20 เม.ย. 2020 เวลา 07:10 • สุขภาพ
เมื่อกี้ไปเจอข้อเสนอของ ส.ส. มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์ เขาเพิ่งเสนอมาตรการเยียวยาและมาตรการดูแลประชาชนช่วงไวรัส COVID-19 ระบาด หลังจากที่เพิ่งอาสาตัดเงินเดือนตัวเองให้ทางภาครัฐนำเข้ากองทุนไปเป็นงบช่วยเหลือประชาชน (3 ปี 4,000,000 บาท)
โดยมงคลกิตติ์เนี่ยเขาบอกว่าเห็นด้วยกับแนวทางและข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทยที่ประกาศจะให้คนระดับบริหารลดเงินเดือนลงเพื่อที่จะได้นำเงินเหล่านั้นไปใช้เป็นการส่วนรวมเพื่อสู้ภัย COVID-19 แต่เขาคิดว่ามาตรการนี้ยังไม่เพียงพอที่จะใช้ช่วยประชาชน
แต่ต้องมีการขยายขอบเขตให้กว้างขวางขึ้นอีก 2-3 อย่าง คือ ต้องหักเงินเดือนข้าราชการส่วนอื่นๆเพิ่มด้วย (กลุ่มที่ไม่ใช่ระดับบริหาร) เพื่อนำเงินมาซื้อพันธบัตรของรัฐบาล (ข้าราชการคนไหนโดนแจ็คพ็อตให้หักเงินเดือน แต่ยังมีหนี้สินต้องผ่อนชำระ เช่น บ้าน รถ ก็ให้รอรัฐบาลเจรจาให้มีการพักชำระหนี้เป็นระยะเวลา 6 เดือนเอา)
รัฐบาลเองก็ต้องออกพันธบัตรรัฐบาลให้ประชาชนเอาเงินตัวเองออกมาซื้อพันธบัตรเพิ่มด้วย และท้ายสุดคือ รัฐบาลต้องนำเงินที่ได้จากการตรวจสอบการทุจริตมาอุดหนุนซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มอีกทางหนึ่ง เพื่อที่รัฐบาลจะสามารถรวบรวมเงินงบประมาณได้มากเพียงพอที่จะใช้รับมือกับไวรัส COVID-19
และฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาวะปิดเช่นนี้ (โดยทางมงคลกิตติ์บอกว่าอยากให้รัฐบาลนำข้อเสนอนี้ไปพิจารณาในการปฏิบัติควบคู่ไปกับการขอรับเงินบริจาคจากมหาเศรษฐี/เจ้าสัว 20 ตระกูลใหญ่ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ต้องดำเนินการควบคู่กันไป)
โดยส่วนตัวผมคิดว่าวิธีนี้ค่อนข้างแก้ปัญหาไม่ถูกจุดเท่าไรนัก การตัดเงินเดือนของข้าราชการตัวเล็กตัวน้อยนั้นเป็นสิ่งที่จะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง เพราะข้าราชการส่วนใหญ่นั้นเงินเดือนก็น้อยอยู่แล้ว หากไปตัดอีก หลายคนทำงานมากันเป็น 10 ปี เงินเดือนยังขึ้นไม่เกิน 25,000 บาทเลย
หากยิ่งไปตัดเงินของข้าราชการระดับปฏิบัติการลงไป น่าจะมีปัญหาระยะยาวเป็นทอดๆและก็ไม่มีอะไรมาการันตีด้วยว่ามาตรการพักชำระหนี้ที่ออกมานั้นจะไม่ได้มีเงื่อนไขผูกมัดข้ออื่นๆ เช่น มีดอกเบี้ยรายเดือน หรือมีเงื่อนไขแยกย่อยเป็นดอกจันทร์เล็กๆแทรกมาท้ายเอกสารหรือไม่
ข้อเสนอของมงคลกิตติ์ในวันนี้ผมเลยคิดว่ามีความเป็นไปได้ที่น้อยมาก และคิดว่าคงไม่มีใครเล่นด้วย หากเกิดขึ้นจริงคงจะวุ่นวายและเกิดการประท้วงยิ่งใหญ่แน่ ขนาดแค่เรื่องข้าราชการครูเขายังประท้วง ก่อม็อบเรียกร้องกันใหญ่โต อันนี้จะไปหาเรื่องให้ข้าราชการจำนวนมากเดือดร้อน รัฐบาลต่อให้เป็นพลเอกประยุทธ์ก็ไม่น่ากล้าทำ
โฆษณา