30 เม.ย. 2020 เวลา 13:24 • สุขภาพ
ในวันที่โควิดระบาด พร้อมต้องพักฟื้นร่างกาย
cr:pizabay
หลังจากรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมายาวนานเพราะต้องผ่าตัดปอด เนื่องจากปอดรั่วและติดเชื้อ ก็ถึงเวลาต้องกลับมาพักฟื้นที่บ้าน กลับมาปุ๊บ ข่าวดีก็มาเยือน เริ่มมีผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศไทย ตอนนั้น ยังชิวๆ เพราะพึ่งออกจากโรงพยาบาลยังไม่ได้รับรู้ข่าวสารอะไร
พอเปิดเฟสบุ๊คเท่านั้นแหละ
โอ้มายก๊อด!!! นี่เราฝันไปรึเปล่า โรคบ้าอะไรจะติดง่ายขนาดนี้ แถมโจมตีไปยังปอดโดยตรง นี่มันมาเพื่อฆ่าเราชัดๆ ตอนนั้นยังรู้สึกว่า นี่เราฝันไปใช่มั๊ยๆ ฮ่าๆๆ
ยิ่งเสพข่าว ยิ่งเหมือนคนบ้า ณ ตอนนั้น กลัวมาก เพราะพึ่งออกจากโรงพยาบาล หลังจากนอนมาเกือบเดือน ตอนนั้นคิดอย่างเดียว ฉันไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้วกับความทรมานเรื่องปอด
พอปอดมีปัญหา มันลำบากมาก เข้าใจคนที่เป็นโควิดเลย ทรมานสุดๆ หายใจได้ไม่อิ่มยังกระจอก เจอแบบหายใจได้นิดเดียว คือ ต้องหายใจถี่มากๆ นึกถึงคนที่ใกล้ตายแล้วพยายามหายใจถี่ๆจนเฮือกสุดท้าย นั่นเลย เราเคยเป็นถึงขั้นนั้นแม้จะใส่อ๊อกซิเจนช่วยอยู่ก็ตาม เพราะปอดมันแย่เอามากๆ เหนื่อยมากแม้จะเปล่งเสียงพูดออกมายังทำไม่ได้เลย และหากต้องใส่ใส่ท่อช่วยหายใจมันก็ทรมานมากๆ นอนหลับอยู่ดีๆก็ต้องตกใจตื่นบ่อยมากเพราะหายใจไม่ทัน มันเหมือนเราหลับอยู่แล้วหายใจไม่ได้ร่างกายก็ตื่นมาเพื่อหายใจเฮือกใหญ่ เป็นแบบนั้นทั้งคืน
แค่นึกถึงแค่นี้ โอ้!! ไม่ได้การละ
เราจะไม่กลับไปเจอสภาพที่เลวร้ายแบบนั้นอีกเด็ดขาด!!!
ให้แม่หยุดไปขายน้ำพริกที่ตลาดสดทันที
เดชะบุญ ที่เรามีหน้ากาก N95 เพราะต้องใช้ตลอดอยู่แล้ว เลยไม่ต้องไปหาซื้อเหมือนคนอื่นๆ
ทีนี้จะไปไหนก็กลัวไปหมด ต้องเตรียมพร้อม ไม่จำเป็นก็ไม่มีใครออกบ้านเลย กินผักสวนครัววนไปจ้า ตอนนี้แหละ ผักที่ปลูกไว้ก่อเกิดประโยชน์ทันที ฮ่าๆๆๆๆ
ไม่ว่าจะเป็นชะอม ผักหวานป่า ผักเสี้ยว มะเขือเทศ พริก ผักบุ้ง ผักคะน้า มะนาว กินแบบนี้วนไป ปลอดภัยฮ่าๆๆ
ผักในสวนเราเอง อร่อย ปลอดสาร
และแล้ว... ก็ต้องหวาดกลัวกับการออกนอกบ้านอีกครั้ง เพราะเราต้องไปพบหมอหลังผ่าตัดเพื่อดูอาการของปอด
ตอนนั้น โรงพยาบาลออกมาตราการให้ส่งยาที่บ้าน และ ที่เชียงรายมีคนติดเชื้อแล้ว
ด้วยความกลัวโควิด นักวางแผนอย่างเราก็วางแผนอย่างดีจร้า จะเอ็กซเรย์ ที่ รพ เอกชนที่พะเยา เพราะคนน้อย ถ้าไปเอ็กซเรย์ที่เชียงรายไม่ไหวแน่ๆ จำภาพได้เลยคนเยอะมากๆกลัวโควิดด้วย ก็เลยวางแผนว่าเอ็กซเรย์เสร็จก็จะนำฟิล์มไปให้คุณหมอที่เชียงรายเลย อย่างน้อยก็ลดจุดเสี่ยงตรงแผนกเอ็กซเรย์ได้ เป็นไงไอเดียแสนเริดของเรา ฮ่าๆๆ
และแล้ว..... ความฮาก็มาเยือน
วันพุธที่ 25 มีนาคม 63
นั่งคุยกับแม่เรื่อง ไปรับเมล็ดพันธ์ุข้าวที่จองไว้เพื่อปลูก
แม่ : เราต้องไปเอาข้าววันไหน
เรา : จริงๆต้อง ที่ 25 แต่เราไปหาหมอ เลยต้องไปวันศุกร์แทนอ่ะแม่
แม่ : ก็วันนี้ไง วันที่ 25
เรา : วันนี้มันวันที่ 24
แม่ : วันนี้ วันที่ 25 พร้อมทำหน้าจริงจัง
เท่านั้นแหละ วงแตกจร้า เพราะ ตอนนั้น เก้าโมงครึ่ง ต้องออกเดินทางจากพะเยาไปเชียงราย หมอนัด บ่ายโมง แต่ต้องไปเอ็กซเรย์ก่อนพบหมอ ไหนจะติดเที่ยงอีก ซวยละ นึกภาพเหมือนในหนังค่ะ ตัวใครตัวมัน รีบมาก ไหนจะต้องแต่งตัวมิดชิดเพื่อสู้กับโควิดอีก หน้ากากเอย แอลกอฮอล์เอย วุ่นมาก ฮ่าๆๆ เรา แม่ และสามี รีบกันแบบสุดๆ โอ๊ย จะทันมั๊ยเนี่ย
และนี่เป็นครั้งแรกที่ต้องออกไปเผชิญโลกของโควิด ด้วยความกลัว ทุกคน ใส่แขนยาว ขายาว ถุงเท้า รวบผม ใส่แมส พกแอลกอฮอล์ พร้อมลุย!!
กว่าจะพร้อมก็สิบโมงพอดี แผนที่วางไว้ว่าจะไปเอ็กซเรย์ที่พะเยา พังสิทีนี้!!! ไม่ทันแล้วจร้าาา ตัดสินใจขับไปเชียงรายทันที ขับได้แค่ 90 กมต่อ ชมจร้า เพราะมีกล้องจับความเร็ว ตอนเรานอนโรงพยาบาลคุณพ่อพึ่งโดนใบสั่งมา 2 ใบ รอบนี้จึงเซฟกันสุดๆ ภาวนาตลอดทาง ทันนะๆๆๆ
1
ไปถึงโรงพยาบาล 11.30น. เป๊ะ ดีใจเหมือนถูกหวย
ไปแผนกเอกซเรย์
เอิ่มม!!!
