2 พ.ค. 2020 เวลา 06:28 • ธุรกิจ
'สภานายจ้าง' เผยแรงงานวัย 40 บวก เสี่ยงตกงานสูง
โควิด-19 ดันยอดตกงานทะลุ 7-9 ล้านคน หากลากยาวถึง มิ.ย.แรงงานภาคอุตสาหกรรมตกงานเพิ่มอีกหลายแสนคน เผยโลกเปลี่ยน นายจ้างเร่งนำหุ่นยนต์ เครื่องจักรอัตโนมัติแทนแรงงานคน ทำให้ยอดตกงานเพิ่ม ระบุ แรงงานอายุเกิน 40 เสี่ยงตกงาน
2
บทความโดย วัชร ปุษยะนาวิน I กรุงเทพธุรกิจ
'ธนิต โสรัตน์' รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า
วิกฤติโควิต-19 ก่อให้เกิดปัญหาด้านแรงงานที่รุนแรงกว่าปี 2540 และรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี
โดยภาคเอกชนประเมินว่าอาจมีคนตกงานถึง 9.21 ล้านคน จากแรงงานไทยที่มีทั้งหมด 38 ล้านคน
แบ่งเป็นแรงงานในระบบประกันสังคม 11 ล้านคน และแรงงานนอกระบบรวมทั้งการเกษตร 27 ล้านคน ซึ่งตัวเลขล่าสุดจากผลกระทบโควิด-19 แรงงานในระบบประกันสังคมยื่นขอรับเงินชดเชยว่างงานกรณีเหตุสุดวิสัยสูงถึง 1.5 ล้านคน
“ที่ผ่านมาแรงงานในระบบประกันสังคมหากมียอดคนตกงานปีละ 7-8 หมื่นคนถือว่าเป็นจำนวนมากแล้ว แต่ปีนี้คาดว่าจะมีถึง 1.5 ล้านคน จึงเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้วิกฤติต้มยำกุ้งก็มีตกงานน้อยกว่านี้มาก”
ทั้งนี้ หากการระบาดของโรคโควิด-19 ยาวถึงเดือน มิ.ย.นี้ ยอดคนตกงานจะรุกลามถึงแรงงานภาคอุตสาหกรรมที่มี 6 ล้านคน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์จะได้รับผลกระทบรุนแรง เพราะเกือบทุกค่ายรถยนต์หยุดการผลิต ทำให้กระทบเป็นลูกโซ่ไปยังโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์นับพันโรงงานมีแรงงานรวมกว่า 7.5 แสนคน อาจจะให้อุตสาหกรรมนี้มีคนตกงาน 2-3 แสนคน และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม จะตกงานอีกหลายแสนคน
1
การที่ภาครัฐเริ่มคลี่คลายมาตรการล็อกดาวน์ และสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศลดลง
ถ้าไม่เกิดการระบาดรอบ 2 ในสิ้นปีนี้ อาจดูดซับแรงงานที่ตกงานกลับเข้าทำงานได้อยากมากไม่เกิน 50% และในช่วงไตรมาส 1 อาจจะดูดซับแรงงานได้เกือบหมด
ทั้งนี้ ธุรกิจท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้ช้าเพราะต่างประเทศยังระบาดรุนแรง จึงหวังพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติได้ยาก และการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาปีหน้า เพราะไทยยังเป็นประเทศปลอดภัยจากโรคระบาด แต่ปีนี้จะมีเพียงคนไทยที่ออกท่องเที่ยวภายหลังล็อกดาวน์อยู่บ้าง ทำให้ธุรกิจนี้ดูดซับแรงงานที่ตกงานกลับได้ช้า
สำหรับแรงงานที่เสี่ยงสูงสุด คือ แรงงานที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
จะต้องเร่งปรับตัว เพิ่มทักษะ ความสามารถเพิ่มขึ้นเพื่อทำงานได้อย่างหลากหลายและก้าวทันเทคโนโลยี รวมทั้งทำงานร่วมกันเทคโนโลยีใหม่ได้ เพราะแรงงานกลุ่มนี้อยู่มานานจนมีเงินเดือนสูง แต่ประสิทธิภาพการทำงานให้บริษัทลดลง เนื่องจากก้าวไม่ทันเทคโนโลยีใหม่
ในขณะที่ผู้จบใหม่ใช้เทคโนโลยีได้และมีไฟทำงาน และมีเงินเดือนต่ำกว่าจึงมีโอกาสมาทดแทนแรงงานรุ่นเก่าได้มาก แต่ปัญหาของไทยขณะนี้ คือ แรงงานไม่ปรับตัว และมักจะใช้กฎหมายแรงงานมาคุ้มครอง
“แรงงานที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ต้องเร่งศึกษาความรู้ หาความถนัดด้านวิชาชีพใหม่ๆ ต่อยอดความสามารถทำงานได้หลายแบบ เสริมทักษะการใช้หุ่นยนต์และเทคโนโลยี จะช่วยให้อยู่รอดในยุคหลังโควิด-19 ได้ ซึ่งจะทำให้แข่งขันกันจ้างงานมากขึ้นและจะหมดยุคค่าจ้างขั้นต่ำ ค่าแรงงานจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับทักษะวิชาชีพและความสามารถในการปรับตัว”
1
โฆษณา