12 พ.ค. 2020 เวลา 13:31 • กีฬา
วันนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว (12 พฤษภาคม 2013) เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีมเป็นนัดสุดท้าย และปิดฉากด้วยแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ดันจบฤดูกาลด้วยผลเสมอ 5-5
หากยังจำกันได้ ในฤดูกาล 2011/12 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 ไปอย่างน่าเสียดาย หลังโดน เอดิน เซโก้ และเซอร์จิโอ อเกวโร่ ยิงคนละประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พา แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส 3-2
1
ในหนังสืออัตชีวประวัติของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปิดเผยว่าหลังจากเกมวันนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เริ่มมีปัญหาอาการทางสุขภาพคือ มีบาดแผลจากการโกนหนวด และเลือดไม่หยุดไหล จนต้องไปพบแพทย์ มีสาเหตุมาจากการเดินทางโดนเครื่องบินบ่อยเกินไป และเป็นสัญญาณที่เตือนว่าเขากำลังทำงานหนักเกินไป
ทำให้ฤดูกาลถัดมา เฟอร์กี้ หมายมั่นปั้นมือที่จะแก้แค้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ให้จงได้ ด้วยการคว้าตัวกองหน้าอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เข้าร่วมทีม ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็แก้แค้นได้ถึง เอติฮัด สเตเดี้ยม จากการทำคนเดียว 2 ประตูของ เวย์น รูนี่ย์ และอีกหนึ่งประตูของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ในฤดูกาล 2012/13 ปีศาจแดง ผงาดขึ้นไปจองตำแหน่งจ่าฝูงยาวตั้งแต่เกมที่ 13 ของฤดูกาล และสร้างสถิติเอาชนะได้ 25 จาก 30 เกมแรกในพรีเมียร์ลีก และก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ลีก ในวันที่ 22 เมษายน ในเกมที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 จากแฮตทริกของ RVP ทำให้กลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ คือเหลือการแข่งขันอีก 4 เกม ร่วมกับ อาร์เซน่อล 2003/04 และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1990/00
ถัดมาก่อนเกมในบ้านนัดสุดท้าย 4 วัน ในวันที่ 8 พฤษภาคม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ "การรีไทร์เรื่องที่ผมต้องคิดให้ถี่ถ้วนเสียก่อน และตอนนี้ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว”
ก่อนจะฉลองแชมป์ และได้ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก ครั้งที่ 13 ของ เฟอร์กูสัน ด้วยการเอาชนะ สวอนซี 2-1
ส่วนเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล เป็นเกมที่ออกไปเยือนเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในเกมวันนั้น เฟอร์กี้ ประกาศว่า เดวิด มอยส์ จะเข้ามาคุมทัพปีศาจแดงในฤดูกาลถัดไป
ส่วน 11 ตัวจริงชุดสุดท้ายของ เซอร์ อเล็กซ์ ไล่ตั้งแต่ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด ผู้รักษาประตู ตามมาด้วย อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ฟิล โจนส์, จอนนี่ อีแวนส์, อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์, ทอม เคฟเวอรี่, ไมเคิ่ล คาร์ริค, แอนเดอร์สัน, ชินจิ คางาวะ, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่
เกมวันนั้น ปีศาจออกนำ 3-0 ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกของการแข่งขัน จากคางาวะ (6), โอลส์สัน (OG 9), บุตต์เนอร์ (30) แม้ว่าจะโดนตีไข่แตกตามมาเป็น 3-1 ก่อนหมดครึ่งแรก แต่ทุกๆ คนก็คิดว่า เซอร์ อเล็กซ์ น่าจะปิดจากการคุมทีมด้วยการเก็บชัยชนะอย่างสวยงาม แม้ว่าจะมาโดน โรเมลู ลูกากู ยิงตามาในนาที 50 แต่ RVP และชิชาริโต้ ก็ยิงคนละประตูในนาที 53 และ 63 เวลาร่วม 30 นาทีกับ สกอร์ห่าง 3 ลูก ชัยชนะอยู่ในมือของ เฟอร์กี้
ใครจะไปคาดคิด เวสต์บรอม ยังไม่ยอมง่าย ลูกากู ซัดประตูที่สองของตัวเองในนาที 80 ก่อนจะได้อีกประตูจาก ยูซุฟ มูลุมบู ในนาทีถัดมา สุดท้ายนาที 86 ยูซุฟ มูลุมบู รับบอลเปิดจากฝั่งซ้ายก่อนจะชงเข้ากลางให้ ลูกากู ซัดแฮตทริก พา เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ยิงสามประตูรวดในเวลา 6 นา ตามตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5-5 ฝากรอยแผลเล็กๆ เอาไว้ในความทรงจำของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
โฆษณา