ภาพที่เห็นวันนี้กับภาพที่เห็นวันที่เราผ่าตัด ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง วันนี้ไม่มีคนไข้เลยจร้าาา มีเราแต่เพียงผู้เดียว ฮ่าๆๆ เจ้าหน้าที่ทำให้ไวมาก และไม่มีใครเข้าใกล้เราเลย เพราะทุกคนกลัว คนไข้ก็กลัวเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็ระแวงคนไข้ ตอนนั้นนึกแล้วก็ขำ นี่เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง ไวรัสบ้าอะไรเนี่ยเข้าใกล้กันไม่ได้
1
จุดเสี่ยงตายก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี แม่ก็เช็ดรถเข็นด้วยแอลกอฮอล์ พร้อมเข็นเราไปห้องตรวจ หยิบจับอะไรก็ล้างมือทุกครั้ง รอคุณหมอ มาตรวจอีกทีบ่ายโมง โรงพยาบาลแทบไม่มีคนไข้เลย มีแต่คุณหมอ คุณพยาบาล ที่ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย ขอบคุณจริงๆค่ะที่ทำเพื่อคนไข้อย่างพวกเรา
1
พอพบคุณหมอ คุณหมอให้ดูฟิล์ม บอกว่าปอดด้านขวาของเราตอนนี้ยังไม่ขยายเต็มที่เลยนะ มีแค่ครึ่งเดียวเอง แต่โอกาสรั่วมีน้อยมากๆแล้วเพราะหมอเย็บให้หมดแล้ว สาเหตุก็เกิดจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ไปเกาะที่ปอดทำให้ปอดรั่ว และของเราดันซวยตรงที่รั่วตั้ง 5 ครั้ง ทำให้ปอดค่อนข้างบอบช้ำ เลยฟื้นตัวค่อนข้างยาก แถมดันติดเชื้อเป็นหนองอีก คุณหมอให้หมั่นทำกายภาพ และไม่นัดแล้ว หมอบอกกลัวคนไข้เจอโควิด ฮ่าๆๆๆถ้า มีอะไรก็ไปโรงพยาลที่พะเยาแล้วให้หมอโทรหาหมอที่เชียงราย
ปอดเราเองมีแค่ครึ่งเดียว
เห็นปอดตัวเองแล้วเศร้าใจ นึกถึงน้องโควิดอีกแล้ว ตายๆๆๆๆ ถ้าน้องโควิดมาเจอเข้า ไม่รอดแน่ๆ ชีวิตช้านที่ทุ่มเท สร้างมา อุตส่าห์ลาออกจากงานที่ กทม กลับมาบ้านนอกเพื่อจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขต้องมาเจอน้องโควิดสอยเหรอ นั่งคิด นั่งจินตนาการไปมากมาย ม่ายยย ชั้นจะไม่ตายเพราะน้องโควิด
แล้ว เสียงสามีก็ดังมา
"คิดฟุ้งซ่านอีกล่ะสิ ตัวไม่ตายง่ายๆหรอก ตัวมันตายยาก" สามีพูดแล้วก็หัวเราะชอบใจ (สามีน่ารักเสมอ นี่คำปลอบใจ รึเปล่า ฮ่าๆๆ)
หลังจากพบคุณหมอเรียบร้อย เราก็เดินทางกลับสู่ จังหวัดพะเยา เข้าสู่การกักตัวต่อไป ฮ่าๆๆ
ไม่รู้โควิดจะมีวัคซีนเมื่อไหร่ ไม่มีใครอยากอยู่ด้วยความหวาดกลัว โดยเฉพาะคนป่วย แต่สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องหันหน้าเผชิญกับความจริง สู้กับมัน และอยู่ด้วยความเข้าใจในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ปรับตัวเข้ากับโรคที่กำลังเปลี่ยนไป ดูแลตัวเอง ป้องกันตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ และทำให้ดีที่สุด ที่สำคัญอย่าประมาท และอย่าชะล่าใจ จนกว่าจะมีวัคซีนป้องกัน
เพราะหากเราอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวตลอดเวลา ชีวิตเราก็จะปราศจากความสุข
.. เราต้องผ่านมันไปให้ได้..
.. รอวันที่โลกประกาศชัยชนะเจ้าโควิด...
.. สู้ไปด้วยกันนะคะทุกคน..
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา