10 เม.ย. 2020 เวลา 11:50
สภาพสุดสะพรึง ดร.สมเกียรติ ถ่ายทอดสถานการณ์ในสหรัฐ ภาพสุสานนิวยอร์ค ย้ำเตือนคนไทย โรคมันร้ายจริงๆ
จากสถานการณ์โรคปอดอักเสบชนิดรุนแรงที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด -19 ที่ชาวไทยกำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง ซึ่งข้อมูล ณ วันที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น. เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 1,603,719 ราย มีผู้เสียชีวิต 95,722 คน ในจำนวนนี้มีผู้รักษาหายแล้ว 356,655 ราย โดยสหรัฐอเมริกายังคงครองอันดับหนึ่งของโลกที่มียอดผู้ป่วยสะสมพุ่งไปถึง 468,566 ราย รองลงมาคือสเปนที่มียอดผู้ป่วยสะสมที่ 153,222 รายอันดับสามเป็นอิตาลีอยู่ที่ 143,626 ราย อันดับสี่เป็นเยอรมันที่ 118,235 ราย อันดับที่ห้าตกเป็นของฝรั่งเศสที่ 112,950 ราย อันดับที่หกเป็นจีนที่ 81,907 ราย อันดับเจ็ดเป็นอิหร่านมีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 66,220 ราย อันดับที่แปดเป็นสหราชอาณาจักรที่ตัวเลข 65,077 ราย อันดับที่เก้าเป็นตุรกีที่ 42,282 ราย และอันดับสิบเป็นชาติใหม่คือ เบลเยียมที่ 24,983 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น.)
ล่าสุด ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า “ข่าวตรงจากนิวยอร์ก ตายที่บ้านราว 10 เท่า ไม่ตายใน รพ. ไม่รับว่าเป็นโควิด เพราะไม่ได้ตรวจ มาแนวหวัดสเปนสมัยก่อน ไม่มีใครกล้าตรวจ ลงว่าหัวใจหยุดเต้นก็ได้ หรือขาดออกซิเจนง่ายสุดคือปอดบวมจากแบคทีเรีย ที่ไข้หวัดบุกก่อน Amen เราเตือนแล้วว่ามันร้าย love you, Thailand”
โดยก่อนหน้านั้น เซเลบริตี้นิวยอร์กคนดัง หนุ่ม ชลธิศ เข็มเพชร พี่ชายของ พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร พิธีกรหนุ่มชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “มัวแต่ทำกับข้าว ลืมเสนอข่าวเลย ตอนนี้ศพล้นทะลักทะลวง เพราะตายที่บ้านน่าจะเยอะมากครับคาดว่า สองวันที่ผ่านมาประมาณ 800 ศพได้
ตอนนี้สุสานทั้งหลายเต็มหมดเลย เลยต้องเอามาฝังซ้อนๆๆๆๆกันรวมไว้ที่เกาะ Hart อยู่ทาง Bronx เพราะเดี๋ยวคงมีอีกเยอะ คนไทยอยู่บ้านกันนะรอให้โรคระบาดนี่ดีขึ้นก่อน เพราะมันคือความตายไง แล้วตายง่ายมากกก แต่นี่คือชีวิตจริงโนะ ทำความดีเอาไว้ เมตตากันให้มากๆ อโหสิกรรม ไม่เบียดเบียนใคร ขอบคุณรูปจากลุงต้อย Kiccha Buranond นะครับ”
อย่างไรก็ตามสหรัฐอเมริกาที่มียอดผู้ป่วยสะสมที่พุ่งไปถึง 468,566 ราย โดยเพิ่มขึ้นมาอีก 33,536 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 16,691 ราย เพิ่มขึ้นอีก 1,900 ราย ซึ่งมีผู้รักษาหายแล้ว 25,928 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น.)
โฆษณา