Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
THE FREE SPIRIT'S STORIES
•
ติดตาม
27 เม.ย. 2020 เวลา 12:16 • ไลฟ์สไตล์
จอร์เจียไม่จอแจ ( 4) : ไปเที่ยวในที่ๆใครๆไปก็กัน
หลังจากอยู่ในเมืองหลวงกันมา 2 วัน ในวันที่ 3 แดดดี เราออกไปเที่ยวเมืองอื่นกันศึกษาข้อมูลกันแล้วว่าจุดไหนที่เราไม่ควรจะพลาดบ้างหากมาที่จอร์เจีย ว่าแล้วก็ว่าจ้างรถจากทางเจ้าของอพารต์เมนต์ ซึ่งก็ได้ส่งคนขับรถคนเดิมที่ไปรับเรามาจากสนามบินแต่นอนนั้นเช้าตรู่ยังไม่มีเวลาทำความรู้จักกัน คนนี้ก็คือ จอร์จหรือ จอร์จี้ ที่เล่าไปในตอนก่อนหน้านั่นเอง
ในวันแรกของการออกนอกทบิลิซี เราไปเที่ยวใน 3 จุดสำคัญและเห็นเรื่องราว 3 ยุคสมัยคือ
ยุคที่เป็น pegan ( ลัทธิก่อนที่ศาสนา )-ชมนครถ้ำที่เป็นเทวสถานและเมืองโบราณ ที่เรียกว่า Uplitsikh ที่ว่ากันว่าทีอายุมาเกือบ 3000 ปีแล้ว และนักโบราณคดีเชื่อว่านี่คือชุมชนเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในจอร์เจีย
ยุคคริสตศาสนา
เมือง Mtskheto ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงเก่าของจอร์เจีย ซึ่งปัจจุบันเป็นเมืองมรดกโลกโดยยูเนสโกที่นี่มีโบสถ์ประจำเมืองที่สวยงามและ มองไปจากโบสถ์แห่งนี้ก็เห็นโบสถ์วิหารอยู่บนเขสสูงลิบๆ ชื่อว่ามหาวิหาร Jravi (cross ) ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่ศาสนาคริสต์ได้เข้ามาปักไม้กางเขนอยู่บนสถานที่แห่งนี้และเผยแผ่ศาสนาคริสต์และทำให้ชาวจอร์เจียค่อยรับศริสตศาสนานับตั้งเมื่อคริสตศตวรรษที่ 6 ที่นี่บางครั้งก็ถูกเรียกว่าโบสถ์แห่งไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์ บอกตามตรงว่าจริงที่มาตรงนี้ เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาดูโบสถ์นี้หรอก เพราะผ่านตรงนั้นตรงนี้มาก็มีแต่โบสถ์มากมาย แต่ที่ขึ้นาตรงถึงจุดนี้เพราะตั้งใจที่จะมาดู แม่น้ำ 2 สี จะดนี้เแลป็นที่แม่น้ำ 2 สายมาบรรจบกันมองเห็นสีที่ต่างกันอย่างชัด จะว่าไปไทยก็มีแม่น้ำสองสีที่โขงเจียม จ .อุบลราชธานี แต่แม่น้ำไม่ได้มาบรรจบกันแบบเป็นจุดตัดแบบนี้ รวมทั้งสีของแม่น้ำทั้งสองก็ไม่ค่อยต่างกันมากเท่าไรจึงเห็นไม่ค่อยชัดนัก
ยุคสมัยคอมมิวนิสต์
ตอนที่ลงมาจาก Uplitsikh เรามาแวะที่เมือง Gori ซึ่งอยู่ห่างจากที่นั่นประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อจะกินอาหารกลางวัน ที่นี่เป็นบ้านเกิกของโจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำของโซเวียตรัสเซีย ตรงนี้มีจุดท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ระบุไว้ใน ไกด์บุ้คคือ Stalin' s house ทางรัฐบาลรัฐบาลโซเวียตได้สร้างตรงนี้เป็นพิพิธภัณฑ์อุทิศแต่สตาลิน ด้านหน้าตัวบ้านเดิมซึ่งเป็นบ้านเกิดของสตาลินข้างในมิวเซียมมีภาพเรื่องราวและของสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับสตาลิน ส่วนตัวบ้านเดิมตอนนี้ได้สร้างโครงสร้างปูนครอบเอาไว้ เอาจริงๆส่วนตัวก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับสตาลินเท่าไรนะเพราะเคยอ่านประวัติแล้วเขาสุดจะโหด แต่ก็ยอมจ่ายตังต์เข้าไปชม เพราะไหนๆก็มาทั้งทีก็เรียนรู้กันสักเล็กน้อยว่า เขาเก็บอะไรไว้ให้คนรุ่นหลังได้จดจำบ้าง และ
เพิ่มเติมคือ ด้านของมิวเซียมหน้ามีแผงขายของที่ระลึก เห็นพวกเราเดินกันอยู่ก็มาเรียกร้องให้ซื้อของบอกว่ามีเมาเซตุง ( เหมาเจ๋อตง) ด้วยนะ คงคิดว่าพวกจะคนจีนแหละ
ปิดท้าย ทางผ่านที่ไม่ไกลจากตัวเมืองหลวงนัก จอร์จี้คนขับรถ บอกว่ามีเวลาควรแวะเข้ามาดูตรงนี้กันหน่อย เห็นรูปร่าง เหมือนเสาหินใหญ่มองไกลๆเราก็เรียกกันเล่นๆว่านี่มัน Stone Henge แห่งจอร์เจียร์ หรือไร แต่ชื่อจริงของมันคือ อนุสาวรีย์ the chronicle of Georgia ( จดหมายเหตุจอร์เจีย) เป็นแท่งหินสีดำแกะสลักขนาดใหญ่ยักษ์ บนแท่นหินแกะสลักเป็นรูปต่างๆที่เล่าเรื่องราวของประเทศจอร์เจียในอดีต ประกอบไปด้วยแท่งเสา 16 แท่ง แต่ละแท่งสูง 35 เมตร เสาแต่ละต้นจะแบ่งบอกเล่าเรื่องราวออกเป็น 3 ส่วน ส่วนล่างสุดเกี่ยวกับพระคัมภีร์ ส่วนกลาง คือเรื่องของชนชั้นสูงในจอร์เจีย และส่วนบนจะเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของประเทศ ตรงนี้มีทิวทัศน์เป็นทะเลสาปที่สวยงามก็นับว่ารื่นรมย์อยู่ไม้น้อย ส่วนอีกด้านก็เป็นอพาร์ตเมนต์ที่คนทั่วๆไปพักอาศันกันอยู่ก็ดูแน่นๆอยู่ไม่น้อย
ดูเหมือนว่าหลังจากไปชมสถานที่ต่างๆของทั้ง 3 ยุคก็มาสรุปจบที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ
วันต่อมา (25 เมษายน ) เราได้เดินทางกันออกไป เดินทางออกนอกเมืองไปไกล ประมาณ 4 ชั่วโมงเพื่อจะไปยังเมือง Kazbeki หรือ Stepantsminda ระหว่างทางที่
ได้แวะไปคือ Ananuri จุดที่ไปเยือนคือโบสถ์อัสสัมชันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 แต่จริงๆจุดขายของของที่นี่คือป่าด้านหลังและอ่างเก็บน้ำ Zhinvali ที่เห็นด้านหลัง
เห็นภูเขาสูงที่รถเลียบไปว่านี่คือ เทือกเขาคอเคซัส ก็มีความตื่นเต้นแล้ว ที่ตื่นเต้นเพราะชื่อนี้เคยได้ยินมาตั้งแต่เรียนภูมิศาสตร์ตอนที่ยังเป็นเด็กน้อย ใช้เวลาเกือบชั่วชีวิตกว่าจะเห็นของจริง แต่ที่ตื่นเต้นกว่าการที่รถได้แล่นผ่าภูเขาที่มีหิมะล้อมหน้าล้อมหลัง และครั้นถึงเมือง Stepantsminda มีหิมะตกลงมาปรอยปรายมาต้อนรับ
ดีใจว่ามีหิมะตกลงมา แต่ทว่าตามที่เล่าไว้ไว้ในตอนแรกว่าเราก๋เตนียมเสื่อผ้าสำหรับ 10-16 องศาไป แต่นะจุดนั้นลบ 2 แต่เราก็จากรถไปชมวิว แถวๆนั้นจะใกล้สกีรีสอร์ต ลงไปเหยียบย่ำหิมะและถ่ายรูปกันเล็กน้อแค่ 10 นาทีก็ขึ้นรถไป ตอนแรกมีแผนว่าจะขึ้นไปยอดเขาที่มีโบสถ์สำคัญอีกแห่งหนึ่งแต่เมื่ออากาศประมาณนี้ก็จัดการบอกจอร์จ" ไปกินข้าวกลางวันเถอะ" และแล้วก็ไปกินอาหารกันอย่างสำราญใจ ขากับสเจอทิวทัศน์อันสวยงามขับรถอยู่กลางเทือกเขาคอเคซัสที่มีหิมะชาวโพลนทั้ง 2 ข้าง บางช่วงมีที่น้ำแข็งละลายแล้วไหลลงมาเป็นน้ำตก และที่นี่เราได้ใช้ห้องน้ำสาธารณะที่วิวสวยที่สุด
แค่วิวเหล่านี้ก็ถือว่าคุ้มค่าเดินทางแล้ว
เที่ยวไม่เยอะเนันดื่มกินและฟินมาก
เชิญชมคลิปเส้นทางกัน
https://youtu.be/hrWe8PCOoU4
ตอนต่อไปจะว่าด้วยเรื่องดื่มกินกันล้วนล้วนโปรดติดตามด้วยใจระทึกโดยพลัน //
SMK The Free Spirit
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ไปมาแล้วเอามาเล่า
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย