28 เม.ย. 2020 เวลา 03:46 • ประวัติศาสตร์
รอยร้าวแดนกระทิง! 10 เรื่องที่อาจไม่เคยรู้ของ 'ฟรานซิสโก ฟรังโก' จอมเผด็จการแห่งสเปน
หากพูดถึงชื่อของนายพล ฟรานซิสโก ฟรังโก เขาคือผู้ชนะในสงครามกลางเมืองของสเปน และนำพาประเทศเข้าสู่ระบอบเผด็จการ แม้เขาจะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่บาดแผลที่หยั่งรากลึกในสเปนที่เกิดจากน้ำมือของนายพลฟรังโกยังอยู่ต่อไป และนี่คือข้อเท็จจริงที่ใครหลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับจอมเผด็จการแห่งสเปนคนนี้
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
1
WIKIPEDIA CC BIBLIOTECA VIRTUAL DE DEFENSA
1. ฟรานซิสโก ฟรังโก เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1892 เขาเติบโตมาในครอบครัวทหารเรือ โดยบรรพบุรุษของเขาเป็นทหารเรือมาแล้วถึง 6 ชั่วอายุคน ในตอนแรกฟรังโกตั้งใจจะเดินรอยตามพ่อและบรรพบุรุษ ก่อนที่สเปนจะเกิดสงครามกลางเมือง เลยทำให้ฟรังโกตัดสินใจเข้าโรงเรียนเตรียมทหารบกแทน
2. มีรายงานว่านายพลฟรังโกมีลูกอัณฑะข้างเดียว เช่นเดียวกับอดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ที่เป็นพันธมิตรของเขา เคยมีหนังสือที่ตีพิมพ์ออกมาในปี 2009 ได้ระบุว่านายพลฟรังโกได้สูญเสียลูกอัณฑะไปข้างหนึ่งในสนามรบช่วงสงครามกลางเมือง โดยหลานสาวของนายพลฟรังโกได้ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และเขาก็กลัวว่าตนเองจะไม่สามารถมีลูกได้
1
3. ในช่วงปลายปี 1940 นายพลฟรังโกและฮิตเลอร์ได้นัดพบกันทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ที่สเปนจะเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งคู่ใช้เวลาถึงเจ็ดชั่วโมงในการพูดคุยเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ทว่าการเจรจาล้มเหลว เมื่อฮิตเลอร์มองว่านายพลฟรังโกเรียกร้องมากเกินไป เพราะสเปนในตอนนั้นเองก็บอบช้ำอย่างหนักจากสงครามกลางเมือง
4. ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นายพลฟรังโกได้กำหนดเวลามาตรฐานของประเทศช้ากว่าปกติหนึ่งชั่วโมง เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับฝ่ายนาซีเยอรมัน และไม่เคยปรับเปลี่ยนเวลากลับไปเหมือนเดิมอีกเลย ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ประเทศสเปนมีปัญหาเส้นเขตเวลา หากดูตามสภาพภูมิศาสตร์ สเปนตั้งอยู่ในเส้นลองจิจูด 0 องศาเช่นเดียวกับกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และกรุงลิสบอนของโปรตุเกส แต่กลับใช้เวลาเขตยุโรปกลางเป็นเวลามาตรฐาน จึงทำให้สเปนมีช่วงเช้าที่ยังมืดครึ้ม และมีช่วงกลางคืนที่สว่างจ้ากว่าปกติ
2
5. นายพลฟรังโกต้องการปลูกฝังลัทธิชาตินิยมของเขาส่งต่อไปยังพลเมือง ด้วยการห้ามพลเมืองใช้ภาษาท้องถิ่นใดๆ นอกจากภาษาสเปนซึ่งเป็นภาษาราชการ จนทำให้ชาวบาสก์ ชาวคาตาลันโกรธแค้นเป็นอย่างมาก ยิ่งกว่านั้นยังห้ามตั้งชื่อทารกแรกเกิดเป็นภาษาท้องถิ่นอีกด้วย
WIKIPEDIA CC BIBLIOTECA VIRTUAL DE DEFENSA
6. นายพลฟรังโกต้องการนำเสนอวิสัยทัศน์ในลัทธิชาตินิยมสเปนของเขา ด้วยการชูการต่อสู้วัวกระทิงและดนตรีฟลาเมงโกสู่โลกภายนอก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและอัตลักษณ์ของสเปน จนกลายเป็นภาพจำถึงทุกวันนี้
7. ราวปี 1960 สเปนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากประเทศญี่ปุ่น ด้วยกฎหมายเกี่ยวกับอัตราภาษีขั้นต่ำ แรงงานราคาถูก และการห้ามหยุดงานประท้วง เลยทำให้เกิดเม็ดเงินไหลเข้ามาจากการลงทุนของต่างประเทศ จนทำให้หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ในเมืองบาเลนเซีย กลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกด้วย
8. นาลพลฟรังโกต้องการยิบรอลตาร์ แต่ดินแดนแห่งนี้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ โดยทางฝั่งสเปนได้อ้างสิทธิ์ในการครองดินแดนเล็ก ๆ มานาน แต่ถูกองค์การสหประชาติปฏิเสธ นายพลฟรังโกจึงตอบโต้ด้วยการปิดพรมแดนในปี 1969 และกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้งในปี 1985 หรือ 10ปี หลังจากนายพลฟรังโกเสียชีวิตไปแล้ว
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
9. จากข้อที่ 2 แม้นายพลฟรังโกจะมีลูกอัณฑะเพียงข้างเดียว แต่เขาก็มีลูกสาวหนึ่งคน ก็คือ คาร์เมน ฟรังโก้ ที่เสียชีวิตไปเมื่อช่วงปลายปี 2017 ในวัย 91 ปี และลูกเขยของนายพลฟรังโกก็คือ คริสโตบาล มาร์ติเนซ-บอร์ดูว์ ศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจสำเร็จเป็นผลสำเร็จครั้งแรกของสเปนในปี 1968 อีกด้วย
10. Valley of The Fallen คือสุสานที่ฝังศพของนายพลฟรังโกในกรุงมาดริดของสเปน อนุสรณ์สถานแห่งนี้ถูกสร้างมาเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน และเป็นสถานที่ฝังศพชาวสเปนที่เสียชีวิตในสงครามกลางเมืองเป็นจำนวนถึง 33,000 คน อีกด้วย โดยสุสานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยนักโทษทางการเมือง ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในยุคของนายพลฟรังโก
โฆษณา