อาร์เมเนียไม่เพลียเลย (2) :ที่อาร์เมเนียมีแอนนาและลีนา
ว่าด้วยเรื่องผู้คนที่อาร์เมเนีย แม้เป็นประเทศที่อยู่ติดกันกับจอร์เจีย แต่บะคลิกลักษณะก็มีความแตกต่างกันค่อนข้างเห็นได้ชัด ผู้คนมีลุคแบบมองยังไงก็เหมือนมีกลิ่นไอแบบแขกๆหรือคล้ายยุโรปตะวันออกแต่ผสมเครื่องเทศแถบตะวันออกกลางหน่อยๆ ผู้คนดูช่างพูดช่างคุยกว่า แต่ดูเหมือนผู้คนที่เจอเหมือนหูจะแนบโทรศัพท์กันอยู่ตลอดเวลา ตอนที่จะผ่านเข้าออกเมืองที่ชายแดน จอร์เจีย -อ่ร์เมเนีย เจ้าหน้าที่ในจอร์เจียทำงานอย่างรวดเร็วมาก แต่มาฝั่งอาร์เมเนียเหมือนจะช้าๆอืดอาดแถมวางอำนาจหน่อยๆ และเจ้าหน้าที่ก็คุยโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา ตอนแรกก็นึกว่าคนก่อนหน้านั้นมีป๊ญหาแล้วเขาโทรฯคุยกับใครที่อาจเกี่ยวข้อง แต่คนนั้นผ่านไปแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ยังโทรฯอยู่ ตอนไปที่สถานีตำรวจเช่นกัน เจ้าหนเล้าที่ก็คุยอะไรไม่รู้มากมาย แต่คนที่เราต้องติดต่อด้วยก็คุยโทรศัพท์แบบเหมือนเป็นอวัยวะอีกส่วนของร่างกาย
ที่นี่ผู้คนชอบเล่นหมากรุกกันมากๆ สินค้าตึงมีพวกหมากรุกเต็มไปหมด ในตลาดที่รอขายของก็เล่นหมากรุกกันไป สวนสาธารณะหรือที่ต่างๆ แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย จะไม่เห็นมีผู้หญิงมานั่งเล่นแบบนี้ นอกจากนั้น ดูเหมือนเขาจะรักดนตรี ศิลปะและดอกไม้ ความสุนทรีที่คงไม่แพ้บางประเทศในยุโรป แต่นี่คือยูเรเซีย มีความปนๆดันระหว่างยุโรปกับเอเชีย
เช่นเดียวกับจอร์เจียร์ ผู้คนจะพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมากๆ ภาษาที่ใช้และป้ายต่างๆก็มีเฉพาะภาษาอาร์เมเนีย จะหาภาษาอังกฤษได้น้อยมาก ถนนหนทางตามจุดใหญ่ๆเท่านั้นที่เขียนชื่อถนนเป็นภาษาอังกฤษ ตามสถานที่ท่องเที่ยวมีเฉพาะภาษาอาร์เมเนียนและรัสเซีย ชาวจอร์เจียและอาร์เมเนีย ทั้งสองประเทศแม้แยกออกมาจากรัสเซียแล้ว เด็กๆก็ยังคงเรียนภาษารัสเซียในโรงเรียนอยู่ แต่ตอนนี้เนื่องจากมีการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้น เด็กๆก็เริ่มเรียนภาษาอังกฤษมาขึ้น อย่างที่เราได้เจอเด็กมัธยมที่ republic square ที่สามารถบอกได้ว่าทำไมผู้คนถึงถือกุหลาบกันเยอะมากในวันนั้น หรือ ร้านอาหารในย่านที่นักท่องเที่ยวเยอะ พนักงานที่ให้บริการก็พูดภาษาอังกฤษได้ในระดับสามารถสื่อสารได้ กระนั้นในช่วงนี้ การไปเที่ยวใน 2 ประเทศนี้ หากไม่รู้ภาษารัสเซีย ภาษาท่าทางและการสื่อสารด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่น่าจะเวิร์คกว่า น่ายินดีที่เรามีกูเกิ้ล ทรานสเลชั่น บางครั้งสามารถช่วยได้ แต่เฉพาะอังกฤษเป็นอาร์เมเนีย เท่านั้น แต่อาร์มาเนียเป็นอังกฤษจะยังแปลไม่ค่อยรู้เรื่อง
ที่อาร์เมเนีย เราพักโรงแรมชื่อ Art Hotel เป็น Boutique Hotel ที่มีไม่กี่ห้องนอน เข้าใจว่าเอาบ้านมาดัดแปลงเป็นโรงแรม ที่นี่มีผู้จัดการชื่อ "ลีนา" ผู้ติดปากด้วยคำภาษาอังกฤษว่า "No problem" ทั้งที่กำลังมีปัญหาอยู่นางก็ บอกว่า โนพล็อบเบล็ม และมี แอนนา ซึ่งเป็นแม่บ้านทำทุกอย่างทั้งแต่ช่วยงานครัวทำอาหารเช้า เสิร์ฟอาหาร ล้างจาน และทำห้อง ฯลฯ
1วันก่อนที่เราจะกลับ พวกไปเดินเล่นและกลับเข้ามาที่โรงแรมตอนบ่ายๆ พบว่า แอนนายืนหน้าซีดจนเขียวอยู่ พวกเราเลยเข้าช่วยปฐมพยาบาล นางบอกว่าเจ็บตรงแถวๆหัวใจ โชคดีมีเพื่อนร่วมทริปที่เข้าใจว่าควรจะจัดการอย่างไร ...ว่าแล้วก็พานางมานั่งพัก ให้จิบน้ำ ให้นางหายใจช้าๆลึกๆ และช่วยกันนวดหลังและไหล่และแขนให้นาง จนสีหน้าแช่มชื่นขึ้น ตอนหลังนางบอกว่ามีแผลผ่าตัดที่ท้องจากการคลอดลูกแต่เวลาเจ็บที่นึงมันขึ้นถึงหัวใจ (สนทนาดันด้วยภาษาท่าทางและกูเกิ้ล ทราสเลชั่น)
หลังจากนั้น ทุกคนก็แยกย้ายกันไป ตอนห้าโมงเย็นเราจะไปเที่ยวเล่นที่ Cascade อันเลื่องขื่อของเมือง พอดีว่าจะออกไปคนเดียวก็เลยจะลงมาให้ใครสักคนที่โรงแรมเรียกแท๊กซี่ผ่านแอ๊พให้ (เพราะจะไปตามมิเตอร์จะถูกกว่าการเรียกข้างถนนที่อาจถูกโกงได้) ลงมาก็พบว่าแอนนายังคุยกับลีนาอยู่และนางกำลังชื่นชม Thai Massage ให้ลีนาฟัง ว่าดีแค่ไหนอย่าง
ลีนาเลยถามว่า ยูหรือเปล่าที่นวดให้แอนนา เห็นบอกว่าดีมากๆ ช่วยนวดให้ฉันหน่อยได้มั้ยสัก 5 นาทีได้มั้ย นางบอกว่าเคยให้คนฟิลิปปินส์นวดให้ดีมากแต่แอนนาบอกว่าฟิลิปินส์ก็ดีแต่ไทยแลนด์ดีกว่า เราเลยตอบไปว่า ไม่ใช่เรา 2คนที่นวดนั้น เขานวดให้แอนนาจนหมดแรงและไปนอนกันหมดแล้ว ส่วนฉันจะมาขอให้เรียกแท๊กซี่ให้หน่อย นางว่า taxi .. No problem แต่นางคงคิดว่าคนไทยนวดได้ทุกคนก็จะยังคงตื้อว่า แต่ช่วยนวดให้ก่อนสัก 5 นาทีได้มั้ย ..เอ๊ะ! แต่เราก็ยืนยันไปว่านวดไม่เป็น นางอยากจะให้ไปบอกให้เพื่อนมานวดแบบขอร้องละนะขอ 5นาทีเท่านั้น เฮ้อ!
ระหว่างรอแท๊กซี่นางก็บอกว่า นางชอบคนฟิลิปปินส์ แล้วก็ชอบคนไทย แต่นางไม่ชอบรัสเซีย เลยถามนางว่า นางรู้จักคนฟิลิปปินส์เยอะเหรอ เพราะดูเหมือนว่าที่นี่นอกจากคนจะทักว่าทีมที่มาเที่ยวด้วยกันแล้ว อีกจำนวนมากก็ทักว่าเราเป็นฟิลิปปินส์หรือเปล่า ดูคนที่นี่จะคุ้นเคยกับคนฟิลิปปินส์ เพราะเวลาบอกว่ามาจากไทยแลนด์ก็ถามว่าอยู่ใกล้ฟิลิปปินส์มั้ย แต่ลีนา ตอบว่า ปล่าวหรอกรู้จักแค่คนเดียว เคยจ้างมาทำงาน แหม เดิมนางพูดซะเหมือนรู้จักทั้งประเทศ แล้วในที่สุดนางก็เรียกแท๊กซี่ที่จะไป Cascade ให้ผ่านแอพฯอะไรสักอย่างเหมือน grab นี่แหละ ซึ้ล่งก็คิดราคาตามมิเตอร์ปกติ ส่วนขากลับ เรทกผ้ใผ้พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารเรียกให้ซึ่งเรียกผ่านแอพก็ปลอดภัยดี
วันสุดท้ายก่อนกลับ แอนนาก็มาบริการอาหารเช้าเช่นเดิม แล้วรู้สึกอาลัยอาวรณ์ที่ต้องจากกันแล้ว เพราะนางรู้สึกดีว่า เมื่อวานนี้จริงๆคงเหมือนทีมเราได้ช่วยชีวิตเอาไว้ เราเลยบอกว่า มาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย และลีนาก็มาพอดี บอกว่าถ่ายด้วย หลังจากนั้นก็บอกว่า กล้องยูรูปสวยดี ช่วยถ่ายให้หน่อย "ถ่ายฉันคนเดียว" ว่าแล้วนางก็มานั่งโพสต์ ยืนโพสต์ อ้าว! นี่ฉันเป็นลูกค้าหรือช่างภาพส่วนตัวนะเนี่ย นางแฮปปี้มากที่ได้รับคำชมว่าเซ็กซี่ และโพสต์ท่าประหนึ่งว่านางคือมาลิรีน มอนโรว์ เสร็จแล้วนางก็ขอให้ส่งรูปให้นางทันที และเราจะขึ้นรถกลับกันอยู่แล้ว แต่รูปยังไม่ไปที่เครื่องนาง ก็นางก็ยังรั้งบอกรอก่อน...กว่าจะออกมาได้ ใช้เวลาอีกหลายนาที และเมื่อรถออกมาได้ไม่ไกล ก็พบว่า ลีนาได้เปลี่ยนรูป โพรไฟล์ เฟซบุ๊กเรียบร้อยแล้ว หึหึ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
