23 เม.ย. 2020 เวลา 14:54 • ธุรกิจ
สรุปหุ้นโรงไฟฟ้าน่าสนใจ
ราคาหุ้นขึ้นแรง แพงไปหรือยัง ?
หากเพื่อนๆท่านใดได้สังเกตุสภาพตลาดหุ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้นั้น เชื่อว่าทุกคนน่าจะได้เห็นว่าหุ้นในกลุ่ม "โรงไฟฟ้า" นั้นมีการปรับตัวขึ้นมากันทั้งกลุ่ม
เรียกได้ว่าราคาบวกเขียวแบกดัชนี SET กันขึ้นมาเลยก็ว่าได้สำหรับหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าของบ้านเราในช่วงนี้
แต่ทำไมอยู่ๆราคาหุ้นมันบวกขึ้นมาได้ทั้งกลุ่ม ? แล้วหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าจะไปต่อได้ไหม ?? ตรงนี้ก็อาจจะเป็นคำถามสำหรับใครหลายคนที่ยังคงค้างคาใจอยู่
เดี๋ยววันนี้เรามาลองวิเคราะห์ไปพร้อมๆกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหุ้นในกลุ่มนี้ โดยเราจะมีหุ้นที่มีความแข็งแกร่งและมีราคาบวกแรงกันมาพูดถึงกันอีก 3 ตัว รวมไปถึงการมองแนวโน้มของหุ้นโรงไฟฟ้าในอนาคตด้วย
ถ้าพร้อมแล้วเราก็ไปลุยกันเลย...
ก่อนหน้านี้ "หุ้นโรงไฟฟ้า" นั้นถือว่าเป็น Sector หรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการซื้อขายหุ้นกันในระดับ P/E ที่ค่อนข้างสูงมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่แล้วที่เล่นกันแพงถึง 60-70 เท่า ก่อนที่จะดิ่งลงมาจากการทะยอยขายทำกำไรพร้อมๆกันกับสถานะการณ์ของตลาดในบ้านเราเมื่อได้รับแรงกระแทกของ Covid-19 ในรอบนี้
แต่ถ้าหากมองไปในตอนนี้ ราคาหุ้นของกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง ฺBGRIM, GULF และ GPSC ก็ถือว่าได้ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมากแล้วเพราะก่อนหน้านี้ปัจจัยกดดันต่างๆก็เข้ามารุมเร้ามากซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นที่แพงจนถึงจุดขายทำกำไร, ภัยแล้ง, ปัญหารายได้จากนิคมอุตสาหกรรมและนโยบายของภาครัฐในช่วงโควิด
เพราะปัจจัยลบนั้นเริ่มจะมองเห็นทางออก ประกอบกับราคาหุ้นที่ทิ้งกันลงมาแรง แต่ด้วยปัจจัยพื้นฐานและลักษณะธุรกิจที่เรียกได้ว่ายากต่อการเข้าแข่งขันก็ทำให้หุ้นกลุ่มนี้ยังถูกจัดเป็น Defensive Stock หรือหุ้นที่ใช้เป็นหลุมหลบภัยได้ดีอยู่เช่นเคย ทำให้ตั้งแต่เมื่อวานหุ้นในกลุ่ม "โรงไฟฟ้า" เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาและเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของหุ้นในกลุ่มนี้
เดี๋ยวเราลองไปดูหุ้นที่น่าสนใจจากกลุ่มนี้กันบ้างดีกว่า
1
1. BGRIM (บมจ. บี.กริม เพาเวอร์)
มาเริ่มกันที่หุ้นโรงไฟฟ้าที่ถือว่าเป็นผู้ทำธุรกิจโรงไฟฟ้ามาตั้งแต่ยุคบุกเบิกของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะชื่อนี้นั้นได้มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2421 หรือราว 142 ปีมาแล้วและในที่สุด BGRIM ก็ได้ถูกก่อตั้งในปีพ.ศ. 2536
ปัจจุบัน BGRIM ทำธุรกิจในลักษณะการเป็น Holding Company หรือการลงทุนในบริษัทอื่นซึ่งหลักๆแล้วก็จะเป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศนั่นเอง
💰ข้อมูลทางการเงินล่าสุดของ BGRIM
- รายได้และกำไรในปี 62 มีการเติบโตขึ้นมาที่ 20% และ 25%
- P/E จากปลายปี 62 ที่ 66.70 เท่าตอนนี้ลดลงมาอยู่ที่ 51.44 เท่า
- Market Cap 119,917 ล้านบาท
.
