ในหนังสือ Industries of the Future (ชื่อฉบับแปลไทยว่า รู้ทันอนาคตที่อาจจะไม่มีคุณ) ได้ทำนายว่าหุ่นยนต์จะเป็นหนึ่งในห้าธุรกิจแห่งอนาคต (อีกสี่อย่าง ได้แก่ จีโนมิกส์ เทคโนโลยีทางการเงิน ไซเบอร์ซิเคียวริตี้ และบิ๊กดาต้า) ซึ่งบริษัทชั้นนำของโลกอย่าง Google ก็ได้แถลงตั้งแต่ปี 2017 แล้วว่ากลยุทธ์ของเขาจะเปลี่ยนจาก Mobile First to AI First หรือ อีลอน มัสก์ เขาก็มีโครงการ Neuralink ที่จะเชื่อมสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์และ AI ซึ่งขณะนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงขอ อย. ที่อเมริกาอยู่
2. คือขั้นตอนการส่งสัญญาณจากสมองไปยังกล้ามเนื้อ กรณีคนที่มีสุขภาพเป็นปกติ กล้ามเนื้อแต่ละมัดจะสามารถสนองสัญญาณจากสมองได้อย่างแข็งแรงและรวดเร็วตามที่ใจเราคิด ซึ่งการเดินนั้นจัดเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนระดับหนึ่ง เพราะสมองต้องควบคุมกล้ามเนื้อหลากหลายมัด ซึ่ง HAL สามารถตอบสนองสัญญาณจากสมองได้เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อ
Source: https://www.cyberdyne.jp/
3. ขั้นตอนนี้ HAL จะทำการอ่านสัญญาณจากสมอง โดยสัญญาณจากสมองจะถูกส่งไปยังกล้ามเนื้อโดยการแพร่ผ่านไปยังผิวหนัง (Skin Surface) ซึ่งเรียกว่า Bio-electric signals [BES] ซึ่ง HAL นั้นสามารถอ่านสัญญาณ BES อันนี้ได้ โดยเพียงการแนบตัวจับสัญญาณไปบนผิวของร่างกาย แม้ในขณะที่เรายังสวมเสื้อผ้าอยู่ก็ยังสามารถจับสัญญาณ BES ได้ โดย HAL สามารถจับสัญญาณข้อมูลอันหลากหลายจากสมองว่าการเคลื่อนไหวอันไหนคือสิ่งที่สมองตั้งใจไว้
Source: https://www.cyberdyne.jp/
4. ขั้นตอนนี้ HAL จะเคลื่อนไหวตัวเองได้ตามคำสั่งของสมอง ซึ่งขั้นตอนนี้เองที่ HAL จะช่วยให้ผู้ที่สวมใส่สามารถเคลื่อนไหวตัวเองได้ดั่งใจ และยังสามารถทำให้ผู้สวมใส่สามารถออกแรงได้มากกว่าตอนก่อนสวมใส่ HAL ได้
Source: https://www.cyberdyne.jp/
5. ขั้นตอนสุดท้ายของกลไกนี้ไม่ใช่จบแค่การเคลื่อนไหวร่างกายได้เพียงเท่านั้น แต่สมองจะยืนยันว่าสัญญาณที่ส่งไปนั้นสามารถทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้จริง ถ้าผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลือเรื่องการเดินจาก HAL อย่างเหมาะสมในช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ความรู้สึกที่ว่า "ฉันสามารถเดินได้แล้ว" จะถูกส่งกลับไปที่สมอง นั่นคือสมองจะเรียนรู้แนวทางที่จะปล่อยสัญญาณที่เหมาะสมสำหรับการเดินได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินได้เองโดยไม่จำเป็นต้องให้ HAL เข้ามาช่วยเหลืออีกต่อไป และทั้งหมดนี้คือ HAL หุ่นยนต์ที่มอบทางออกให้ผู้ป่วยที่เดินไม่ได้ให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง
Source: https://www.cyberdyne.jp/
ตอนนี้ครอบครัวของ HAL มีด้วยกันอยู่ 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่
1. HAL Lower Limb Type ช่วยในการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพาตส่วนล่างตั้งแต่เอวลงไปถึงเท้า
2. HAL Single Joint Type ช่วยคนไข้ที่ไม่สามารถยืดหรือหดข้อได้ไม่ว่าจะเป็นข้อแขน มือ เข่า หรือเท้า
3. HAL Lumbar Type ช่วยคนไข้ที่ไม่สามารถยกตัวขึ้นได้หรือสูญเสียความสามารถในการนั่ง
Source: https://www.cyberdyne.jp/
Use Case ของ HAL นอกจากนำมาใช้ด้านการแพทย์แล้ว HAL ยังถูกนำไปใช้ในงานอื่นๆ เช่น ในโรงงานและงานก่อสร้างที่คนงานต้องยกของหนักด้วยเช่นกัน
Source: https://www.cyberdyne.jp/
HAL นั้นถูกคิดค้นโดย ดร.โยชิยูกิ ซานไค (Yoshiyuki Sankai) โดยเขาได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายวิทยาศาสตร์เรื่อง "I, Robot"ที่เขียนโดยนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ไอแซค อาซิมอฟ (Isaac Asimov) เขาได้สร้างต้นแบบ HAL ในปี 1988 ที่ University of Tsukuba