27 มี.ค. 2020 เวลา 03:28
"มันดีหรือแย่กันแน่"
ผมเชื่อว่าหลายคนเคยตั้งคำถามเหล่านี้
ชีวิตทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ ?
ทำไมต้องมาเจออะไรแย่ ๆ ?
1
เมื่อไหร่จะมีชีวิตดี ๆ ?
สถานการณแบบนี้ควรจะมีความสุขหรือความทุกข์ดี ?
ชีวิตมันสุดแค่นี้หรือมีขั้นกว่าอีก ?
ความจริงแล้วทันทีที่มนุษย์เกิดขึ้นมา ก็จะมาพร้อมกับน้ำตา และรอยยิ้มจากคนรอบข้าง รวมถึงของตัวเอง
นี่คือคำใบ้ของฟ้า ว่าชีวิตของเราต่อจากนี้ไป จะต้องพบเจอกับน้ำตา และ รอยยิ้ม ความสมหวัง และ ความผิดหวัง อีกนับครั้งไม่ถ้วนอย่างแน่นอน
ในขณะที่มีหนึ่งชีวิตเกิดขึ้น ก็จะมีอีกชีวิต ที่มุมใดมุมหนึ่งของโลกจากโลกนี้ไปเช่นกัน
พระจันทร์และความมืดลาฟ้าไป แสงวันใหม่ของพระอาทิตย์ก็จะต้องขึ้น นี่คือกฎของธรรมชาติ
ถ้าคุณสังเกตุดี ๆ คุณจะเห็นว่าทุกอย่างล้วนสัมพันธ์กัน
รอยยิ้มที่มีความสุขที่สุดในโลก ย่อมมาจากคนที่เคยเจ็บปวดที่สุดเช่นกัน
เช่นเดียวกับมารดาที่คลอดบุตร มีความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน แต่ความเจ็บปวดก็หายไปเมื่อรู้ว่าบุตรของตนนั้นปลอดภัยดี และความสุขทางใจก็จะเริ่มเข้ามาแทนที่ความทุกข์ทรมานทางร่างกาย
คนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก คือคนที่เผชิญกับความยากลำบากมามากที่สุดเช่นเดียวกัน
อาหารอันแสนจะธรรมดา จะอร่อยที่สุดก็ต่อเมื่อเราหิวโหย
เรากำลังจะตาย แต่ถ้าเรามีความหวังเพียงนิดเดียวเราอาจอยู่รอด อย่างเช่นลาที่ตกหลุมลึก มันโดนถมให้จมอยู่ใต้หลุม แต่มันสลัดดินทรายที่จะเอามาถมมันออก และเหยียบสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาจากหลุม
แพ้ชนะนั้น ก็ยากจะคาดเดา หากมุ่งมั่นไม่ถอดใจ อย่างเช่น ในเกมฟุตบอล มีฝ่ายหนึ่งโดนบุกแหลกทั้งเกมแทบจะแพ้อยู่แล้ว แต่ฝ่ายตรงข้ามดันสกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองทำให้พลิกชนะ
คนเรามีรอยยิ้มพอ ๆ กับการร้องไห้เสียใจ
การที่เราได้พบเจอเรื่องราวต่าง ๆ มันไม่ใช่ความบังเอิญ
ตังอย่างเช่น ท่านเจอเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เพราะเรียนอยู่ห้องเดียวกันที่โรงเรียนเดียวกัน เพื่อนคนนี้เปลี่ยนชีวิตของท่านให้ดีขึ้น ถ้ากลับกันหากพ่อแม่ของท่านไปฝากท่านเข้าเรียนช้าสัก 1 ปี หรือเร็วสัก1ปี หรือพาไปโรงเรียนอื่น ท่านก็จะไม่เจอหรือสนิทกับเพื่อนคนนี้ ทุกอย่างมันต้องพอดีถึงจะมีเรื่องราวเกิดขึ้น
อีกตัวอย่าง มีชายหนุ่มคนหนึ่งอาศัยอยู่กับแม่ 2 คนที่ต่างจังหวัด แต่ด้วยต้องหาเงินมาเลี้ยงแม่จึงจากบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดไปทำงานในเมืองหลวง วันหนึ่งเกิดภัยเศรษฐกิจ ทำให้ชายหนุ่มถูกเลิกจ้าง ชายหนุ่มคนนี้เสียใจมากร้องไห้ฟูมฟายคิดว่าชีวิตมันแย่จัง เมื่อไม่มีที่ไปเลยได้กลับบ้านก่อนกำหนดการ เมื่อไปถึงพบแม่นอนสลบอยู่ในบ้านคนเดียว โดยที่ไม่มีใครรู้ ชายหนุ่มเลยพาแม่ไปหาหมอได้ทัน หมอบอกว่าดีนะที่พามาทันไม่อย่างนั้นหมอคงช่วยไม่ได้ แม่ของเขาเลยรอดตายได้อย่างหวุดหวิด ถ้าชายหนุ่มคนนี้ไม่ตกงานและกลับบ้านพอดี เขาอาจจะต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปตลอดกาล ในโชคร้ายของเขากลับซ่อนโชคดีเอาไว้
สิ่งที่เราคิดว่าที่สุดแล้ว จริง ๆ มันอาจจะยังไม่ใช่ที่สุดก็ได้ ทั้งเรื่องความรัก หน้าที่การงาน การเรียน ครอบครัว สุขภาพ บางคนคิดว่ามันแย่ที่สุด บางคนคิดว่าดีที่สุด เขาคิดมันคงจะไม่มีไรดีหรือแย่ไปกว่านี้แล้ว แต่จริง ๆ แล้ว คุณยังเจอไม่หมดต่างหาก ถ้าชีวิตคุณยังคงดำเนินอยู่ หรือยังไม่ตาย อย่าคิดว่าถึงที่สุดแล้ว
ตัวอย่างเช่น ในสมัยพุทธกาล ก่อนที่พระนันทะจะบวช รักภรรยามาก คิดว่าจะหาภรรยาที่ไหนสวยขนาดนี้ได้อีกคงไม่มีแล้ว ก็คิดเสียดาย ไม่อยากบวช พระพุทธเจ้าเลยพาขึ้นไปดูนางฟ้านางสวรรค์ แต่ละนางล้วนสวยกว่าภรรยาในอดีตของพระนันทะทั้งนั้น ท่านจึงปล่อยวางตั้งใจบวชในพระพุทธศาสนา
คนเราจะมีความสุขหรือความทุกข์ อยู่ที่เรากำหนดเอง เราไม่รู้ล่วงหน้า เราก็ไม่รู้ว่าต้องเจออะไรบ้างเราเลือกไม่ได้ ที่จะเจอกับอะไร ทั้งภัยธรรมชาติ ความผิดหวัง โรคร้าย หรือแม้กระทั่งความตาย แต่ที่แน่ ๆ ถ้าเรามีเวลาเหลือ 1 วัน หมายความว่าเราก็สามารถมีความสุขได้ 1 วัน และมีความทุกข์ได้ 1 วันเช่นเดียวกัน อยู่ที่เราจะเลือกว่าอยากจะให้ 1 วันนั้นเป็นวันที่มีความสุขหรือความทุกข์
ทุกคนหนีไม่พ้นหรอกครับ ทุกคนต้องพบเจอสิ่งที่ควรจะต้องพบเจอ ทั้งร้ายและดี ดังนั้นไม่ว่าวันนี้ท่านจะเจออะไรอยู่ มีสติใช้ชีวิตให้คุ้มที่สุด ถ้ายิ้มเยาะเย้ยโชคชะตาได้จะยิ่งดี ขอบคุณครับสู้ ๆ ครับ by ชนดิเรก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา