13 เม.ย. 2020 เวลา 09:44 • การศึกษา
คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ 1/2560 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการ
กำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการมี อ.ก.พ. ขึ้น 1 คณะเพื่อทำหน้าที่ อ.ก.พ. กระทรวงเพียงคณะเดียว 1 คณะจำนวนไม่เกิน 15 คน
มาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ. ศ. 2551 ให้ อ.ก.พ. กระทรวงมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
1. พิจารณากำหนดนโยบายระบบและระเบียบวิธีการบริหารทรัพยากรบุคคลในกระทรวง
2. พิจารณาการเกลี่ยอัตรากำลังระหว่างส่วนราชการต่างๆภายในกระทรวง
3. พิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยและการสั่งให้ออกจากราชการ
4. ปฏิบัติการอื่นตามพระราชบัญญัตินี้และช่วย ก.พ. ปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ตามที่ ก.พ. มอบหมาย
ที่ 28/2559 เรื่องให้จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปีโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาหมายความว่า งบประมาณที่รัฐจัดสรรให้หรือผ่านทางสถานศึกษาหรือผู้จัดการศึกษา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี ให้มีมาตรฐานและคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
การศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี หมายความว่า การศึกษาตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษา ระดับประถมศึกษา จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปวช 3 หรือเทียบเท่า และให้ความหมายรวมถึง การศึกษาพิเศษ และการศึกษาส่งเคราะห์ด้วย
การศึกษาพิเศษ หมายความว่า การจัดการศึกษาให้แก่บุคคล ซึ่งมีความผิดปกติอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งจำเป็นต้องจัดการศึกษา ให้เป็นรูปแบบโดยเฉพาะ และอาศัยเทคนิคต่างๆ ในการสอนตามลักษณะความต้องการและความจำเป็นของแต่ละบุคคล
การศึกษาสงเคราะห์ หมายความว่า การจัดการศึกษาให้แก่เด็กที่ตกอยู่ในภาวะยากลำบากหรืออยู่ในสถานภาพที่ด้อยกว่าเด็กทั่วไป หรือมีลักษณะเป็นการกุศล เพื่อให้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีพัฒนาการที่ถูกต้องและเหมาะสมกับวัย
จัดให้เด็กเล็กก่อนวัยเรียน ได้รับการดูแลและพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการดำเนินการด้วย
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาสำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปี เพื่อเสนอตามกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ค่าใช้จ่ายได้แก่
1 ค่าจัดการเรียนการสอน
2 ค่าหนังสือเรียน
3 ค่าอุปกรณ์การเรียน
4 ค่าเครื่องแบบนักเรียน
5 ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
6 ค่าใช้จ่ายอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ (เพิ่มเข้ามาใหม่เดิมมี 5)
ในกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาด
ที่ 16/2560 เรื่อง การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ให้บุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการ ใน ก.ค.ศ. พ้นจากตำแหน่งให้ถือใหม่ตามนี้ ก.ค.ศ. จำนวน 14 คน
ให้ก.ค.ศ. มีอำนาจแต่งตั้ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเพื่อทำการใดๆแทน ก.ค.ศ. 3 คณะ แต่ละคณะ ไม่เกิน 15 คน ประกอบด้วย
1 อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์
2 อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการ
3 อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ให้แก้ไขคำว่า ขั้นเงินเดือน ในกฏหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นคำว่า เงินเดือน ทุกแห่ง
มอบอำนาจให้ กศจ. เป็นผู้ดำเนินการสอบแข่งขัน
ยกเลิก การรักษาราชการแทน กรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้มีอำนาจตราตามมาตรา 53 สั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ไปรักษาการในตำแหน่ง นั้นได้
ที่ 17/2560 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2558 ประกาศและบังคับใช้ 21 มีนาคม 2560
ให้มีคณะกรรมการคุรุสภา ตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 12 คน
ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อาจให้คณะกรรมการคุรุสภาและคณะกรรมการ สกสค. สรรหาและแต่งตั้ง เลขาธิการคุรุสภา / เลขาธิการ สกสค. / ผอ. องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการ สกสค.
ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.)
ให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 10/2559, 11/2559 , 38/2559 และ 1/2560 เฉพาะข้อ 8
ให้มีคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค คปภ. จำนวน 9 ตำแหน่ง 10 คน
ให้ คปภ มีอำนาจ 9 ข้อ ดังต่อไปนี้
1 กำหนดทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด
2 โอนกิจการทรัพย์สิน หนี้และเงินงบประมาณ
3 วางแผนงานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด
4 เกลี่ยอัตรากําลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
5 แต่งตั้ง โอน หรือย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา
6 สั่งให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา หรือผู้ปฏิบัติงานในตำแหน่งต่างๆ หยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือให้พ้นจากตำแหน่ง
7 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
8 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานได้ตามความจำเป็น
9 เชิญข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง มาสอบถามข้อเท็จจริง รวมทั้งเรียกเอกสารจากหน่วยงาน ของรัฐหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมาเพื่อประกอบการพิจารณา
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบงานธุรการของ คปภ.
ให้มีสำนักงานศึกษาธิการภาคจำนวน 18 ภาค สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้มีอำนาจ 6 ข้อดังต่อไปนี้
1 กำหนดยุทธศาสตร์
2 สนับสนุนการพัฒนาจังหวัด
3 กำกับดูแล ติดตาม และประเมินผล
4 สนับสนุนการตรวจราชการ
5 ประสานการบริหารงานระหว่างราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
6 ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ให้มีศึกษาธิการภาคเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างในสำนักงานศึกษาธิการภาค มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงานของสำนักงานศึกษาธิการภาคและให้มีรองศึกษาธิการภาคจำนวน 1 คน เพื่อช่วยเหลืองานศึกษาธิการภาค ทั้งนี้ ผู้ที่ดำรงตำแหน่งรองศึกษาธิการภาคต้องเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งประเภทอำนวยการระดับสูงหรือศึกษาธิการจังหวัดอยู่ก่อนวันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ
ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุศึกษาธิการภาคและสั่งบรรจุ แต่งตั้งรองศึกษาธิการภาค จากราชการในกระทรวงศึกษาธิการ
ในแต่ละจังหวัด ให้มีคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด โดยเรียกย่อว่า กศจ. จำนวนไม่เกิน 15 คน
ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมายเป็นประธานกรรมการ
ศึกษาธิการภาคในพื้นที่ที่รับผิดชอบ เป็นรองประธานกรรมการ
ศึกษาธิการจังหวัด เป็นกรรมการและเลขานุการ
รองศึกษาธิการจังหวัดเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ให้ กศจ. มีอำนาจหน้าที่ในเขตจังหวัด 10 ข้อดังต่อไปนี้
1 อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมาย ว่าด้วยกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
2 กำหนดยุทธศาสตร์ แนวทางการจัดการศึกษาและส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษาทุกระดับทุกประเภท
3 พิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาการศึกษา
4 พิจารณาและให้ความเห็นชอบกรอบการประเมินผลการปฏิบัติงานและตัวชี้วัดในการดำเนินงานในลักษณะตัวบ่งชี้ร่วมของส่วนราชการหรือหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
5 เสนอความเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนตามข้อ 2
6 กำกับ เร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการหรือหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
7 วางแผนการจัดการศึกษาและพิจารณาเสนอแนะการจัดสรรงบประมาณให้แก่สถานศึกษา
8 เสนอคปภ เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด
9 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานตามความจำเป็นเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของ กศจ.
10 ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามที่ คปภ. มอบหมาย
ให้ กศจ. เสนอ คปภ. เพื่อแต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาธิการจังหวัด โดย ย่อว่า อกศจ. เพื่อช่วยเหลือหรือกลั่นกรองงานให้แก่กศน เกี่ยวกับ การบรรจุ การแต่งตั้ง การโยกย้าย การดำเนินการทางวินัย การกำหนดวิทยฐานะ หรือการกำหนดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้ อกศจ. จำนวนไม่เกิน 9 คน
ให้มีสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ รับผิดชอบงานธุรการของ กศจ. อกศจ. และคณะอนุกรรมการบริหารราชการเชิงยุทธศาสตร์ ให้มีศึกษาธิการจังหวัด เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการพนักงานราชการ และลูกจ้างในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของศึกษาธิการภาค การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร มาตรา 53 วงเล็บ 3 และ 4 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ. ศ. 2547 ให้ศึกษาธิการจังหวัดโดยความเห็นชอบของ กศจ. เป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง
การบรรจุแต่งตั้งตามมาตรา 53
1 ทุกตำแหน่งที่มีวิทยฐานะ เชี่ยวชาญพิเศษ คศ.5 ให้เลขาธิการ กพฐ. สั่งบรรจุ โดยอนุมัติ กคศ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำเสนอนายก นายกนำความกราบทูลพระมหากษัตริย์โปรดเกล้าแต่งตั้ง
2 ตำแหน่ง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา / รอง ผอ. เขตพื้นที่การศึกษา ให้เลขาธิการ กพฐ. สั่งบรรจุแต่งตั้งโดยอนุมัติ กคศ.
3 ตำแหน่ง ผอ.สถานศึกษา รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ บุคลากรอื่นในเขต ให้ศึกษาธิการจังหวัดสั่งบรรจุและแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ กศจ.
4 ตำแหน่งครูผู้ช่วย / ครู คศ.1 / ครูชำนาญการ คศ.2 / ครูชำนาญการพิเศษ คศ.3 / ครูเชี่ยวชาญ คศ.4 ให้ศึกษาธิการจังหวัด สั่งบรรจุและแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ กศจ.
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยความเห็นชอบ คปภ. กำหนดสถานที่ตั้งของสำนักงานศึกษาธิการภาคและสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดให้แล้วเสร็จภายใน 45 วันนับตั้งแต่วันที่คำสั่งมีผลใช้บังคับ
ในกรณีที่มีปัญหา เกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
ในกรณีที่เห็นสมควร นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา