MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย
ภาพสวยด้วยมือเรา
นี่เป็นคอนเทนต์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ ที่ไม่เน้นทฤษฎีนะครับ เป็นการเล่าสู่กันฟังถึงประสบการณ์ และเทคนิคที่ผมใช้เวลาถ่ายภาพมากกว่า
ต้องออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่ช่างภาพมืออาชีพ ทฤษฎีผมไม่ได้แน่น หรือถูกต้องเป๊ะ
ภาพถ่ายผมที่โพสต์ขายใน EyeEm ยังขายไม่ออกเลยสักรูป
และผมไม่คิดว่าตัวเองเป็นช่างภาพมืออาชีพ
ถ้านักข่าว-ช่างภาพอาสาล่ะก็ได้อยู่
ในบทความแรก เรามาทำความเข้าใจ และข้อตกลงกันก่อน
บทความผมจะเน้นการถ่ายภาพจริง ถูกผิดไม่สำคัญ ผมถือว่าทุกภาพถ่ายคือการ
Up Level ตัวเอง
คุณไม่ต้องขวนขวายหาอุปกรณ์ราคาแพง มือถือรุ่นแพง กล้องอย่างดี หรือใช้กล้องโปร มันเป็นการสิ้นเปลือง
ภาพตัวอย่างที่ลงก็มาจากกล้องมือถือทั้งหมดครับ
เอาไว้ถ่ายภาพเก่งค่อยไปพัฒนาให้มันสอดรับกับ Skill ที่เพิ่มขึ้นน่าจะดีกว่า
ผมจะมีแบบฝึกหัดให้คุณไปถ่าย เป็นการฝึกฝนการถ่ายภาพด้วยตนเองจากประสบการณ์ตรงที่เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง Learning by Doing โดยใช้สิ่งง่าย ๆ รอบ ๆ ตัว
และเพิ่มเติมวิธีจัดองค์ประกอบภาพ หรือทำให้ภาพนั้นดูมี ‘อะไร’ มากกว่าเดิม
ภาพนี้พอเห็นนกบินเข้าหาแสงตะวัน ทำให้ภาพน่าสนใจ
ผู้อ่านทั่วไปน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับ ‘คู่มือการถ่ายภาพ’ ซึ่งถ้าคุณเป็นคนอ่านทั่วไปที่
ไม่ได้คิดจะจริงจังกับการเป็นช่างภาพมืออาชีพ
จะรู้สึกว่า “ทำไมมันยากจัง” กับเทคนิคแสนจะมากมาย และยากต่อการจดจำ
ยังมีเรื่องแสง-เงา, ระยะโฟกัสชัดตื้น, ชัดหน้าหลังเบลอร์, อุณหภูมิของสี, ทิศทางของแสง, เวลาอันเหมาะสม ฯลฯ
วันก่อนเจ้าของไอเดียเริ่มต้น หมูน้อยออมสิน ถ้าผมเรื่องจุดตัด 9 จุด
ผมสารภาพเลยว่า ผมลืมมันไปหมดแล้ว เพราะเวลาถ่ายภาพจริง ผมมีทฤษฎีที่ติดตัวมา บวกประสบการณ์ในการถ่ายภาพ และผมใช้ความรู้สึกในการถ่ายภาพมากกว่า
ภาพการแสดงยามค่ำคืน ถ่ายยาก
เมื่อมันมีภาพที่คิดผุดในหัวโดยอัตโนมัติผมก็จะถ่ายออกมาตามภาพที่ผมคิด
ผมเรียกวิธีถ่ายภาพของผมว่า “ภาพออโต้ในหัว” และผมก็ใช้ภาพที่ผุดขึ้นในความคิดเวลาเขียนนิยายด้วยเหมือนกัน
ผมถ่ายภาพบ่อยมาก เรียกว่าทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในชีวิตประจำวันด้วยกล้องจากมือถือ
หรือการตั้งใจถ่ายภาพด้วยการสะพายกล้อง DSLR (Digital Sigle Lens Reflex) ไปตระเวนถ่ายภาพตามที่คิดไว้
เรียกว่าถ้าผมเดินผ่าน แล้วมองไปที่อะไรสักอย่างแล้ว “ภาพออโต้ในหัว” เกิดขึ้น ผมก็หยิบมือถือมาถ่ายได้เลย
ทำไมต้องถ่ายภาพบ่อย?
มันคือการฝึกฝน อะไรที่คุณทำซ้ำบ่อย ๆ มันจะกลายเป็น “ทักษะ” ของคุณ
“ทักษะ” ที่ถูกฝึกฝนบ่อย ๆ ใช้งานบ่อย ๆ จะกลายเป็น “สัญชาตญาณ”
ซึ่งผมว่ามันก็ใกล้เคียงกับ “ภาพออโต้ในหัว” ของผมนั่นล่ะ
เลือกจัดภาพและมุมกล้องใก้น่าสนใจขึ้น
ถ่ายภาพอะไรดี?
เริ่มต้นถ่ายอะไรก็ได้ที่คุณอยากถ่าย ซึ่งผมว่าคุณก็ถ่ายอยู่แล้ว เช่น ภาพเซลฟี่ตนเอง, ภาพเครื่องดื่ม-อาหารที่ทาน, วิวที่คุณเห็นบนสถานีรถไฟฟ้า-ท่าเรือ ฯลฯ
เราก็เริ่มจากสิ่งใกล้ตัวนี่ล่ะครับ ใช้กล้องมือถือถ่ายภาพที่ต้องการ
เพียงแต่ในการถ่ายครั้งต่อไป คุณอาจต้องทำอะไรเพิ่มเติมจากเดิมเล็กน้อย
เน้นสีสันที่เป็นธรรมชาติ
ถ้าอยากเป็นช่างภาพเก่ง ๆ
คุณต้องศึกษาเพิ่มเติม เรียนรู้ทฤษฎีเหล่านั้น แล้วไปทดลองถ่ายภาพตามแต่ละบท
เพื่อพัฒนาฝีมือของคุณต่อไป
ถ่ายรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ถ่ายรูปด้วยมุมเสยภาพขึ้นไป จะให้ความรู้สึกขลัง น่าเคารพ ใช้กบับอนุสาวรีย์, อาคารสูงก็ได้เช่นกัน
การสมัครแอพ หรือชุมชนถ่ายภาพ มีส่วนช่วยเปิด “มุมมอง” , “ไอเดีย” และ “แรงบันดาลใจ” ในการถ่ายภาพ
ไปงานแสดงทางศิลปะ ตามหอศิลป์ต่าง ๆ แล้วไปถ่ายภาพผลงานศิลปะ โดยเฉพาะภาพประติมากรรม
เบลอร์ภาพด้านหลังบนผนังเพื่อสร้าง Balance ให้รถ
ภาพนี้ต้องการให้ใบไม้ที่มุมขวาบนและซ้ายล่างติดมาในภาพด้วย
มันจะช่วยฝึกมุมมองในการถ่ายภาพของคุณเป็นอย่างยิ่ง
ผมได้มุมมองภาพถ่ายก็จาก ‘หอศิลป์’ นี่ล่ะครับ
แต่ถ้าคุณต้องการแค่ “อยากถ่ายภาพออกมาสวย”
คุณยังจำเป็นต้องศึกษาทฤษฎีพื้นฐานบางเรื่องที่ควรต้องรู้เพื่อที่เวลาถ่ายภาพจะได้ออกมาดีขึ้น สวยขึ้น น่าสนใจขึ้น
การฝึกฝนถ่ายภาพบ่อย ๆ จะช่วยทำให้คุณพัฒนามากขึ้น
ภาพยามค่ำคืน ถ่ายจากบนสะพาน
ภาพนี้ใช้แนวเสธงเป็นเส้นนำสายตาไปที่องค์พระ
ทำไมภาพถ่ายของเขาสวยจัง?
เคยไหมที่เวลาเราเห็นภาพถ่ายของใครบางคนแล้วเรารู้สึกว่ามันสวยจัง ทำไมเราถ่ายไม่สวยขนาดนี้
ผมก็รู้สึกบ่อยไป ขนาดมีคนบอกว่าผมถ่ายภาพสวย ผมก็ยังคิดว่า มีคนถ่ายสวยกว่าผมตั้งเยอะ
ดังนั้น ไม่แปลกถ้าเราจะรู้สึกว่า ภาพถ่ายคนอื่นทำไมสวยกว่าภาพถ่ายของเรา
จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ภาพมันสวยได้คือ “มุมมอง”
สร้างกรอปภาพในภาพที่ต้องการจะถ่าย
และสิ่งที่สำคัญที่ช่างภาพควรมีคือ “มุมมอง”
“มุมมอง” จะช่วยให้ภาพถ่ายนั้นเกิดความน่าสนใจ เกิด Story เกิดแรงดึงดูดของคนที่ได้เห็นภาพถ่าย
และนั่นล่ะที่ทำให้เรารู้สึกว่า “ทำไมเขาถ่ายภาพสวยจัง”
ต่อไปเราลองมาดูภาพถ่ายที่ผมนำมาเป็นตัวอย่างพร้อมคำอธิบายนะครับ
ถ่ายภาพทิวทัศน์
ให้เส้นขอบฟ้า อยู่เหนือ หรือต่ำกว่ากึ่งกลางภาพ ควรถ่ายภาพแนวนอนมากกว่าแนวตั้ง
เส้นขอบฟ้า อยู่ต่ำกว่ากึ่งกลางภาพ
เส้นขอบฟ้าอยู่เหนือกึ่งกลางภาพ
ภาพถ่ายอาหาร
หามุมเหมาะ ๆ ใส่เพื่อเพิ่มลูกเล่นในภาพ
ถ่ายเฉียงเล็กน้อย ใช้กระดาษมาตกแต่ง จัดมุมกล้องไม่ขนานกับโต๊ะ
ใช้แว่นตาวางข้าง ๆ ถ้วยไอศครีม ป้ายอะครีลิกเป็นฉากหลังเล็กน้อย หันช้อนไปอีกด้าน น้ำหนักช้อนกับแว่นทำให้ไอศครีมเด่นขึ้น ใต้ถ้วยไอศครีมมีกระดาษทิชชู่รองไว้ สังเกต ถ้วยไม่ไดวางกึ่งกลางกระดาษ
แนวตั้งก็ถ่ายได้ บนจานมีลูกเล่นอยู่แล้ว เบลอร์ขวดกัลแก้ว ไอศครีมก็เด่นแล้ว ไม่ต้องทำเยอะ
ทิ้งพื้นที่ว่าง
สร้างพื้นที่ว่างให้ภาพ เพราะภาพถ่ายไม่จำเป็นต้องมี Balance ที่สมดุลย์เสมอไป
เรารู้สึกได้ว่านักแสดงกำลังจะเคลื่อนไปทางขวา
ชาลี แชปปลิน อยู่ทางขวาของภาพ
เซลฟี่ตัวเอง
ลองย้ายตัวเองไปอยู่มุมใดมุมหนึ่งของภาพ
เปลี่ยนมุมภาพแนวตั้งเป็นแนวนอน
แล้วหาฉากหลังทำให้เราเด่นขึ้น
ส่วนท่าทางไปโพสต์เอง ผมไม่เก่งเรื่องนี้
ภาพนี้จะมีฉากหลังลึกสองจุด ลึกกลางคือเสา และลึกในสุดคือจอทีวี ทำให้ภาพดูลึก ในขณะที่ตัวเราเด่นสุด
ภาพชวนคิด
ความต่างในสังคม
เจดีย์วัด คือ ความสงบ
ตึกคอนโด คือ สังคมเมือง ความเจริญ
ภาพนี้เน้นความต่าง
ภาพเน้นความรู้สึก
เหงา...อ้างว้าง
คู่ชีวิต
พอจะเห็นภาพคร่าว ๆ นะครับ ในบทความต่อไป เราค่อยมาคุยกันในรายละเอียดของการถ่ายภาพแต่ละประเภทกันนะครับ
ก่อนจากกัน ผมมี Workshop ให้ทำกันเล็กน้อย
ถ่ายภาพอาหารที่คุณกำลังจะทาน 2 ภาพ
Before
หามุมกล้องที่เหมาะสมในการถ่ายภาพอาหารจานนั้น แล้วก็ถ่ายภาพนั้น
ภาพบน กล้องอยู่เหนือจาน ภาพล่างกล้องเฉียงกับจาน
After
จัดองค์ประกอบของภาพ อาจจะหาพรอพอื่น ๆ มาใส่ในภาพรวมกับอาหารจานเดิม แล้วถ่ายภาพอีกครั้ง
เพิ่มเครื่องดื่มเข้าไป
ย้ายมาวางบนโต๊ะที่ปูผ้าสีแดง
ถามตัวเองว่า ชอบรูปไหนมากกว่ากัน และเหตุผลที่ชอบรูปนั้นเพราะอะไร
ลองทำดูนะครับ
อ้อ...อย่ามัวแต่มุ่งมั่นถ่ายรูปจนลืมทานอาหารจานนั้นล่ะ มันมีอีกตั้งหลายมื้อให้ถ่ายนะครับ
ขอให้สนุกกับการถ่ายภาพครับ
ภาพสวยด้วยมือเรา
มูฟวี่
ขาว-ดำ นอนหันหัวไปคนละข้าง สังเกตภาพนี้มุมกล้องไม่ขนานไปกับขั้นบันได
บทความเกี่ยวกับภาพถ่ายที่เคยลงครับ สนใจเข้าไปอ่านได้นะครับ
- 4
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
