะ !?
และความพิเศษของการขึ้นเป็น CEO ของ DTC หรือบมจ. ดุสิตธานี นั่นก็มีอยู่ว่า เธอก็ถือเป็นคนแรก (อีกแล้ว) ที่ไม่ได้อยู่ในตระกูลของเจ้าของบริษัทหรือเรียกได้ว่าเธอเป็น CEO คนแรกที่เป็น Non-Family ของ DTC นั่นเอง
แถมความบังเอิญในการเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ของคุณศุภจีก็ยังมีโจทย์หินของการ Disrupt จาก Digital ที่ได้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆตามยุคสมัย ซึ่งไม่ใช่แค่รูปแบบการแข่งขันและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลื่ยนไป แต่มันหมายถึงเวลาแห่งการเปลื่ยนแปลง “ทัศนคติ” และ “ทักษะ” ของการทำงานในองค์กรด้วย
ซึ่งเพื่อนๆก็จะเห็นได้ว่าการแข่งขันในสมัยก่อนนั้น ปลาใหญ่ มักจะได้เปรียบ ปลาเล็ก เสมอ แต่ในยุคที่มีแพลตฟอร์มต่างๆบนโลกดิจิตอลและความสะดวกสบายรวดเร็วที่ตอบโจทย์ลูกค้าเช่นทุกวันนี้ “ปลาเร็ว” นั้นดูเหมือนว่าจะได้เปรียบทั้งปลาใหญ่และปลาเล็ก ยกตัวอย่างเช่น Airbnb
แต่ความยากก็ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เมื่อตารางการปิดปรับปรุงโรงแรมดุสิตธานีที่อยู่ในกรุงเทพซึ่งมีอายุยาวนานกว่า 50 ปีก็ได้มาถึงในช่วงต้นปีก่อน ซึ่งนั่นหมายความว่า “บ่อน้ำเลี้ยง” ของบริษัทจะต้องเหือดหายนานไปกว่า 4 ปีก่อนที่โรงแรม ดุสิตธานี กรุงเทพ ในรูปแบบ Mixed use ด้วยเงินลงทุนกว่า 3.6 หมื่นล้านบาทจะเริ่มเปิดให้บริการในช่วงปีพ.ศ. 2566
สำหรับโจทย์นี้คุณศุภจีก็ตั้งใจในการที่จะไม่ลดพนักงาน ซึ่งเธอก็ได้มองหาธุรกิจใหม่ๆให้กับพนักงานอยู่เสมอภายใต้ชื่อ DTC และล่าสุดสิ่งที่คุณศุภจีกำลังทำเพื่อหารายได้ใหม่ให้กับบริษัทนั่นก็คือ
- บ้านดุสิตธานี โดยการเช่าบ้านศาลาแดงนาน 5 ปีเพื่อเปิดเป็นโซนร้านอาหารของ DTC ซึ่งได้แก่ร้านเทียนดอง, เมย์ฟลาวเวอร์, ดุสิตกูร์เมต์ และร้านเบญจรงค์
- โรงแรม ดุสิต สวีท ราชดำริ กรุงเทพฯ ซึ่งจะเป็นโรงแรมที่มีห้องสไตล์สวีททุกห้อง เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มที่พักในระยะเวลานาน
และนอกจาก 2 ธุรกิจหลักๆนี้ ทาง DTC ภายใต้การบริหารของคุณศุภจีก็ยังมีบริการบุคลากรโรงแรมรับจ้าง, บริการจัด Event และรับบริหารโรงแรมอยู่อีกด้วย ซึ่งถ้าใครที่กำลังสนใจการเติบโตของ DTC ก็สามารถไปศึกษาหาความรู้กันต่อได้ เพราะคุณศุภจีก็เป็น CEO ของที่นั่นมาได้นานกว่า 3 ปีแล้ว
ถือได้ว่าเป็น “ผู้หญิงแกร่ง” อีกท่านหนึ่งของประเทศไทยที่มีความสามารถหลากหลายและยังมีประสบการณ์ในการทำงานทั้งในองค์กรระดับโลกและระดับประเทศมาแล้วกับอายุเพียงแค่ 55 ปีของเธอในปัจจุบัน
สุภาพสตรีที่วางกลยุทธ์ก็เก่ง เทคโนโลยีก็เชี่ยวชาญ ใส่ใจกับวิสัยทัศน์แล้วแถมยังเก่งในด้านการเงินอีกด้วยเช่นนี้ ตามประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนแล้วคิดว่า “มีน้อยคน” ที่จะได้ไปสัมผัสความสำเร็จพร้อมๆไปกับยอมรับความกดดันได้มากมายเช่นคุณศุภจี
เรียกได้ว่าเป็น CEO หญิงคนไทยที่น่าติดตามอีกหนึ่งท่าน เพราะเรียกได้เต็มปากว่าเธอคือนักบริหารที่ถนัดและก็ยังได้แสดงฝีมือไปแล้วในการ “กอบกู้” บริษัททั้ง THCOM และ DTC ด้วยดีกรีอดีตผู้ช่วยผู้บริหารขององค์กรระดับโลกอย่าง IBM
กับ
“ศุภจี สุธรรมพันธุ์”
CEO หญิงสุดแกร่ง ผู้สร้างประวัติการณ์ให้กับสตรีไทยมาแล้วมากมาย เข้าไปบริหารบริษัทไหนราคาหุ้นตัวนั้นก็เติบโตแบบจุด “ระเบิด” กันมาแล้วนักต่อนัก
สำหรับวันนี้ก็คงต้องขอตัวลากันไปก่อน แล้วอย่าลืมรักษาสุขภาพและความสะอาดกันด้วยล่ะ
สวัสดีครับ...
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
