18 พ.ค. 2020 เวลา 15:50 • สุขภาพ
❗❗❗Breaking News ❗❗❗
ผลทดสอบเบื้องต้น mRNA-1273 วัคซีนป้องกัน COVID-19 ออกมาน่าพอใจ คาดปลายปีนี้อนุมัติให้ใช้กรณีฉุกเฉิน
..สรุปประเด็นที่น่าสนใจ...
3
ผลการทดสอบ mRNA-1273 วัคซีนป้องกัน COVID-19 ออกมาน่าพอใจ : businessinsider
ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ Moderna บริษัทยาสัญชาติอเมริกันได้แถลงความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนออกมาให้เราทราบแล้วครับ
1
1. วัคซีนดังกล่าวอาศัยเทคโนโลยีของ mRNA ซึ่งคาดว่าจะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียงเมื่อเทียบกับการผลิตวัคซีนในอดีต ที่สำคัญคือการพัฒนาวัคซีนแบบนี้สามารถทำได้เร็วกว่ามาก
1
2. อาสาสมัครคนแรกในการวิจัยได้รับวัคซีนเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลากว่า 63 วันแล้วหลังจากวัคซีนเข็มแรกได้ถูกฉีดเข้าไปในมนุษย์
3. ช่วงไม่กี่วันก่อนองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติแผนการศึกษาในระยะที่ 2 ของวัคซีนดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการ Fast Track จากการพิจารณาข้อมูลผลการศึกษาเบื้องต้นที่บริษัทยายื่นต่อ FDA
Timeline ของการเริ่มพัฒนาวัคซีน : voathai
4. ข้อมูลที่เผยออกมาในวันนี้ยังเป็นข้อมูลเบื้องต้นของการทดลองในระยะที่ 1 เพื่อหาขนาดวัคซีนที่เหมาะสมสำหรับกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อโรค COVID-19
5. การศึกษาทำในอาสาสมัครที่มีอายุระหว่าง 18-55 ปี ทั้งหมด 45 คนซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มเท่าๆกัน แต่ละกลุ่มจะได้รับวัคซีนขนาด 25,100 และ 250 mcg คนละ 2 เข็มโดยเข็มแรกและเข็มที่สองจะห่างกัน 28 วัน
1
6. ผ่านไป 15 วันหลังได้รับวัคซีนเข็มแรกพบว่าสามารถตรวจพบ antibody ที่จำเพาะกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ในอาสาสมัครทุกๆราย
7. ในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนขนาด 25 mcg หลังได้รับวัคซีนเข็มที่สองผ่านไป 2 สัปดาห์พบว่ามีระดับของ binding antibody ที่ใช้จับกับเชื้อไวรัสในระดับเดียวกันกับผู้ป่วยที่หายจาก COVID-19 ซึ่งกลุ่มที่ได้วัคซีน 100 mcg มีระดับ
ของ binding antibodies สูงกว่าคนที่หายป่วยอย่างชัดเจน
ทีมวิจัยสรุปว่ายิ่งให้ขนาดสูงการกระตุ้นภูมิคุ้มกันยิ่งเกิดได้มาก
**Binding antibody คือ antibody ที่ไปจับกับไวรัสได้แต่อาจไม่ได้มีผลป้องกันการติดเชื้อ**
8. สำหรับ neutralizing antibody (NAb) ซึ่งเป็น antibody ที่ไปจับกับไวรัสได้แบบจำเพาะและยับยั้งไม่ให้เซลล์เกิดการติดเชื้อสามารถตรวจพบได้ในอาสาสมัครทั้งหมด 8 ราย
9. ประกอบกับข้อมูลการศึกษาของสถาบันสุขภาพแห่งชาติอเมริกา (NIH) ซึ่งพบว่าหนูทดลองที่ได้รับวัคซีน สามารถป้องกันการเพิ่มจำนวนของไวรัสในปอดได้ สอดคล้องกับการตรวจพบ neutralizing antibody ในคนที่ได้รับวัคซีน ทำให้มีแนวโน้มว่าวัคซีนจะสามารถป้องกันการติดเชื้อในคน
10. ในแง่ความปลอดภัย ด้วยข้อมูลในขณะนี้พบอาการข้างเคียงน้อยมาก เช่น มีอาสาสมัครเพียง 1 รายที่มีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด และในกลุ่มที่ได้วัคซีนขนาดสูง 250 mcg มี 3 รายที่เกิดอาการบวมแดงรุนแรงแต่อาการดังกล่าวสามารถหายไปได้เอง
ระยะต่อไปคาดว่าทีมวิจัยของ Moderna จะเร่งทดสอบวัคซีนในระยะที่ 3 ในกลุ่มอาสาสมัครที่มากขึ้นช่วงเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ซึ่งหากผลออกมาเป็นไปในเชิงบวก คาดว่าวัคซีนจะขออนุมัติให้ใช้กรณีฉุกเฉินช่วงปลายปี
แต่ผลที่เกิดขึ้นตอนนี้คือหุ้นของบริษัท (MRNA) จดทะเบียนในตลาด NASDAQ ได้พุ่งสูงขึ้นเกือบ 30 % เข้าไปแล้ว
ยังต้องตามกันต่อไปครับว่าความหวังที่ถูกจุดขึ้นมานี้ จะทำให้การระบาดจบลงได้เร็วแค่ไหน เพราะยิ่งกินเวลานานยิ่งมีคนป่วยและเสียชีวิตอีกมากครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามฝากกดไลค์กดแชร์
เพื่อเป็นกำลังใจให้กันได้ครับผม ^^
References :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา