12 เม.ย. 2020 เวลา 08:06 • ความคิดเห็น
เคล็ดลับการฝึกภาษาจีน จากประสบการณ์ใช้ชีวิตในจีนกว่า 8ปี
สมัยที่อ้ายจงไปใช้ชีวิตที่จีนปีแรก เมื่อปี 2011 ได้ไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยเป่ยหัง (การบินและอวกาศแห่งปักกิ่ง)ไปแบบที่ไม่รู้ภาษาจีนใดใดเลย
รู้แค่ "หนีห่าว" - สวัสดี , "หว่ออ้ายหนี่" - ผมรักคุณ , "เซี่ยเซี่ย" - ขอบคุณ
คือรู้แค่นั้นจริงๆ โชคดีที่ก่อนจะไปเรียนที่นั่น ได้ติดต่อพี่คนไทยที่เรียนที่นั่น และเก่งภาษาจีนมาก ดังนั้น อ้ายจงก็แปลงร่างเป็น "ชาวเกาะ" สิฮะ จะรออะไร รอให้ใครมาตัดริบบิ้นหรือ 55
คือตอนเลือกรูมเมท ก็เกาะพี่เขานี่แหล่ะ ทำสายตาออดอ้อน ส่งกระแสจิตเบาเบา จงเป็นเมทผม จงเป็นเมทผม เพื่อที่จะทำให้ชีวิตในเมืองจีนสบายขึ้น อยู่ใกล้ๆคนที่เก่งภาษาจีน
พอหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรที่ต้องใช้ภาษาจีน ก็เกาะพี่คนไทยคนนี้แบบติดหนึบ เวลาไปไหนมาไหน ไปกินอาหาร หรือทำอะไร ก็รวมกลุ่มไปกับคนไทยในมหาวิทยาลัย
1
อ้ายจงไปเรียนปริญญาโท หลักสูตรภาษาอังกฤษ เลยรู้สึกว่า ก็ใช้ภาษาอังกฤษในตอนเรียน ส่วนภาษาจีน ก็ปล่อยไปก่อน เพราะมีปมเรื่องการพูดติดอ่างของตนเองในสมัยเด็ก เลยกลัวการฝึกภาษาใหม่ๆ จึงเกาะๆพี่ๆ เกาะๆคนไทยไปแล้วกัน (แม้จะมีวิชาภาษาจีนให้เรียนในหลักสูตร แต่ก็ไม่ได้กระเตื้องเท่าไหร่ในตอนนั้น เพราะไม่ได้ฝึกเลย )
เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 1 ปีเต็มๆ จนวันหนึ่ง ก็มีเรื่องราวให้มาสะกิดให้ตื่นมาพบความเป็นจริงว่า เราจะเกาะคนอื่นแบบนี้ไปตลอดไม่ได้
เรื่องราวที่ว่าก็คือ เห็นคนไทยคนอื่นๆที่มาเรียนภาษาจีน ที่เริ่มจาก 0 ไม่ได้ภาษาจีนเลย กลับพูดคล่อง ภายในเวลาไม่นาน เพราะพยายามฝึกอย่างมาก
คือมาจีนแล้ว ถ้าไม่ได้ภาษาจีน ก็ไม่รู้จะมาทำไม จริงไหม?
พอคิดได้เช่นนั้น ก็จัดการปฎิวัติตนเอง จำได้ว่า วันรุ่งขึ้นหลังจากที่คิดได้
"ออกเดินทางเที่ยวรอบปักกิ่ง คนเดียว โดยภาษาจีนแบบไม่รู้อะไรเลยนั่นแหล่ะ เพราะไม่เคยฝึก ไม่เคยคิดจะเรียนรู้มาก่อน เกาะอย่างเดียว"
จำได้ว่า วันนั้นออกไปแต่เช้า กลับมาอีกทีค่ำ เพราะหลงทางทั้งวัน 555 จนรูมเมท ที่เป็นรุ่นพี่คนไทย งงงวยว่า อ้ายจงหายไปไหนมา
ตอนนั้น พอกลับมาถึงห้อง รู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่สุขมาก เพราะเราเอาชนะตนเองได้แล้ว กล้าที่จะไปเผชิญโลก ฝึกภาษาจีน ด้วยตัวเราเอง
อ้ายจงใช้วิธี ใช้ app dictionary ในมือถือ (ตอนนั้นใช้ Pleco แล้วก็ยังติดใช้ app นี้ มาจนถึงตอนนี้) ค้นหาศัพท์ภาษาจีนตลอด อยากไปไหน ก็หาคำ จดโน้ตลงมือถือ - กระดาษ แล้วก็ลองพูดกับคนจีน พูดไม่รู้เรื่อง โดนขำบ้างอะไรบ้าง ก็ไม่สนใจ เพราะที่เราต้องสนใจคือ การเอาชนะตัวเราเอง คิดไว้อย่างเดียวว่า มาจีนแล้ว ไม่ได้จีน ใช้ชีวิตด้วยตนเองไม่ได้ อายชาวบ้านตายเลย
และจากวันนั้นที่กล้าออกไปใช้ชีวิตคนเดียว ก็ทำให้กลายมาเป็นอ้ายจงในวันนี้ ได้มีโอกาสเรียน ทำวิจัยในจีนและเป็นอาจารย์พิเศษสอนในมหาวิทยาลัยจีน
ผมพยายามฝึกเท่าที่ทำได้ และการหาข่าว หาข้อมูลมาเล่าผ่านเพจอ้ายจง ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่อ้ายจงฝึกฝนจนถึง ณ ขณะนี้ อ้ายจงสนุกไปกับงานเขียนเรื่องจีน เพราะได้เรียนรู้ทุกวัน การเรียนรู้ไม่มีวันหยุดนิ่ง
สรุปก็คือ ที่เขียนยาวมาทั้งหมด อยากจะบอกทุกคนว่า
การเรียนรู้ภาษาจีนที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะมาเรียนจีน หรือเรียนที่ไทย สามารถทำได้ ประมาณนี้
1. ตั้งใจฝึกฝน มีวินัย
การฝึกภาษาจีน ที่ยากที่สุด คือการเริ่มต้น เพราะอักษรเยอะมาก แต่ทุกคนสามารถทำได้ ด้วยการมีวินัย เหนื่อยตอนเริ่มแต่เราจะสบายไปตลอด ให้บอกตนเองไว้
2. ฝึกให้ถูกวิธี
อ้ายจงแนะนำให้เริ่มจากการฝึก ฟัง พูด ด้วยการอ่านและจำเสียง พินอิน Pinyin (พินอิน คือ รูปแบบคำภาษาอังกฤษที่นำมาใช้แทนเสียงคำจีน) เนื่องจากง่ายกว่าการจำตัวอักษร เพื่อให้เราเริ่มคุ้นเคยกับคำศัพท์ภาษาจีนก่อน
จากนั้น ก็มาฝึกจำตัวอักษรจีนฝึกเขียนและอ่าน
อักษรจีน-คำจีนขั้นพื้นฐาน ประมาณร้อยกว่าอักษร มีรูปแบบดัดแปลงมาจาก รูปภาพ ดังนั้น เราสามารถใช้หลักการจำ มองอักษรให้เป็นภาพ ก็จะง่ายขึ้น
เช่น 口 แปลว่า ปาก - มองเป็นรูป จะคล้ายปากคน
人 แปลว่าคน - มีลักษณะคล้ายคนเดิน
木 แปลว่าต้นไม้ - มองเป็นรูป คล้ายต้นไม้
火แปลว่าไฟ - ลักษณะอักษรคล้ายเปลวไฟ,
山 แปลว่าภูเขา - ลักษณะอักษรคล้ายภูเขา
日 แปลว่าดวงอาทิตย์ - ลักษณะอักษรสามารถจินตนาการได้ว่าคล้ายดวงอาทิตย์
ขอขอบคุณภาพจาก http://blog.tutorming.com/mandarin-chinese-learning-tips/how-do-chinese-characters-work
และพอเรารู้อักษรพื้นฐาน การเรียนภาษาจีนของเราจะง่ายขึ้น เพราะอักษรจีนจำนวนมาก เกิดจากการนำอักษรอื่นมาอยู่ในอักษรตนเอง
การฝึกภาษาที่ดี ต้องฝึกทุกวัน ให้คุ้นชิน ไม่งั้นเราจะลืม และควรฝึกกับสถานการณ์จริงควบคู่ไปด้วย เช่น ฟังเพลงจีน, ดูซีรี่ย์หรือหนังจีน แม้ตอนแรกเราจะไม่รู้เรื่อง แต่ก็ขอให้ผ่านหูผ่านตาเข้าไว้ก่อน
3.กล้าที่จะเรียนรู้ อย่างถ้าใครมีโอกาสมาจีน ก็ออกไปเผชิญโลก ไปคุยกับคนจีน ไปฝึกภาษาเลยครับ อย่าอยู่แต่กลุ่มคนไทย ที่เป็น "comfort zone"
4.ตัดความอาย และความกลัวออกไปให้หมด พร้อมทั้งให้กำลังใจตนเองเสมอ
จงบอกตนเองเข้าไว้ว่า "เราทำได้ง่ายนิดเดียว"
5. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
เราต้องตั้งเป้าให้ชัดก่อนว่า เราจะเรียนภาษาจีนไปทำไม เราจะได้เหมือนมีจุดหมายเป็นไกด์ให้เราไม่หลงทาง
6. กำหนดแผนและระยะการเรียนรู้ของเราเป็นแต่ละขั้น
เหมือนการเล่นเกม มีแต่ละด่าน เราจะได้สนุกไปกับการเรียนภาษาจีน และไม่กดดันตนเองจนเกินไปด้วย
ใครที่อยากเรียนภาษาจีน หรือกำลังเรียนอยู่ ขอให้สู้ๆ อ้ายจงเป็นกำลังใจให้ หากใครมีคำถามอะไรถามเข้ามาได้นะครับ
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
โฆษณา