19 เม.ย. 2020 เวลา 06:47 • สุขภาพ
มะม่วง มารู้จักมะม่วงให้มากขึ้นกันเถอะแถมประโยชน์มากมายอีกต่างหาก
มะม่วง เป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย มีทั้งรสชาติเปรี้ยว รสหวานอมเปรี้ยว และรสมันมีหลายสายพันธุ์ ซึ่งนอกจากระสชาติอร่อยแล้ว มะม่วงมีสารอาหารอะไรบ้าง และมีประโยชน์มากน้อยอย่างไรต่อร่างกาย
1
คุณค่าทางอาหาร
โดยในมะม่วงดิบ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม น้ำตาล 13.7 กรัม ใยอาหาร 1.6 กรัม ไขมัน 0.38 กรัม โปรตีน 0.82 กรัม วิตามินเอ 54 ไมโครกรัม เบต้าแคโรทีน 640 ไมโครกรัม วิตามินบี 1 0.03 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0.04 มิลลิกรัม วิตามินบี 3 0.67 มิลลิกรัม วิตามินบี 5 0.2 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.12 มิลลิกรัม วิตามินบี 9 43 ไมโครกรัม วิตามินซี 36 มิลลิกรัม ธาตุแคลเซียม 11 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.16 มิลลิกรัม ธาตุแมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม ธาตุโพแทสเซียม 168 มิลลิกรัมและสังกะสี 0.09 มิลลิกรัม
1
ประโยชน์ของมะม่วง ได้แก่
ทำให้สดชื่น
เมื่อรับประทานจะทำให้รู้สึกสดชื่น และกระปรี้กระเปร่า โดยมะม่วงจะช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ และช่วยแก้อาการร้อนใน เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินซี
ช่วยดูแลผิวพรรณ
มะม่วงมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอและวิตามินซี ที่ทำให้ผิวพรรณไม่หมองคล้ำ ช่วยบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส และดูเปล่งปลั่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
1
ช่วยบำรุงให้กระดูกและฟันแข็งแรง
มะม่วงอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ส่วนช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย
ช่วยบำรุงสายตา สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตา เช่น มองไม่ชัด ปวดตา หรือตาสู้แสงไม่ได้ มะม่วงอุดมไปด้วยวิตามินเอและเบตาแคโรทีน ที่สามารถบำรุงและรักษาสายตาให้สามารถมองเห็นได้ปกติยิ่งขึ้น
ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย
มะม่วงมีเอนไซม์ที่มีคุณสมบัติช่วยในการย่อยสลายโปรตีนทำให้ดูดซึมดีขึ้น และอุดมไปด้วยกากใยอาหารเป็นจำนวนมาก จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ทำงานดี พร้อมกับทำให้การขับถ่ายทำงานได้อย่างปกติ
ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
งานวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในมะม่วง สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยสารเหล่านั้นได้แก่ เควอซิทิน ไอโซเควอซิติน แอสตรากาลิน ไฟเซติน กรดแกลลิกและเมทิลแกทเลท
1
ช่วยทำให้หลับสบาย
มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีส่วนช่วยบำรุงร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ โดยจะทำให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น
4
ควบคุมความดันโลหิต
ในมะม่วงมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ที่มีส่วนสำคัญต่อระบบไหลเวียนโลหิต โดยจะช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้สมดุล นอกจากนี้ยังมีวิตามินอี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
2
ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
มะม่วงมีวิตามินเอ วิตามินอีและซีลีเนียมที่มีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ ยังมีวิตามินบี 6 ที่จะช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ โดยช่วยลดระดับของโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ผนังหลอดเลือด อันเป็นที่มาของโรคหัวใจนั่นเอง
1
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
ในมะม่วงอุดมไปด้วยเพคตินและวิตามินซีที่จะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เป็นโรคไขมันในเลือดสูง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
2
บำรุงสมอง
วิตามินบี 6 มีส่วนป้องกันและเสริมสร้างการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของสารสื่อประสาทที่มีส่วนช่วยกำหนดอารมณ์และรูปแบบของการนอนหลับ นอกจากนั้นยังมีกลูตามีน (Glutamine) ซึ่งเป็นสารที่มีส่วนช่วยให้สมองเกิดการจดจำที่ดีขึ้น ที่สำคัญยังทำให้เซลล์สมองเกิดความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
3
ป้องกันโรคโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์
คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะมีอาการแพ้ท้อง ซึ่งบรรเทาได้โดยการรับประทานมะม่วงเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็กซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญต่อคนท้อง จึงสามารถแก้ภาวะโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์ได้
1
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
มะม่วงอุดมไปด้วยวิตามินซี และวิตามินเอ รวมถึงยังมีสารแคโรทีนอยด์อีก 25 ชนิด จึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ทำให้ร่างกายสามารถต่อกรกับสารพิษและแบคทีเรียชนิดต่างๆ ได้ดี ทำให้ร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น โอกาสในการเจ็บป่วยก็มีน้อยลง
แนวทางการใช้เพื่อสุขภาพ
นอกจากผลของมะม่วงที่นำมารับประทานหรือทำเป็นเมนูต่างๆ ได้แล้ว ส่วนอื่นๆ ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ด้วย ดังนี้
ข้อควรระวังการใช้หรือบริโภค
ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ร่างกายกำลังฟื้นตัวจากอาการไข้ ไม่ควรเลือกรับประทานมะม่วงสุก เพราะอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรืออาจทำให้อาการไข้กำเริบขึ้น
หากเป็นโรคไต ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะม่วง เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมในปริมาณสูง อาจทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมสูงเกินกว่าปกติได้
ก่อนรับประทานทุกครั้ง ควรล้างให้สะอาดทั้งก่อนและหลังปอกเปลือก เพราะยางของมะม่วงอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อปาก ตา และผิวหนังได้
3
มะม่วง นอกจากมีรสชาติอร่อยถูกปากแล้ว ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย แต่สิ่งสำคัญคือต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ที่สำคัญถ้ามีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไต ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
โฆษณา