2. GULF (บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์)
หุ้นโรงไฟฟ้าที่เรียกได้ว่าเป็นดาวรุ่งที่มาแรงที่สุดในกลุ่มเลยสำหรับ GULF เชื่อไหมว่าบริษัทของพวกเขาเพิ่งจะถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อตอนพ.ศ. 2554 ซึ้งจะหมายความว่าบริษัทนั้นมีอายุได้เพียง 9 ปีเท่านั้นแต่ในปัจจุบัน GULF ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจโรงไฟฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทยเลยทีเดียว
โมเดลธุรกิจของ GULF ก็จะเหมือนกันคือการเป็น Holding Company ที่จะไปลงทุนในบริษัทย่อยที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า,ไอน้ำ,น้ำเย็น รวมไปถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดดของ GULF นั้นก็ได้ทำให้คุณ "สารัชถ์ รัตนาวะดี" ได้ก้าวขึ้นมาติดทำเนียบ 1 ใน 5 ของมหาเศรษฐีไทยได้อย่างรวดเร็ว
💰ข้อมูลทางการเงินล่าสุดของ GULF
- รายได้และกำไรในปี 62 มีการเติบโตขึ้นมาถึง 70% และ 61%
- P/E จากปลายปี 62 ที่ 78.09 เท่าตอนนี้เพิ่มมาอยู่ที่ราวๆ 85.13 เท่า
- Market Cap 415,993 ล้านบาท (ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม)
.
3. GPSC (บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่)
หุ้นตัวสุดท้ายนี้มีดีกรีเป็นถึง "เรือธง" หลักในการทำธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีความแข็งแกร่ง โดย GPSC ก็ได้ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปีพ.ศ. 2556 จากการควบรวมระหว่าง 2 PTTUT (บจ.พีทีที ยูทิลิตี้) และ IPT (บจ.ผลิตไฟฟ้าอิสระ)
2
ปัจจุบัน GPSC มีสัดส่วนกำไรมาจา่กโรงไฟฟ้ำขนำดเล็ก หรือ SPP มากที่สุดในอัตราส่วน 74% รองลงมา 24% จากโรงไฟฟ้ำประเภทผู้ผลติไฟฟ้ำอิสระ หรือ IPP และที่เหลืออีก 2% มาจากโรงไฟฟ้ำขนำดเล็กมำกและอื่นๆ หรือ VSPP นั่นเอง
1
💰ข้อมูลทางการเงินล่าสุดของ GPSC
- รายได้รวมในปี 62 เติบโตขึ้นมาถึง 165% และกำไรสุทธิอีก 20%
- P/E จากปลายปี 62 ที่ 71.07 เท่าตอนนี้ลดลงมาเหลืออยู่ที่ราวๆ 49 เท่า
- Market Cap 202,315 ล้านบาท
.
เรียกได้ว่ามีงบการเงินที่เติบโตกันมาแบบสดใสกันทั้งกลุ่มเลยก็ว่าได้สำหรับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ากับปี 2562 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าในช่วง Covid-19 จะทำให้พวกเขารายได้ลดลงไปบ้างจากยอดขายกระแสไฟฟ้าที่น้อยลงและมาตรการของรัฐที่จะทำการลดค่าไฟเพื่อเยียวยาประชาชนในช่วงนี้
แต่ถึงอย่างไรแล้ว "ไฟฟ้า" ก็น่าจะเป็นพลังงานที่วนเวียนและจำเป็นกับชีวิตประจำวันของมนุษย์เราไปอีกนาน อีกทั้งเทรนด์ดอกเบี้ยที่เป็นขาลงมาตลอดก็จะคงยังเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้หุ้น Defensive นั้นมีความน่าสนใจอยู่เสมอ
และราคาหุ้นในตอนนี้ก็เรียกได้ว่าไม่ถึงกับถูก แต่จะบอกว่าแพงก็คงยากถ้าหากดูระดับ P/E ที่นักลงทุนได้เคยเล่นกันไว้ในอดีตและพื้นฐานของธุรกิจที่ดูแข็งแกร่งกันทั้งกลุ่ม ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้นั้นก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นโรงไฟฟ้านั้นมีความคีกคักกันขึ้นมาในช่วงนี้
แล้วคุณล่ะ !? มีความคิดเห็นยังไงกับหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า
สำหรับในวันนี้พวกเราก็คงจะต้องขอตัวลากันไปและฝากตำถามไว้ให้ทุกคนกันหนึ่งคำถามว่า
ราคาหุ้นของกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ขึ้นมาแรงในตอนนี้ แพงไปหรือยังสำหรับคุณ ???
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
โฆษณา