29 เม.ย. 2020 เวลา 08:05 • ความคิดเห็น
"สวีเดน" กับการรับมือ Covid-19" ที่ไม่เหมือนใคร
ในสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 หลายประเทศวางมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
แต่มีประเทศหนึ่งที่คิดต่าง "สวีเดน"
ในบรรดาประเทศทั้งหมด สวีเดน มีความคิดที่แตกต่างออกไป ประเทศสวีเดนมีมาตรการที่ไม่เข้มงวดมากนัก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆทั่วโลก
การต่อสู้กับ Covid-19 ที่นี่ ไม่ใช่การปิดล้อม แต่ขึ้นอยู่กับคำแนะนำสำหรับการแยกชุมชนและการปฏิบัติที่สอดคล้องกับความรู้สึกแลัวิถีชีวิตของผู้คน
สวีเดนซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากกว่า 10.2 ล้านคน และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมายในการรับมือ Covid-19 ด้วยวิธีการใช้ "ภูมิคุ้มกันชุมชน" ในสตอกโฮล์มในเดือนพฤษภาคม
ซึ่งทางการแถลงว่าจะช่วยให้ผู้คนเอาชนะโควิด -19 ได้โดย "ไม่ต้องมีการปิดล้อม" อย่างเข้มงวด เหมือนที่เกิดขึ้นในประเทศยุโรปอื่น ๆ
อะไรคือ ภูมิคุ้มกันชุมชน
คำว่าภูมิคุ้มกันชุมชน เป็นคำที่ใช้เรียกคนที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคติดเชื้อ อาจจะโดยฟื้นตัวจากโรคหรือโดยการฉีดวัคซีน
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าเกณฑ์การสร้างภูมิคุ้มกันชุมชนเพื่อป้องกันและต่อสู้กับ Covid-19 คือ เมื่ออย่างน้อย 60% ของประชากรติดเชื้อไวรัส
ในขณะที่คนหลายพันล้านคนทั่วโลกอยู่ในบ้านหรือประสบข้อจำกัดในการเดินทางเพื่อป้องกัน Covid-19
สวีเดนแนะนำว่า...
แทนที่จะกำหนดมาตราการให้หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็น งดการทำกิจกรรม งดการทำงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
สวีเดนมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจประชากรของตัวเอง ที่มั่นใจว่า.. ด้วยความร่วมมือแบบรับผิดชอบของประชาชนสวีเดน ที่นี่จึงยังคงอนุญาตให้เปิดร้านค้า ร้านอาหารและโรงยิมได้
โดยลูกค้าที่ใช้บริการในสถานที่เหล่านี้จะต้องปฏิบัติตามมาตรการเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย รวมถึงการจำกัดจำนวนการเข้ารวมในพื้นที่สาธารณะที่ไม่ควรจะเกิน 50 คน
ชาวสวีเดนจำนวนมากให้การสนับสนุนและยึดมั่นในนโยบายของรัฐบาลแม้ว่ากลยุทธ์ "ภูมิคุ้มกันชุมชน" ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักวิทยาศาสตร์
ชายหาดแห่งกนึ่งในกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน 23 เมษายน 2020 📷 nytimes
ปัจจุบัน เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตจาก Covid-19 ต่อล้านคนของสวีเดน ต่ำกว่าประเทศสเปนและอิตาลี
...
แต่ก็ยังสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้านหลายเท่า
📝 ตามข้อมูลล่าสุด
สวีเดน
ผู้ติดเชื้อ 19,261 ราย
มีผู้เสียชีวิต 2,355 ราย
ตรงนี้ลองเทียบกับเพื่อนบ้านดูค่ะ
➡️ เดนมาร์ก
ผู้ติดเชื้อ 8,851 ราย
ผู้เสียชีวิต 434 ราย
➡️ นอร์เวย์
ผู้ติดเชื้อ 7,619 ราย
ผู้เสียชีวิต 206 ราย
➡️ ฟินแลนด์
มีผู้ติดเชื้อ 4,740 ราย
เสียชีวิต 199 ราย
📝 นี่คือ วิธีคิดของรัฐบาลสวีเดนค่ะ
เป้าหมายของสวีเดน
คือการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ Covid-19 โดยทำให้มั่นใจว่า
"ระบบการดูแลสุขภาพสามารถรับมือ
และสร้างผลกระทบทางธุรกิจและการจ้างงาน
ให้น้อยที่สุด"
รัฐมนตรีต่างประเทศของสวีเดนยืนยันว่า..
"สวีเดนพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบาย
ตามสถานการณ์
สวีเดนมีเป้าหมายเดียวกันกับรัฐบาลอื่น ๆ
รัฐบาลสวีเดนยินดีที่จะใช้มาตรการ
ที่มีผลผูกพันมากขึ้น
หากผู้คนไม่ปฏิบัติตามมาตรการในปัจจุบัน"
และแม้ว่าทางสวีเดนจะให้ความสำคัญต่อ
"ภูมิคุ้มกันชุมชน"
แต่มาตราการอื่นๆที่บังคับใช้ แม้โดยสภาพทั่วไปดูเหมือนผ่อนคลาย แต่มีความเข้มงวด
ตัวอย่างล่าสุด เจ้าหน้าที่ของกรุงสตอกโฮล์ม
ได้ปิดร้านอาหารหลายแห่ง เนื่องจากไม่เป็นไปตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม
ประชาชนชาวสวีเดน จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐจัดทำขึ้น ซึ่งไม่ใช่ภาคสมัครใจ แต่เป็นการบังคับแบบผ่อนคลาย
มาตราการที่ผ่อนคลายของสวีเดน เกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนรู้สึกที่อิสระที่จะกระทำ ที่จะใช้ชีวิต
เมื่อรัฐบาลเชื่อว่าคุณทำได้ คุณต้องให้เกียรติตัวเอง ด้วยการทำตัวให้เป็นผู้เชื่อถือได้
นี่เป็นการสร้างความไว้ใจซึ่งกันและกันระหว่างรัฐกับประชาชน เพื่อการผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดไปได้ โดยที่มีข้อกำหนดที่กระทบกระเทือนต่อการใช้ชีวิตน้อยที่สุด
การอาบแดดที่ สตอกโฮล์ม 22/04/2020 📷 Anders Wiklund
รัฐมนตรีต่างประเทศสวีเดน ได้ยืนยันหลักฐานความร่วมมือของสวีเดนว่า
ชาวสวีเดนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่นการแนะนำให้ผู้คนอยู่ในบ้าน
ทำให้การจองที่พักในแหล่งท่องเที่ยวในประเทศลดลง 96% ในช่วงเทศกาลอีสเตอร์
รวมถึงความชุกของ Covid-19 ในประเทศก็แสดงสัญญาณของการลดลง
📌 จะว่าไปแล้ว
ผู้นำทางแนวคิดเรื่องภูมิคุ้มกันชุมชน เพื่อต่อต้าน Covid-19 ของสวีเดนคือ
นักระบาดวิทยาชื่อดัง Anders Tegnell
ซึ่งเขาให้คำอธิบายว่า "วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะสร้าง "ภูมิคุ้มกันชุมชน" ให้เกิดขึ้นเท่านั้น
แต่ยังช่วยป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส
และรักษาความยืดหยุ่นของระบบสุขภาพได้
แน่นอนว่า แนวคิดนี้ได้รับการต่อต้านจากนักวิชาการทั่วโลกรุนแรงว่า..
การตัดสินใจแบบสวีเดนนั้นไม่เหมาะสม
และเรียกร้องให้รัฐบาลสวีเดนเปลี่ยนกลยุทธ์ที่มีอยู่อย่างเร่งด่วน เมื่อเห็นการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อและการเสียชีวิตในสวีเดน
Ann Linde รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวว่า
การเสียชีวิตที่ค่อนข้างสูงไม่ใช่
สิ่งที่สวีเดนต้องการ
เมื่อต้องใช้กลยุทธ์ปัจจุบัน
...
อย่างไรก็ตามเธอ...
ยอมรับว่ามีผู้เสียชีวิตสูงเป็นพิเศษใน
สถานพยาบาลซึ่งคิดเป็นกว่าครึ่งหนึ่งของ
การเสียชีวิตที่บันทึกไว้ในประเทศ
เนื่องจากความผิดพลาด
Ann Linde รัฐมนตรีต่างประเทศสวีเดน 📷 twitter
โดยเฉพาะการดูแลกลุ่มผู้เสียชีวิตในสวีเดน ที่ใหญ่เป็นกลุ่มคนสูงอายุในบ้านพักคนชรา ซึ่งทางสวีเดนได้สั่งห้ามการเยี่ยมญาติในบ้านพักคนชรา
แต่การระบาดยังคงมีในสถานที่เหล่านี้และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากสถานพยาบาลบางแห่งไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ
แม้จะไม่ปิดกั้นทั้งประเทศ แต่เศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกของสวีเดนก็ยังได้รับผลกระทบอย่างหนักจาก Covid-19
รัฐบาลได้ออกมาตรการบรรเทาทุกข์มูลค่า 100 พันล้านโครนาร์ หรือราว 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่การคาดการณ์จีดีพีในปีนี้ยังคงลดลงประมาณ 10% ด้านอัตราการว่างงานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวว่า
"มันเร็วเกินไปที่จะตัดสินกลยุทธ์นี้ว่า
เป็นสำเร็จหรือความล้มเหลวของรัฐบาลสวีเดนเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ
เพราะมันต้องใช้.."เวลา"
เธอทิ้งท้ายด้วยประโยคสุดท้าย
...
"เราพยายามทำทุกสิ่ง
ที่เราเชื่อว่าถูกต้อง
เพื่อ.."สวีเดน"
References
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา