3 เม.ย. 2020 เวลา 10:52 • สุขภาพ
ทำไมยอดผู้ติดเชื้อในอเมริกาจึงสูง
ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในอเมริกาขณะนี้( 3 เมษายน 2563) อยู่ที่ 245,373 คน สูงที่สุดในโลก มากกว่าจีน 3 เท่า ทั้งที่อเมริกามีประชากรแค่ 328 ล้านคน ขณะที่จีนมี 1,400 ล้านคน อัตราการติดเชื้อต่อประชากรในอเมริกาจึงสูงกว่าจีน 13 เท่า
นอกจากนี้ ในจีน ซึ่งมีผู้ติดเชื้อรวม 81,620 คน ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ จำนวน 62,802 คน คิดเป็น 83% อยู่ในมณฑลหูเป่ย ซึ่งมีอู่ฮั่นเป็นเมืองเอก มณฑลที่มีผู้ติดเชื้อรองลงมาคือ มณฑลกวางตุ้ง มีผู้ติดเชื้อ 1,514 คน มณฑลอื่นก็มีผู้ติดเชื้อน้อยลงลดหลั่นไป คือลักษณะการแพร่ระบาดของจีน มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยเพียงจุดเดียว
https://www.worldometers.info/coronavirus/country/us/
แต่ในอเมริกา รัฐที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด คือ นิวยอร์ก 93,053 คน แต่ อันดับ 2 คือ รัฐนิวเจอร์ซี่ ก็มีผู้ติดเชื้อถึง 25,590 คน และมีรัฐที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 1,500 คน ถึง 24 รัฐ เกือบครึ่งหนึ่งของอเมริกา(มีรวม 50 รัฐ) และรัฐเหล่านี้ล้วนเป็นรัฐใหญ่ๆ มีประชากรมาก เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในด้านต่างๆ ทำให้เป็นไปได้น้อยมากที่อเมริกาจะคุมการระบาดได้อยู่แบบที่จีนทำได้ ตอนนี้ทำได้แค่ชะลอการระบาดให้ช้าลงบ้างเท่านั้น ซึ่งถ้าปล่อยให้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นวันละ 14% เท่ากับวันที่ผ่านมา ในวันที่ 15 เม.ย. อเมริกาจะมีผู้ติดเชื้อราว 1.5 ล้านคน แต่เมื่อผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น คนจะตกใจ ระวังตัวเพิ่มขึ้น รัฐก็จะมีมาตรการที่เข้มข้นเพิ่มขึ้น อัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อก็จะลดลง คาดว่า 15 เม.ย. จำนวนผู้ติดเชื้อจริงน่าจะอยู่ที่ราว 1 ล้านคน
สาเหตุที่ยอดผู้ติดเชื้อในอเมริกาสูง
1.การออกมาตรการควบคุมการเดินทางที่ช้าเกินไป
รัฐนิวยอร์กซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของอเมริกา เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศและของโลก มีประชากรกว่า 20 ล้านคน ผู้คนอยู่กันอย่างแน่นหนา เมื่อไวรัสระบาด บริษัทห้างร้านปิด โดยรัฐไม่มีมาตรการควบคุมการเดินทาง คนตกงานก็เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
คนมีสตางค์ก็มักจะมีบ้านหลังที่ 2 ที่ฟลอริด้า ซึ่งมีอากาศอบอุ่น คนเหล่านี้ก็บินหลบมาพักที่บ้านพักตากอากาศของตนหลายแสนคน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในรัฐฟลอริด้าเพิ่มพรวดไปถึง 9,008 คน ทั้งที่เป็นรัฐที่มีอากาศร้อนที่สุดในอเมริกา(ไม่นับฮาวาย)
ถึงตอนนี้จะคุมศูนย์กลางการระบาดให้หยุดอยู่แต่จุดเดียวแบบจีนนั้นทำไม่ได้แล้ว เพราะเชื้อกระจายไปมากมายทั่วประเทศแล้ว
2.ความล้มเหลวของระบบประกันสุขภาพอเมริกา
ค่ารักษาพยาบาลในอเมริกาแพงมาก คนทั่วไปที่กำลังผ่อนบ้านผ่อนรถ ถ้าเจ็บป่วยขนาดต้องผ่าตัดหรือนอนโรงพยาบาลเป็นสัปดาห์ๆ ก็เตรียมขายบ้านขายรถได้เลย บางคนหมดเนื้อหมดตัว ออกจากโรงพยาบาลมาต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน(homeless) นอนข้างถนน
และมีคนอเมริกันเกือบ 30 ล้านคนที่ไม่มีประกันสุขภาพ เจ็บป่วยต้องจ่ายเองหมด ที่มีประกันก็ต้องจ่ายเองจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินจำนวนมากเช่นกัน ดังนั้นจิตสำนึกของคนอเมริกันคือ ถ้าไม่ป่วยหนักจริงๆ จะไม่ไปโรงพยาบาล
เมื่อเชื้อโควิดเริ่มระบาด คนเจ็บคอ มีไข้ ไอ ส่วนใหญ่ไม่ไปตรวจ เพราะไม่มีเงิน แม้ภายหลังมี สส.พรรคฝ่ายค้าน(เดโมแครต) อภิปรายกดดันจนหน่วยงานของรัฐต้องยอมให้ตรวจโควิดฟรี แต่เชื้อก็ไปกว้างแล้ว และการจะเปลี่ยนจิตสำนึกของคนให้อยากไปตรวจไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อไม่รู้ว่าใครติดเชื้อหรือไม่ ผู้ติดเชื้อก็อยู่ร่วมกับคนอื่นๆ แพร่เชื้อต่อๆ กันไป
3.ชาวอเมริกันไม่สวมหน้ากากอนามัย
ชาวอเมริกันและชาวยุโรป มีปกติไม่สวมหน้ากากอนามัย ถ้าใครสวมคนรอบข้างจะมองว่าเป็นคนป่วย
แม้หน่วยงานของรัฐในอเมริกาก็ออกมาประกาศบอกประชาชนว่าใครไม่ป่วย ไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัย จริงๆ เป็นเพราะหน้ากากอนามัยมีไม่เพียงพอ ต้องการสงวนไว้ให้หมอ พยาบาลใช้ คนส่วนใหญ่จึงไม่ใส่หน้ากากอนามัย ไม่มีใครคิดช่วยตัวเองโดยการเอาผ้ามาเย็บเป็นหน้ากากอนามัยใช้เองแบบที่ไทยทำ
แล้วความจริงในเรื่องหน้ากากอนามัยนี้คือ จีนเป็นผู้ผลิตหน้ากากอนามัยประมาณครึ่งหนึ่งของโลก คนจีนก็ใช้หน้ากากอนามัยจนคุ้น เพื่อกันเชื้อโรคด้วย กันฝุ่นควันด้วย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตอนไวรัสระบาดหนักในจีน บริษัทต่างๆ ก็เร่งผลิตหน้ากากอนามัยกันใหญ่ เพียง 1 เดือนผลิตเพิ่มขึ้น 12 เท่าตัว จากวันละราว 10 ล้านชิ้น เป็นวันละ 116 ล้านชิ้น ดังนั้นในจีนตอนนี้หน้ากากอนามัยมีท่วมท้น เหลือเฟือ พยายามส่งออกขายทั่วโลก ขอเพียงให้ติดต่อซื้อจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์ หลีกเลี่ยงเจ้าใหม่ จากวงการตัดเย็บบ้าง อุตสาหกรรมไฟฟ้าบ้าง ที่เพิ่งมาผลิตหน้ากากอนามัยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบางเจ้าอาจมีสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
คนไทยเราปกติเป็นคนสบายๆ ค่อนข้างทำอะไรตามใจตัวเอง แต่คนไทยเป็นคนฉลาด ปรับตัวเก่ง เมื่อถึงคราวรู้ว่ามีภัยจะมาถึงตัวแล้วจริงๆ เราก็สามารถร่วมแรงร่วมใจช่วยกันฟันฝ่าภัยนั้นๆ มาได้ ประวัติศาสตร์กว่า 700 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์ตนเองเช่นนั้น
Cr : https://www.thailandmedical.news/
ดังนั้น ขอให้ภาครัฐมีมาตรการที่ชัดเจนจริงจัง ในการควบคุมการระบาดของโรค ไทยยังมีสิทธิเอาอยู่ คุมการระบาดได้อยู่ ให้อัตราการเพิ่มของผู้ติดเชื้อใหม่เหลือต่ำกว่า 2% ต่อวันแบบจีนหรือเกาหลี ซึ่งจะทำให้ผู้ติดเชื้อที่หายออกจากโรงพยาบาล มีจำนวนมากกว่าผู้ติดเชื้อใหม่ ยอดผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลงจนหมดไปอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยเราโชคดีที่เป็นเมืองร้อน ไวรัสตายง่าย ระบาดยาก ขอเพียงทุกคนช่วยกันเตือนกัน อย่าประมาท อยู่บ้าน ไม่พบปะสังสรรค์ ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ดูแลความสะอาดให้ดี
หยุดการระบาดให้ได้ในเดือนเมษายนนี้
อ้างอิง ยอดผู้ติดเชื้อในอเมริกา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา