17 พ.ค. 2020 เวลา 04:54 • ปรัชญา
ปรัชญาความรัก
หัวข้อในวันนี้: ความรักกับการศึกษา ตอน1 พ่อเเม่ฟังหนูหน่อย
บางทีสิ่งที่เราเเค่เห็นผ่านๆ เเล้วรู้สึกไม่สนใจ มันอาจจะเปลี่ยนมุมมองของเราได้นะครับ
สวัสดีครับเพื่อนๆที่ได้มาอ่านบทความของแอดมิน
สิ่งหนึ่งในชีวิตของแอดมินที่ แอดมินมี Passion อย่างมากที่อยากจะเขียนจากประสบการณ์ชีวิตของแอดมิน ก็คือ ความรัก กับ การศึกษา
การศึกษา ในความหมายของแอดมิน ไม่ใช่เเค่การศึกษาในห้องเรียน หรือ ตามโรงเรียนกวดวิชาอย่างเดียว เเต่ ยังหมายถึง การศึกษาสิ่งต่างๆรอบตัวเรา ในสิ่งที่เราชอบ หรือ เรารักที่จะเรียนรู้ เเละ หลงใหลไปกับสิ่งนั้นๆ จนเราอาจจะรู้สึกที่อยากเป็นแบบนั้น หรือ นำมาทำเป็นอาชีพที่เราอยากจะทำ
เเละเมื่อพูดถึงการศึกษา เเรงผลักดันอย่างเเรกที่สุดของ นักศึกษาต่างๆก็คือ….ครอบครัว
พ่อ...เเม่...หนูอยากเป็นอันนี้
พ่อ...เเม่...ผมอยากเรียนด้านนี้
ลูก….อย่าเลย มันไม่มั่นคงหรอก
ลูก….อย่าเลยเรียน หมอ ดีกว่า
ผมเชื่อว่าใครหลายๆคนต้องได้ยิน ประโยค สุด คลาสติกเหล่านี้ รวมถึงตัวของผมเอง วันนี้ผมเลยจะขอเป็น นักศึกษาคนนึงที่จะพูด ความเเทนในใจ จากประสบการณ์ชีวิตผมนะครับ
ซึ่งมันมีการเชื่อมโยงระหว่างความรักกับการศึกษาในหลายๆแง่มุม
แอดมินเชื่อว่า ยุคสังคมของเด็ก สมัยใหม่จะมีความเเตกต่างอย่างมาก กับ ยุคสมัยก่อนๆ เพราะ ในยุคนี้มี เทคโนโลยีที่ทำให้เราได้เห็นโลกที่เปิดมากขึ้นใน Social Media ซึ่งก็หมายถึง ข่าวสาร ความรู้ต่างๆเราเปิดรับได้เยอะยิ่งขึ้น เเล้วมันเกี่ยวไรด้วยละ? เกี่ยวอย่างเเน่นอนสิครับ
แอดมินก็ขอใช้ PEST Analysis ในการ วิเคราะห์ โดยใช้ เเค่ S (Socail) กับ T (Technology) นะครับ
Technology
ในยุคของ 4G ที่กำลังก้าวเข้าสู่ ยุคของ 5G มันกำลังจะเปลี่ยนโลกไปอีกในหลายๆด้าน รวมถึงการศึกษา เด็กๆในยุคสมัยใหม่ที่จะมีความคิด เเละ การมองโลกที่ต่างออกไป จาก ยุคสมัยก่อนเป็นอย่างมาก เพียงเเค่เขา เปิดดู Youtube,Facebook เขาจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่เขาอาจจะไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาหลงใหล กับสิ่งนั้นเป็นอย่างมาก ถ้าเขาชอบสิ่งไหนมากจริงๆเเล้ว เขาจะอยู่กับสิ่งนั้นได้ทั้งวัน เเละ มันก็จะเปลี่ยนมุมมองเเละชีวิตของเขาไปอย่างมาก
อย่างเช่น ESPORT ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ในสังคมไทย เเต่มันกำลังจะมีบทบาทอย่างมากในอนาคต บางคนเล่นเกมส์บนมือถือ เพื่อความมัน เฮฮา เเต่ บางคนก็เอาจริงกับสิ่งนี้จนสามารถสร้างเป็นอาชีพได้ เเละ ได้เงินเยอะ กว่า พนักงงานออฟฟิตก็มี ซึ่งมันมาจาก เขาเริ่มทำกับสิ่งที่เขา ชอบ เเละ หลงใหล นั่นก็คือการเล่นเกมส์
เเต่รู้ไรไหมครับ ก่อนที่คนเหล่านั้นเขาจะมาถึงจุดนี้ได้ เขาต้องยอมเสียสละ อะไรหลายๆสิ่งในชีวิต เพื่อเเลกมา ผมลองไปฟังบทสัมพาด ของนักเเข่ง ESPORT ดังคนนึง เขาบอกไว้ว่า ตอนเเรก ที่บ้านเขาไม่เห็นด้วย พ่อเเม่ ของเขาคัดค้านเขาอย่างเต็มที่ เขาต้องแอบไปเล่น เเต่บางคนก็ต้องหนีออกจากบ้าน ไม่อยากทะเลาะ เพราะ พ่อเเม่บอกกับเขาว่า “เอาเเต่เล่นเกมส์ เเล้วอนาคตจะทำมาหากินอะไร” “มันสร้างเป็นอาชีพไม่ได้หรอก” เเต่สุดท้ายเขาก็พิสูจน์ ให้พ่อเเม่เขาเห็น
เเต่…...มันจะมีสักกี่คนครับ ที่มาถึงจุดนี้ บางคนเเค่โดนพ่อเเม่ว่านิด ว่าหน่อย เขาก็เลิกเล่น ละ
ในมุมของนักศึกษา เขาเเค่ อยากลองทำในสิ่งที่เขารัก สิ่งที่เขาชอบ เเละการที่เราได้ทำในสิ่งเราชอบ มันก็เป็นความสุขอย่างนึงของชีวิต เรารักในการเรียนรู้สิ่งนี้ ซึ่งแอดมินมองว่า เกมส์ ก็คือการศึกษา ทำ Youtube ก็คือการศึกษา เขียน Blockdit ก็ คือ การศึกษา ทุกๆสิ่งที่เราได้เรียนรู้ไรใหม่ มันคือการศึกษา
เเต่….เเค่ คนนิยามคำว่า การ ศึกษาต่างกัน ในเเต่ละยุคสมัย
เเละ เมื่อ Technology ทำให้ใครหลายๆคน เห็นไรที่เพิ่มมากขึ้น ทำไรที่ไม่เคยทำ Social ของเขาเหล่านั้น ก็จะเปลี่ยนไป…..
Social ที่เราเห็นกันทุกๆวันเลย ก็คือ Page ต่างๆใน Facebook หรือ Blockdit
เราจะอ่าน เสพ หรือ เข้าไปมีส่วนร่วม ในสิ่งต่างๆที่เราชอบ ถ้าคนไหนชอบเกมส์ ก็จะเข้าไปในกลุ่มเกมส์ต่างๆเหล่านั้น ดู Streamer ในเกมส์นั้นๆ พูดคุย เเลก เปลี่ยน สิ่งต่างๆกับคนในนั้น เเลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ ใน Youtube หรือ นัดเจอเล่นเกมส์ในตามร้านต่างๆ ประชุมนอกสถานที่เพื่อวางแผน
ในทุกๆวันนี้เราจะเห็น Community ต่างๆ ที่สร้างเเรงผลักดันให้กลุ่มคนน้อย ที่รู้สึกอยากทำในสิ่งที่เขา รัก เเละ ชอบ เเต่ไม่มีคนผลักดันพวกเขาเหล่านั้น เเละถ้าไม่มีคน ซัพพอตพวกเขา เขาก็ซัพพอตตัวของเขาเอง จนบางที เขาก็อาจจะต้องโกหก ครอบครัว ว่าพวกเขาพยายาม ทำอะไร เล็กๆที่ยิ่งใหญ่กันอยู่
ผมไปได้ยินมา มีนักเเข่งคนนึงที่ประสบความสำเร็จใน ESPORT เขาไม่บอกพ่อเเม่ ว่า เขาจะไปแข่งเกมส์ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมีเงินมูลค่าเป็นล้าน ถ้าเขาชนะ เเต่เขากับบอกเเม่เขาว่า….ลูกไปมหาลัยเเล้วนะเเม่ เพราะ เขากลัวเเม่เขาที่จะคัดค้านไม่ให้ไปแข่ง….มันฟังดูเศร้านะครับ เเต่ มันคือเรื่องจริง
เเต่...Social แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นหรอกครับ ถ้า ไม่มี Technology ที่หนุนเราแบบนี้ จากสมัยก่อนที่ Social จะค่อนข้างเล็ก เพราะ Techology ที่มันล้า ช้า สู่ยุคสมัยใหม่ ที่ทุกอย่างเร็ว ทำให้โลกเปิดกว้างมากขึ้น
และ แอดมินเชื่อว่า ในอนาคตโลก Social จะกว้างมากกว่านี้
เห็นมั้ยละครับ การศึกษา กับ ความรัก ก็คือสิ่งที่เชื่อโยงเข้าด้วยกัน เราอยากเรียนรู้ในสิ่งที่เรา รัก เเละ เรารักที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่เราชอบ น้องๆเพื่อนๆคนไหน ที่เจอ ที่บ้านกดดัน หรือ ไม่ให้ทำ ถึงมันจะยาก เเละ ใช้เวลานาน เเต่ถ้าเรามั่นใจกับทางที่เราเลือก ไปให้เต็มที่ครับ พิสูจน์ให้พ่อเเม่ของเราเห็นว่า เราทำมันได้จริงๆ เเล้วถ้าวันนั้นมาถึง มันจะมีเเต่รอยยิ้ม เเละนี่ คือที่มาของคำว่า “พ่อเเม่ฟังหนูหน่อย”
ส่วนพ่อเเม่ คนไหนที่ยังปิดบังเส้นทางของลูกๆ แอดมินเเค่อยากให้ ลองเปิดใจ เเละ เข้าใจ ถึงโลกต่างๆที่ ลูกเขารัก เเละ ชอบ ว่าจริงๆมันเป็นยังไง เเล้วมันไปได้ไกล ขนาดไหน แอดมินเชื่อว่า ไม่มีลูกคนไหน ที่เขาอยากจะทิ้งอนาคตตัวเองหรอครับ เพียงเเต่ เขาอยากจะลอง เสี่ยงในทางที่เขาชอบ เเละ รัก
เเต่ถ้าพ่อเเม่คนไหนที่ สนับสนุน ลูกตลอดมา แอดมิน ก็ขอเป็นกำลังใจให้ ฝ่าพ้น เรื่องที่ เรวร้ายทั้งหลาย เเล้ว ความสำเร็จจะอยู่เเค่ ข้างหน้าครับ
ถ้าใครที่อ่านมาถึงตอนนี้ อันนี้ คือ ตอนเเรก ในมุมมองของเด็ก เดี่ยวตอนที่ 2 แอดมิน จะมาเขียน ในมุมมอง ของ พ่อเเม่บ้างนะครับ เพราะ เหรียญยังมีสองด้าน เเล้ว อันใด ชีวิตคนเราจะมีเเค่มุมเดียว
ถ้าชอบบทความที่เกี่ยวกับ ปรัชญาความรัก ก็อย่าลืมกด Likes กดShares โพสนี้กับเพจแอดมินได้นะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา