31 พ.ค. 2020 เวลา 08:05 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
TENET ภาพยนตร์ที่อ้างอิงทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์
ภาพยนต์ไซไฟสุดล้ำ จากผู้กำกับฝีมือระดับพระกาฬอย่าง Christopher Nolan กับภาพยนต์ที่ชื่อว่า "TENET" หนังแนวสายลับที่แทรกไปด้วยทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์ผนวกกับจินตานาการที่น่าตื่นตาตื่นใจ กับทุนสร้างสูงที่สุดในชีวิตการกำกับภาพยนต์ของเขา ด้วยทุนสร้างถึง 225 ล้านเหรียญฯ
ในปี 2014 เขาได้เปิดตัว อินเตอร์สเตลลาร์ (Interstellar) เป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ โดยมีเนื่อเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีสัมพันธภาพและหลุมดำ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางในอวกาศโดยผ่านทางรูหนอน ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่แฟน ๆ ต่างชื่นชอบและประทับใจอย่างมาก
Cr. Wallpaper Abyss
คอนเซ็ปท์การสร้างภาพยนตร์ของเขามักจะอ้างอิงจากทฤษฏีที่มีการรับรองจากนักวิทยาศาสตร์ แต่ยังคงรอคอยการพิสูจน์ ให้มาเกี่ยวข้องกับตัวภาพยนตร์ ซึ่งเป็นจุดเด่นและน่าสนใจสำหรับผู้ที่หลงใหลในวิทยาศาสตร์
แต่ในปี 2020 นี้ เขาได้เปิดตัวภาพยนต์ "TENET" ผ่านคอนเซ็ปท์ที่เรียกว่า การย้อนกลับ (Inversion) แม้เนื้อหาของหนังยังไม่ถูกเปิดเผยมากนัก แต่จากตัวอย่างที่เห็นก็ทำให้เราได้รู้ว่าภาพยนตร์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับเวลา อาจจะเป็นการย้อนเวลาหรือการควบคุมเวลา
1
Cr. WallpaperAccess
จากคอนเซ็ปท์ของเขาที่มักจะอ้างอิงกฎของวิทยาศาสตร์ทำให้ตัวอย่างที่ปล่อยออกมานั้นอาจจะมีอะไรบางอย่างที่กำลังบอกเราอยู่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ในหนังเรื่องนี้
จากตัวอย่างหนังทำให้พบว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ การทดลองในจินตนาการ (Thought Experiment) ของ เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวลล์ (James Clerk Maxwell) เจ้าของทฤษฎีว่าด้วยการแผ่รังสีของแม่เหล็กไฟฟ้า ดังภาพที่ปรากฎในวิดีโอตัวอย่าง บนกระดานที่มีการวาดรูปของแผนภูมินี้ไว้
Cr. Pinterest
แผนภูมิทางความคิดที่เห็นในตัวอย่างภาพยนตร์ก็คือ ปีศาจของแมกส์เวล (Maxwell's Demon) จากการคาดเดาอาจจะโยงไปสู่ เอ็นโทรปี (Entropy) ในกฎข้อที่ 2 ของอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamics) ที่อธิบายถึงความสูญเสียความสามารถในการทำงานของระบบ หรือใช้เปรียบเทียบความไม่เป็นระเบียบของระบบ และมักจะเดินไปข้างหน้าและย้อนกลับไม่ได้
ทุกการกระทำ ทุกเวลาของทุกสรรพสิ่ง ในจักรวาล ล้วนส่งผลให้เอนโทรปีเพิ่มขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่เกิดบิกแบง (Big bang) สสารและพลังงาน ก็เกิดการผสมกันอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิด และดับไป อันเป็นกฎของธรรมชาติ และในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจเป็นไปได้ที่จะนำทฤษฏีนี้มาต่อยอดอีกครั้ง ถ้าหากมนุษย์สามารถควบคุมเอนโทรปีให้ลดลงได้เหมือนกับ ปีศาจของแมกส์เวล
Maxwell’s demon นั้นเกิดจากความต้องการที่จะทำลายเอนโทรปี ในการทดลองทางความคิดนี้ ให้ภายในกล่องที่แบ่งเป็นสองห้อง โดยมีที่ประตูเล็กๆกั้นตรงกลาง มีโมเลกุลก๊าซที่เคลื่อนที่ไปมา มีทั้งเคลื่อนที่ช้าและเคลื่อนที่เร็วรวม ๆ กันทั้งสองฝั่ง ซึ่งอุณหภูมิทั้งสองฝั่งจะมีค่าเท่ากัน
1
Maxwell’s Demon : Cr. Good morning science
และจะมีปีศาจ (หรืออุปมาว่าอาจจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติบางอย่าง เป็นเครื่องจักร เป็นคนที่รู้ความเร็วของโมเลกุลแก๊สทั้งหมด หรือจะเป็นปีศาจ ที่ก่อกวนกฎฟิสิกส์ของเอกภพ) คอยควบคุมประตูเล็ก ๆ กั้นระหว่างห้อง เพื่อที่จะให้โมเลกุลที่เคลื่อนที่เร็วและช้าซึ่งปะปนกันอยู่นั้น ไปรวมอยู่ด้วยกันตามความเร็วของมัน (เคลื่อนที่เร็วอยู่กับเคลื่อนที่เร็ว เคลื่อนที่ช้าอยู่กับเคลื่อนที่ช้า)
เมื่อเกิดเหตุการณ์ในอุดมคตินี้ขึ้น ด้านที่โมเลกุลของก๊าซเคลื่อนที่เร็วก็จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นส่วนด้านที่โมเลกุลเคลื่อนที่ช้าอุณหภูมิก็จะค่อยๆลดลง ซึ่งถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้จริง มันแทบจะไม่ต้องใช้พลังงานอะไรเลยในการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ส่งผลให้กฎของเอนโทรปีถูกทำลายลง
เนื่องจากตามกฎข้อที่สองของเทอโมไดนามิกส์แล้ว เราไม่มีทางที่จะวางน้ำไว้ที่ไหนสักที่แล้วน้ำสามารถเดือดได้เองโดยไม่ได้ให้พลังงานความร้อนกับมัน หรือ ปล่อยใหน้ำร้อนที่เย็นแล้วให้กลับมาร้อนเหมือนเดิมได้
1
เช่นกัน เมื่อเราเดินบนหาดทรายเราย่อมทิ้งรอยเท้าไว้ข้างหลังเราไม่สามารถเดินถอยหลังเพื่อไปลบรอยเท้าเราได้นอกเสียจากพลังงานของคลื่นทะเลจะมาลบรอยเท้าของเราไป
1
เมื่อกฎถูกทำลายลงนี้เอง ก็จะทำให้สสารและพลังงานรวมถึงทุกเหตุการณ์นั้นสามารถย้อนกลับไปเป็นอดีตได้.
ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดา แต่อย่างไรก็ตาม Maxwell’s demon นั้นจะเกี่ยวข้องกับภาพยนต์หรือไม่ ในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีโครงเรื่องเป็นอย่างไร เป็นภาพยนต์เกี่ยวกับอะไรนั้น เราคงต้องคอยติดตามชมในโรงภาพยนต์ ซึ่งมีกำหนดฉายวันที่ 27 สิงหาคม 2020 นี้ แฟนหนังแนววิทยาศาสตร์ห้ามพลาด !
Cr. Beartai.com
TENET แปลว่า ความเห็น ทฤษฎี หลักการ และข้อบัญญัติเกี่ยวกับศาสนาและปรัชญา
ซึ่งจัดอยู่ในหมวด Palindrome ที่แปลว่า คำหรือวลี ที่สามารถอ่านจากข้างหน้าไปข้างหลัง หรือ ข้างหลังไปข้างหน้าก็จะเป็นคำเดิม
ชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่
ติดตามความรู้ดี ๆ รู้ไว้ไม่เสียหายได้ที่
Reference

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา