15 พ.ค. 2020 เวลา 01:00
อื่นๆอีกมากมาย
ในชีวิตของคนเราเมื่อใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึงจุดหนึ่ง พอมองย้อนไปในอดีตก็จะพบจุดเล็กๆที่ดูเหมือนไม่มีความสำคัญเมื่อนานมาแล้ว เป็นเหมือนแค่หินก้อนเล็กๆที่ถูกโยนลงบ่อน้ำ แต่หินก้อนนั้นอาจจะต่างกับหินหลายก้อนที่ถูกโยนลงน้ำก่อนหน้านั้น ก็เพราะหินนั้นทำให้เกิดวงกระเพื่อมจนขยายใหญ่จนกลายเป็นคลื่นลูกยักษ์ที่มีผลและมีอิทธิพลต่อชีวิตอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ถ้าเป็นจุดก็เป็นจุดเล็กๆที่ถูกลากเส้นมาเป็นเราในปัจจุบันนี้นั่นเอง
1
ผมเคยเขียนแทรกเรื่องเล็กๆที่เปลี่ยนชีวิตของคนหลายคนในบทความที่ผ่านมา คุณครูชั้นป. 2 ที่กำแพงเพชรที่หาเรื่องชมเด็กชายคนหนึ่งที่ไม่มีจุดเด่นอะไรว่าออก ร เรือชัด ทำให้เด็กคนนั้นมั่นใจ จนตั้งใจเรียนและกลายเป็น คุณกระทิง พูนผล เจ้าพ่อ start up จนวันนี้ หรือช่างตัดผมที่ตัดด้วยความไม่เอาใจใส่จนทำให้เด็กชายคนหนึ่งเจ็บใจแล้วเอามาเป็นพลังในการเป็นช่างตัดผมที่ดีที่สุดในโลกไม่ว่าจะทำงานอะไร จนทำให้เรามี illustrator มือหนึ่งของโลกอย่างพี่สุรชัย พฤฒิกุลางกูร และคงมีอีกหลายเรื่อง หลายเหตุการณ์ที่เป็นจุดเล็กๆ แต่ละคนคงมีไม่เหมือนกัน ผมเองก็มีจุดเล็กๆเช่นนั้นด้วย
แต่ก่อนที่จะเล่าเรื่องของผม ผมเคยแอบเก็บข้อเขียนของพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ ตอนที่ได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำไว้ จุดของพี่จิกที่ทำให้กลายเป็นผู้สร้างสรรค์งานดีๆมากมายและกลายเป็นเวิอร์คพอยท์ในปัจจุบันก็น่าจะมาจากเรื่องนี้ พี่จิกเขียนเล่าถึงจุดนั้นไว้ว่า
1
ในงานโทรทัศน์ทองคำ ตอนที่ไฟเวทีเปิดสว่างขึ้น จู่ๆภาพของร้านขายของชำร้านหนึ่งก็ลอยเข้ามาในหัวผม มันเป็นร้านเล็กๆในตำบลที่ผมเกิด ปัจจุบันนี้ร้านนี้ไม่อยู่แล้ว
1
ในสมัยที่ผมยังเด็กๆ ทีวีขาวดำเครื่องแรกๆเพิ่งเข้ามาถึงตำบล และมีจำนวนนับเครื่องได้เลย ต้องเป็นบ้านที่มีฐานะหน่อยหรือไม่ก็เป็นร้านขายของเท่านั้นถึงจะมีทีวีได้ ผมเองได้เห็นโทรทัศน์ครั้งแรกในชีวิตก็จากร้านขายของชำร้านนี้แหละ ผ่านมาหลายสิบปีผมยังจำความตื่นเต้นในวันที่ผู้คนมามุงดูตอนร้านขายของเปิดทีวีใหม่ๆได้อยู่เลย
1
ต้องขอบคุณป้าเจ้าของร้านที่ยอมให้เด็กคนหนึ่งไปนั่งเกะกะข้างๆกระสอบข้าวสาร นั่งจ้องมองสิ่งมหัศจรรย์ที่เขาไม่เคยเห็นปรากฎอยู่ในตู้สี่เหลี่ยมตู้นั้น บางทีป้าก็รำคาญเดินไปปิดทีวีบ้าง บางทีป้าก็เห็นว่าไอ้เด็กคนนี้มันเกะกะการขายของนักก็ไล่ให้ออกจากร้านบ้าง และก็มีหลายครั้งที่ป้าปล่อยให้ผมนั่งดูอยู่คนเดียวเป็นเวลาเกือบชั่วโมง
ถ้ามีโอกาสได้พูดบนเวที ผมจะพูดขอบคุณป้าคนนี้แหละ ถึงจะจำชื่อแกไม่ได้ และไม่รู้ว่าตอนนี้แกยังอยู่หรือเปล่าก็ตาม สำหรับมนุษย์ด้วยกันจะมีอะไรดีไปกว่าความเอื้อเฟื้อและโอกาสที่หยิบยื่นให้กัน
ที่ผมเริ่มจากการยกเรื่องของพี่จิกมานั้น ก็เพราะว่าจุดเล็กๆที่เปลี่ยนของผมก็เริ่มมาจากพี่จิกอีกทอดหนึ่ง เป็นจุดที่เปลี่ยนวิธีคิดและวิธีมองโลกของผมอย่างมาก พอมีเวลานิ่งๆ มองย้อนกลับไป ไม่ว่าวิธีคิดที่ทำให้ผมทำงานการตลาดได้ดี ทำให้เข้าใจอะไรหลายๆอย่างในชีวิต ทำให้ไม่ด่วนสรุป ไม่ตัดสินคน ทำให้มีความคิดไม่ค่อยเหมือนชาวบ้าน ฯลฯ มองไปทีไรก็จะเจอจุดนี้ทุกครั้ง
1
เมื่อตอนที่ผมอยู่มัธยม มีวงดนตรีที่ไม่เหมือนชาวบ้านในยุคนั้น มีเพลงที่ฟังแล้วแปลกกว่าคนอื่นด้วยเนื้อร้องที่มีความหมายที่ต่างออกไปจากเพลงรักที่ฮิตๆกันในช่วงนั้น วงดนตรีวงนั้นชื่อเฉลียง และมีพี่จิกประภาส ชลศรานนท์ เป็นผู้แต่งเนื้อเพลงเป็นส่วนใหญ่
ในอัลบั้มชุดที่สองในตอนนั้น มีเพลงๆหนึ่งที่เป็นทั้งชื่ออัลบั้มด้วย เป็นเพลงที่เป็นจุดเล็กๆของผมเมื่อมองย้อนไป เป็นเพลงที่ชื่อว่าอื่นๆอีกมากมาย เนื้อเพลงพยายามเล่าถึงว่าเรื่องราวที่อะไรที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะเกิดจากเหตุ จากปัจจัยอะไรหลายๆอย่าง อย่าเพิ่งด่วนสรุป ให้โอกาสกับความเป็นไปได้อื่นๆก่อน
และท่อนที่มีอิทธิพลกับความคิดของผมที่สุดก็คือท่อนที่พูดถึงเด็กไม่ยอมมาเรียน ซึ่งถ้าเรารีบด่วนตัดสินจากกรอบเดิมๆ เราก็จะคิดว่าเด็กเกเร นิสัยไม่ดี แต่ในเพลงนั้นชวนให้คิดดีๆก่อนตัดสินอะไรไปง่ายๆด้วยความหยาบทางความคิดว่า
เด็กหนีไม่ยอมเรียน
โดดเรียนเพราะเหตุใด
ใครตอบได้ไหม
เด็กไปเพราะใจเบ่ง
แม่ให้ไปขายของ
ครูสอนไม่ดีเอง
เด็กรักเป็นนักเลง
อื่นๆอีกมากมาย
อื่นๆอีกมากมาย มากมายที่ไม่รู้ อาจจะจริงเราเห็นอยู่ เผื่อใจไว้ที่ยังไม่เห็น…
แค่ท่อนๆนี้ เป็นซาโตริของผมในวัยละอ่อนเลยทีเดียว เป็นท่อนที่ทำให้ความคิดในหัวผมเรียงลำดับใหม่ และฝังอยู่ในหัวผมตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ อื่นๆอีกมากมายเป็นแนวความคิดที่มีอิทธิพลต่อทุกเรื่องที่ผมตัดสินใจคิดหรือทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องปฏิสัมพันธ์กับคน จนถึงเรื่องเลี้ยงลูก เหมือนโลกของผมแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงก่อนฟังเพลงและหลังฟังเพลงเลยด้วยซ้ำ นึกกลับไปทีไรก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้ฟังเพลงเพลงนั้นตั้งแต่ยังวัยรุ่นทุกครั้ง
2
ในช่วงที่ต้องถูกกักอยู่บ้าน น่าลองนั่งคิดเพลินๆนะครับว่า จุดเล็กๆในชีวิตของเราที่เปลี่ยนเราจนเป็นวันนี้คืออะไร บางทีมันอาจจะพร่าเลือนไปบ้าง ก็เป็นโอกาสที่จะเอามาปัดฝุ่นให้ชัดขึ้น หรือถ้าเรายังไม่มี ก็อาจจะเป็นช่วงที่ลองมองหามัน อาจจะเกิดจากคำแนะนำดีๆในหนังสือ จากเหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้น หรือจากได้ฟัง ได้ยินอะไรในช่วงวุ่นวายนี้ก็ได้
ถ้าจุดของใครหลายคนที่เล่ากันมา ไม่ว่าจะเป็น คุณครู ป2 ช่างตัดผมเฮงซวย ทีวีขาวดำ หรือเพลงอื่นๆอีกมากมาย คือจุดเปลี่ยนความคิดเปลี่ยนชีวิต
อ่านถึงตรงนี้แล้ว คิดถึงจุดคิดถึงเรื่องอะไรในชีวิตกันบ้างครับ
โฆษณา