Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ประวัติศาสตร์ย่อยง่าย
•
ติดตาม
4 เม.ย. 2020 เวลา 03:33 • ประวัติศาสตร์
กว่าจะเป็นประเทศที่จุ้นไปซะทุกเรื่อง ตอนที่ 4
โลกเราเคยมีการปฏิวัติใหญ่มาทั้งหมด 4 ครั้ง
คำว่าใหญ่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงจำนวนผู้เข้าร่วมหรือผู้เสียชีวิต แต่หมายถึงผลกระทบที่ตามมาหลังจากนั้น
การปฏิวัติอเมริกาหรือสงครามประกาศเอกราชปีค.ศ. 1776 ก็เป็นหนึ่งในการปฏิวัติใหญ่ของโลก
หลังจากชาวอาณานิคมร่วมกับกองกำลังอังกฤษรบชนะฝรั่งเศสจนครองความเป็นใหญ่ในดินแดนอเมริกาเหนือ
รางวัลที่ชาวอาณานิคมได้รับคือรัฐสภาอังกฤษออกกฏหมายเก็บภาษีชาวอาณานิคมเพิ่มอีกหลายฉบับ เหตุผลก็คือรัฐบาลใช้เงินไปกับสงครามมากมาย ชาวอาณานิคมต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
รัฐบาลอังกฤษยังปฏิบัติต่อชาวอาณานิคมเหมือนเป็นเมืองขึ้น ไม่ได้มองว่า 13 อาณานิคมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอังกฤษ เห็นได้จากกฎหมายที่ออกมาบังคับใช้เฉพาะชาวอาณานิคมเท่านั้น ส่วนชาวอังกฤษบนแผ่นดินแม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่า
สองเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวอาณานิคมเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่เท่าเรื่องสุดท้าย
ชาวอาณานิคมมองว่าในเมื่อตัวเองเสียภาษีแล้วก็น่าจะมีตัวแทนไปนั่งในสภาเพื่อออกสิทธิ์ออกเสียงหรือแสดงความคิดเห็นอะไรบ้าง เวลาสภาออกกฎหมายที่มีผลต่อชาวอาณานิคม ชาวอาณานิคมไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นใดๆเลย มารู้อีกทีก็ตอนกฎหมายบังคับใช้แล้ว
มีการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้เพิกถอนกฎหมายบางฉบับที่ชาวอาณานิคมรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม แต่ก็ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น จนกระทั่งวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1770 ได้เกิดเหตุการณ์ที่เป็นหนึ่งในชนวนเหตุที่ทำให้ชาวอาณานิคมต้องรุกขึ้นมาสู้กับประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาอำนาจของโลกในเวลานั้น
เหตุการณ์นั้นเริ่มต้นมาจากหิมะเพียงก้อนเดียว
ที่เมืองบอสตัน มีวัยรุ่นคนหนึ่งนึกสนุกปาหิมะใส่ทหารอังกฤษ ทหารอังกฤษคิดว่าถูกลอบทำร้าย เลยตอบโต้ ผลก็คือชาวอาณานิคมเสียชีวิต 5 คน บาดเจ็บ 3 คน นับเป็นเหตุการณ์นองเลือดครั้งแรกระหว่างชาวอาณานิคมกับกองกำลังอังกฤษ
นักประวัติศาสตร์บางคนมองว่าจุดเริ่มต้นของสงครามประกาศเอกราชมาจากเหตุการณ์นี้
พอข่าวแพร่กระจายออกไป อาณานิคมอื่นก็ไม่พอใจ เรียกร้องให้ถอนทหารออกจากเมืองบอสตัน และยังประท้วงด้วยการไม่ซื้อสินค้าของอังกฤษ(ก่อนหน้านี้อังกฤษออกกฎหมายว่าสินค้าบางอย่างต้องซื้อจากอังกฤษเท่านั้น ห้ามซื้อจากประเทศอื่น)
บอสตันเป็นเมืองศูนย์กลางซื้อขายใบชา จะมีเรือของอังกฤษเข้ามาเทียบท่าเพื่อขายใบชาให้ชาวอาณานิคม ชาวบอสตันก็ประท้วงด้วยการไม่ซื้อใบชาจากอังกฤษ อังกฤษก็แก้เกมด้วยการจอดเรือไว้อย่างนั้น ไม่ให้เรืออื่นๆเข้าเทียบท่าได้ ตกกลางคืนชาวอาณานิคมเลยปลอมตัวเป็นอินเดียแดงขึ้นไปบนเรือแล้วโยนใบชาทิ้งทะเล 342 หีบ
เหตุการณ์นี้ถูกเรียกว่างานเลี้ยงน้ำชาที่บอสตัน
รัฐบาลอังกฤษโมโหมาก สั่งให้ชาวอาณานิคมชดใช้ค่าเสียหาย และยังออกกฎหมายเพิ่มอีกหลายฉบับเพื่อกดขี่ชาวอาณานิคมบอสตัน
ตัวแทน 12 อาณานิคมจัดการประชุมอย่างลับๆ(ยกเว้นจอร์เจียที่จงรักภักดีต่อกษัตริย์อังกฤษ)เพื่อหาทางผ่อนปรนกฎหมายที่กดขี่ชาวอาณานิคม
หลังการประชุมตัวแทนชาวอาณานิคมเสนอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลอังกฤษ แต่รัฐบาลไม่สนใจเพราะต้องการจะจัดการขั้นเด็ดขาด เพื่อไม่ให้อาณานิคมอื่นๆเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
มาถึงตรงนี้ชาวอาณานิคมแล้วรู้ว่าสงครามเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
สงครามเริ่มต้นขึ้นในเดือนเมษายนปีค.ศ.1775 ตอนเริ่มสงคราม ไม่มีใครคิดหรอกครับว่าสงครามครั้งนี้จะยืดเยื้อและจบลงตรงชาวอาณานิคมประกาศเอกราช เพราะตอนนั้นอังกฤษคือประเทศมหาอำนาจ ส่วนอีกฝ่ายเป็นแค่ดินแดนอาณานิคม จะเอาอะไรไปสู้กับเค้า
และในความคิดของรัฐบาลอังกฤษก็เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ รัฐบาลอังกฤษมองอาณานิคมอเมริกาเป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือ จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด ซึ่งก็ไม่แปลกที่รัฐบาลอังกฤษจะมีความเชื่อมั่นแบบนั้น ก็พวกประเทศใหญ่ๆในยุโรป อังกฤษไล่ตบเกรียนมาหมดแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นสเปน เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส แค่ 13 อาณานิคมแป๊บเดียวกองกำลังอังกฤษก็ไปนั่งจิบชาชิวๆอยู่ที่นิวยอร์คแล้ว
แต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้นครับ
เดี๋ยวตอนหน้าเราจะดูมากันว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวอาณานิคมสามารถต่อกรกับมหาอำนาจโลกในขณะนั้นได้
กว่าจะเป็นประเทศที่จุ้นไปซะทุกเรื่อง ตอนที่ 5
https://www.blockdit.com/articles/5e80dcae44d65c0c9d0ce47f
https://www.facebook.com/ประวัติศาสตร์ย่อยง่าย-106175641010027/
บันทึก
4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ว่าด้วยเรื่องสหรัฐอเมริกา
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย