28 พ.ค. 2020 เวลา 10:52 • สุขภาพ
กว่าผมจะรู้จัก...Resident Evil
หนังซอมบี้บู๊ระห่ำแตกในตำนาน ที่อยู่คู่กับผมเป็นเวลานานตั้งแต่วันนั้น
จนถึงวันนี้...
ขอเกริ่นก่อนเลยว่าบทความนี้จะมีความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆที่มีต่อภาพยนตร์ชุดนี้ ดังนั้นจะไม่ค่อยมีเกล็ดความรู้เกี่ยวกับหนังมาก จะเน้่นความรู้สึกของผม
มากกว่า
อีกอย่างผมโตกับหนังชุดนี้มาก ถ้าผมบอกว่ารักมากๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องที่แปลกมากชะเท่าไร (เพราะคนเกลียดหนังชุดนี้ก็เยอะมาก 55) ดังนั้นผมจะเล่าความรู้สึกตั้งแต่่ เห็นครั้งแรก/ได้ชม/หลังดู/และผลที่ตามมา กันนะครับ
*หลังจากนี้อาจเผยเนื้อหาหนังบางส่วนครับผม*
ภาพยนตร์เรื่อง Resident Evil ผีซีวะ ภาคแรก ได้เข้าฉายบ้านเราในวันที่ 5 เมษายน 2545 ซึ่งแอดไม่ทันตอนดูในโรงหรอก (ตอนนั้นเด็กมากสมัยอนุบาลนู่นน) มารู้จักอีกที่ตอนพ่อซื้อแผ่นดีวิดีเรื่องนี้มากให้
(แผ่นสมัยแมงป่องยีงซื้อลิขสิทธิ์จัดจำหน่าย)
พร้อมกับเรื่องอุลตร้าแมนคอสมอส เดอะมูฟวี่ 555+ (ถ้าจำไม่ผิดพ่อเคยยืมเพื่อนมาดูก่อน แต่เป็นแผ่นปลอมนอกมั้ง โหหหห แผ่นปลอมนอกคือสมัยก่อนทำหรูมาก) ตอนที่เห็นรูปปกตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นหนังซอมบี้น่ากลัว ก็ดูสิเป็นภาพผู้หญิงสวยๆถือปืนโตๆ
ไอ้เราก็นึกว่าเป็นหนังบู๊วาบหวิวสวยๆทั้วไป (อารมณ์สายลับประมาณนั้น)
*ปกแผ่นหนังก็จะประมาณนี้แหละครับ*
แหมมมม...ก็ตอนเด็กใครจะไปรู้เนอะ
พอเริ่มด้วยชีนเปิดตัวก็เริ่มแอ๊ะใจแล้ว ว่าไม่ใช่หนังแอคชั่นแน่ๆ
เพราะภาพบรรยากาศมันน่ากลัวมาก ไหนจะชีนตุ้งแซ่เป็นประปราย
ก็ยังดีที่มีชีนบู๊ระห่ำแตกให้หายกลัวขึ้น
เอาจริงๆนะหนังเรื่องนี้ถ้าจะให้ถามว่าซีนไหนติดตาสุด
สำหรับผมคงตอบยากมากแน่ๆ เพราะมันติดตาและน่าจดจำทุกฉาก อะชีน
เปิดก็ติดตาแล้วหนึ่ง ชีนนางเอกตื่นขึ้นมา เอ้ามาแล้วสอง ซีนเลเชอร์ตัดขาดสองท่อน อีกสามละ
พูดง่ายๆคือติดตาทั้งเรื่องครับท่านผู้ชมมมมม
ก - เมื่อกี้มันติดไหมละ
ข - ติดสิติดทนนานเลย
55555555+
ซีนเลเชอร์ในตำนานนนนนนน
ฟาดมันไปเลยแม่
โอเคผมขอพูดเรื่องนางเอกสุดสตรองคนนี้หน่อย หนังเรื่องนี้ได้นักแสดงสาว มิลลา โยโววิช หลังจากที่ได้แจ้งเกิดในภาพยนตร์เรื่อง The Fifth Element
เธอก็ได้รับเล่นภาพยนตร์เรื่องพร้อมฝึกฝนคิวบู๊อย่างหนัก จนได้กลายเป็นสาวบู๊ในตำนานจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งตอนแรกไม่รู้จักชื่อนางจริงๆ
มารู้จักซื่อตอนภาค 2 แหละ
ซึ่งในในภาคนี้นางได้ชีนไอคอนนิคเยอะเหมือนกันนะ นับตั้งแต่ชุดเลย ชุดแดง พร้อมรองเท้าบู๊ทใหญ่ๆ แถมด้วยเสื้อแจ็กเก็ทสีดำ ซึ่งมันเป็นชุดที่สวย
และเท่มากและที่สำคัญ
สามารถหาซื้อมาใส่คอสตูมง่ายมาก พร้อมกับซีนบู๊เท่ๆอาทิเช่น ชีนเตะน้องหมาเป็นต้น 555 โอโหหห ไอคอนนิคมาก ตอนนั้นคือกรอกลับมาดูชีนนี้
บ่อยมากกกกกก
มันเป็นชีนที่เท่มากๆ มีความชิงไหวชิงพริบ น้องหมามาปุ๊ป แม่ไม่รอช้าโดด
ถีบน้องแ*ง 5555 แล้วยิ่งชีนตอนจบก็คือออ....ซึ่งหลังจากนั้นแหละ
ผมก็ Stan ขุ่นแม่มิลล่าตั้งแต่ตอนนั้นเลยครับ
มีสิ่งที่น่าจดจำไม่แพ้ชีนบู๊ระห่ำแตก คือบทเพลงสกอร์ที่ได้มือประพันธ์อย่าง Marco Beltrami ได้ร่วมงานกับ Marilyn Manson.
ซึ่งผมชอบงานเพลงประกอบเรื่องนี้มาก
เพราะตัวเพลงมันให้อารมณ์ลึกลับน่าค้นหา และในเวลาเดียวกันก็ทำให้เรา
ต้องลุกออกมาเต้นได้เช่นกัน 55+ เพลงบ้าอะไรมันส์มากจนลืมไปเลยว่าเป็นหนังสยองน่ากลัวๆ แต่เสียดายหลังๆไม่มีใครเอามารีมาสเตอร์ลงดิจิตอล
มิวลิทสตรีมมิ่งเลยอ่า
ส่วนตัวด้านบทส่วนตัวว่าชอบมากเลยนะ แรกๆบทจะมีแค่เกมเอาชีวิตรอดก็
ไม่วาย มีมุขหักมุมตามมาให้ซ็อคกันนิดๆ ซีนแอ็คชั่นก็ทำได้ลุ้นระทึกและ
มันส์มากๆ พร้อมบทสรุปปูไปภาคต่อได้ดีไม่รู้สึกว่ามันขาดตอนเหมือน
ภาคหลังๆ ที่เล่าเรื่องไม่เชื่อมกันชะทีเดียว จึงไม่แปลกใจคนถึงเทใจเป็น
เสียงเดียวกันว่าภาคนี้เป็นเดอะเบสของแฟรนไซน์ชุดนี้ไปเลย
หลังจากภาคนี้ไป มันก็โตไปกับผมจนถึงภาคสุดท้าย ถึงแม่บางภาคจะชอบ
มากชอบน้อยต่างกันไป แต่การที่ผมโตมากับแฟรนไซน์ชุดนี้มาตลอด ทำให้ผมไม่คิดว่าหนังชุดนี้ห่วยเลย มันเหมือนกับเพื่อนรัก เพื่อนที่ร่วมเดินทางกันมาจนถึงตอนสุดท้าย ผมก็โชคดีมากๆที่ได้ชมภาคสุดท้ายในโรงภาพยนตร์แน่นอนบทมันไม่ได้เลยแปลกใหม่มากแถมกับบทเฉลยที่โคตรจะแถ 555
แต่มันก็ทำให้ผมประทับใจกับภาคสุดท้ายอยู่ดี ทำให้ผมกล้าบอกได้เลยง่าเป็นภาคสุดท้ายที่สมศักดิ์ศรีที่สุดไม่แพ้อเวนเจอร์เลยทีเดียว
ก่อนจะจบบทความนี้ผมต้องขอขอบคุณ ผัวเมีย ขุ่นแม่มิลล่า กับ ขุ่นพ่อพอล
ด้วยที่สร้างสรรค์เฟรนไชน์หนังชุดนี้ออกมาก ตั้งแต่ภาคแรกยันภาคสุดท้าย
มันทำให้ชีวิตผมมีชีวิตชีวามากขึ้น (สิ่งที่พูดเหมือนจะเวอร์แต่ผมรู้สึกแบบนี้
จริงๆ) และผมต้องขอบคุณ เพจ JUSTดูIT ที่ได้ทำคลิปพิเศษที่ทำให้ผมได้
แรงบันดาลใจในการเขียนบทความนี้ด้วยนะครับ...
โฆษณา