12 พ.ค. 2020 เวลา 09:11 • ไลฟ์สไตล์
"ไอติมไม้แดง"
Credit: Facebook เจาะเวลาหาอดีต / iUrban
ย้อนกลับไปเมื่อเกือบๆ 30 ปีก่อน สมัยที่ผมยังอยู่บ้านหลังเก่า ซึ่งเป็นห้องแถวไม้ 2 ชั้น กับพ่อ แม่และพี่ชาย พร้อมด้วยเพื่อนๆ (เพื่อนบ้าน) รุ่นราวคราวเดียวกันอยู่หลายคน
กิจกรรมการละเล่นของเด็กที่เกิดยุด 80-90 ที่พอจะจำได้สมัยนั้นก็น่าจะประมาณ “ดีดลูกแก้ว” โดยขุดหลุมด้วยส้นเท้า และแย่งกันเข้าหลุมเพื่อจะได้มีโอกาสยิงลูกแก้วคนอื่น
Credit: ข่าวสด
หรือจะเป็น “กระต่ายขาเดียว” อันนี้น่าจะพอนึกกันออก คือกระโดดขาเดียวเพื่อไปแปะเพื่อนๆ คนอื่น หรือ “เล่นซ่อนหา” อันนี้ก็ตรงตัว ก็หาที่ซ่อนกันไปชุลมุนกันทีเดียว (และการเล่นอื่นๆ อีกหลายอย่างที่นึกออก ไว้มาเล่าใหม่ครับ)
และมีอยู่สิ่งหนึ่งที่เป็นความทรงจำสีจางๆ ซึ่งเมื่อนึกถึงทีไรก็อดอมยิ้มไม่ได้ทุกที นั่นก็คือ... “ไอติมไม้แดง” นั่นเอง
Credit: Pantip.com
โดยช่วงเย็นๆ ของทุกวัน หรือไม่ก็ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะมีลุงคนขายไอติม ปั่นจักรยานพร้อมกับตู้ไอติมถังใหญ่ๆ ถังนึง (คุ้นๆ ว่าเป็นถังกลมๆ) ภายในบรรจุไอติมหลอดแท่งกลมๆ ยาวๆ เสียบอยู่กับไม้ มีหลากสีสัน ชวนน้ำลายไหลบรรจุไว้จำนวนมาก
และทีเด็ดของไอติมแบบนี้คือ “ใครที่กัดตรงปลายไม้แล้วพบสีแดงแต้มอยู่ จะได้กินฟรีอีกหนึ่งไม้กันไปเลย” จะว่าไปแล้วก็นับว่าเป็นกิจกรรมทางการตลาดที่ดึงดูดลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม เพราะเท่าที่จำความได้ผมมักจะขอเงินพ่อกับแม่เป็นประจำเพื่อไปซื้อให้โดนไม้แดงสักที 555
Credit: gramho.com
โดยในถังไอติมนั้นๆ ถ้าพ่อค้ารับมาจากเถ้าแก่อีกทีก็อาจจะมีไม้แดงอยู่ไม่กี่ไม้ที่เถ้าแก่ใส่ไว้ใน 1 ถัง (เท่าที่เคยได้ยินมาเขาจะใส่ไว้แค่ 1-2 ไม้เท่านั้น) หรือถ้าพ่อค้าเป็นคนทำไอติมเองก็จะเป็นผู้กำหนดโปรโมชั่นเอาเองว่าวันนี้ฉันจะใส่แดงไว้กี่ไม้นั่นเองครับ
และด้วยความหัวหมอสไตล์เด็กน้อยของผมและพี่ชาย เรา 2 คน จึงมักจะเอาสีที่ใช้ในงานพิมพ์จากโรงพิมพ์ของคุณตามาป้ายไว้กับไม้จากไอติมที่ซื้อจากคุณลุงรถไอติม (เราซื้อกันทีหลายๆ ไม้สับขาหลอกคุณลุง เพื่อจะได้ไม่ต้องกินทันที เลวมาก 555)
หลังจากการป้ายสีแดงตกแต่งบนไม้ไอติมเรียบร้อยแล้ว เรา 2 คนพี่น้องลงความเห็นว่าเหมือนไม้ที่ออกจาก Shop มาไม่มีผิดเพี้ยน และเมื่อถึงเวลาที่เสียงกระดิ่งรถไอติมดังขึ้น แน่นอนเราเดินถือไม้แดงของเราไปอย่างภาคภูมิ พร้อมกับยื่นมือน้อยๆ ที่กุมไม้แดงของเราให้กับคุณลุงขายไอติม
คุณลุงยื่นมือรับไม้แดงไว้ และมอบรางวัลเป็นไอติมอีกไม้ให้กับเรา...
ผมจำไม่ได้จริงๆ ว่าตอนนั้นคุณลุงพูดอะไรบ้าง และจำไม่ได้ว่าหน้าตาของแกแสดงออกมาในอารมณ์แบบไหน แต่ถ้าคุณลุงท่านที่ผมกล่าวถึงมีโอกาสได้อ่านบทความนี้ ผมอยากจะกล่าวคำว่า “ขอโทษ” กับการโกงเพื่อจะได้กินไอติมฟรีในช่วงวัยตอนนั้น
Credit: EDTguide.com
พอมานั่งนึกย้อนดูแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม คุณลุงต้องรู้อยู่แล้วว่าในถังหนึ่งของแกนั้น มันจะมีไอติมที่ป้ายสีแดงไว้จำนวนกี่ไม้ หรือไม่แกก็คงเห็นว่าเราเป็นเด็ก และคงใจดีกับเรามากๆ ด้วย เพราะทั้งๆ ที่เราเองก็ไม่ซื่อสัตย์กับแกแท้ๆ (หรือไม่ลุงก็คงเห็นว่าเราเป็นลูกค้ารายใหญ่ซื้อทีละหลายๆ แท่ง ก็เลย...เอาวะ แถมๆ มันไป 555)
และด้วยความที่ตอนนั้นดีใจมากที่ได้ไอติมฟรีมา...เลยรีบวิ่งแจ้นไปบอกพ่อกับแม่ถึงข่าวดีนี้ แต่ก็ต้องโดนดุกลับมาชุดใหญ่เพราะความไม่ซื่อสัตย์ของเรา 2 คน จำได้ลางๆ ว่า “แม่สอนว่าอย่าไปทำกับเขาแบบนั้นอีก เขาต้องตระเวนลำบากขายไปทั่ว กำไรก็ได้ไม่มาก อย่าไปหลอกคุณลุงเขาอีกนะลูก”
Credit: naewna.com
หลังจากนั้นผมและพี่ชายก็ไม่เคยแต้มสีแดงที่ไม้ไอติมอีกเลย แต่เราก็ยังเป็นแฟนพันธุ์แท้อุดหนุนคุณลุงต่อไปอีกนาน จนตอนที่เริ่มเข้ามัธยม ครอบครัวของผมย้ายออกมาจากบริเวณนั้นแล้ว ก็เลยไม่ได้กินไอติม (ไม้แดง) และเจอคุณลุงอีกเลย
สมัยนี้ไม่รู้ว่า “ไอติมไม้แดง” ยังจะมีอยู่ไหมนะครับ เพราะไม่เคยได้กินอีกเลยตอนที่โตมา แต่เชื่อไหมครับว่าไอติมไม้แดงแท่งนั้นได้ย้ำเตือนผมเสมอมาถึงทุกวันนี้ว่า “ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญมากในการเติบโตมาเป็นมนุษย์สักคน” และคำพูดของพ่อกับแม่ผมที่ว่า “อย่าไปโกงเขานะลูก” ...ก็ยังคงดังก้องอยู่ในหัวผมเสมอมาจนถึงวันนี้
แล้วคุณละครับมีความทรงจำเกี่ยวกับ “ไอติมไม้แดง” บ้างไหม มาเล่าสู่กันกันฟังหน่อยนะครับ
ขอบคุณที่อ่านบทความนี้จนจบ รบกวนกดติมตาม กดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ ไว้พบกันใหม่ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา